WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, September 16, 2008

คิดนอกกรอบ

คอลัมน์ : คัดท้าย
“เชื่อผู้นำ ชาติพ้นภัย” แม้ผมจะเกิดไม่ทันในขณะที่ผู้นำของประเทศไทยได้พูดประโยชน์กับประชาชน แต่พอจะรับรู้รับทราบจากการอ่านว่าใครเป็นคนพูด ซึ่งผมได้นั่งทบทวนดู พอจะจำได้ว่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน “ผมเชื่อผู้นำ มากกว่าอารยะขัดขืน” แต่ “ชาติจะพ้นภัยหรือไม่” ผมเริ่มไม่แน่ใจ เพราะยังไม่มีอะไรพิสูจน์ได้ชัดเจน

วันก่อนผมเชื่อผู้นำที่เป็นนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ นายสมัคร สุนทรเวช ว่าวิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ สามารถคลี่คลายไปได้ด้วยดี ประเทศไทยจะกลับคืนสู่สภาพประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศลงคะแนนให้เป็นประเทศที่น่าเดินทางมาเที่ยวมากที่สุดในโลกและในจักรวาลนี้ หลังจากที่ผู้นำประกาศพระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน แล้วมอบอำนาจทั้งหมดให้กับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นหัวหน้าปฏิบัติตามพระกำหนด ในการดำเนินการอย่างนิ่มนวลกับกลุ่ม 9 กบฏ พาสมุนบุกยึดปู้ยี่ปู้ยำทำเนียบรัฐบาล

แต่เวลาผ่านไปครึ่งเดือนกว่าที่กลุ่มโจรกบฏบุกยึดทำเนียบรัฐบาล ดัดแปลงเป็นฐานที่มั่นให้ผู้หญิงเด็กและคนชราและคนแต่งกายคล้ายพระเป็นโล่ห์มนุษย์ เพื่อให้ 9 กบฏซุกเข้าไปอยู่ใต้ผ้าถุงป้องกันไม่ให้ตำรวจเข้าไปจับกุมตัวตามหมายจับของศาลอาญา

วันวานผมเริ่มไม่แน่ใจกับคำพูดที่ว่า “เชื่อผู้นำ ชาติพ้นภัย” เพราะสถานการณ์ทุกอย่างยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น มิหนำซ้ำกลับเลวลงไปอีก เมื่อผู้นำของผมถูกตุลาการรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เป็นลูกจ้างของบริษัทจัดทำรายการทีวีชิมไปบ่นไป เป็นการกระทำที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ต้องพ้นจากตำแหน่งผู้นำของผมไปทันที โดยไม่มีสิทธิ์รักษาการ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้นำของผมเป็นข่าวไปทั่วโลก คงทำให้ชาวต่างประเทศสงสัยกันไม่น้อยทีเดียวว่า ผู้นำประเทศควงตะหลิวปรุงอาหารออกทีวีขัดรัฐธรรมนูญอย่างไร เพราะในเนื้อข่าวในต่างประเทศ คงไม่ลงในรายละเอียดว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น ได้เหมารวมว่าใครก็ตามรับเงินจากผู้ว่าจ้าง ไม่ว่าประจำหรือทำเป็นจ๊อบๆ ก็ต้องถือว่าเป็นลูกจ้างของบริษัทนั้นทันที

บังเอิญว่าช่วงนี้การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ชิพของอังกฤษได้เปิดฤดูกาลขึ้นมาแล้ว ทำให้คนที่ผมรู้จักอย่าง คุณกิ๊กส์ คุณโรนัลโด้ คุณเฟอร์ดินานด์ ไม่มีเวลาติดตามข่าวจากเมืองไทย จึงไม่ได้สอบถามให้ผมอึดอัดใจ เพราะไม่รู้จะหาคำตอบอะไรมาอธิบายให้ชาวต่างชาติที่ผมรู้จักได้เข้าใจแจ่มแจ้งแดงแจ๋

แน่นอนคำวินิจฉัยชี้ขาดของตุลาการรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ แม้ผมจะต้องเสียผู้นำไปในทันทีทันใดที่สิ้นคำพิพากษา แต่สิ่งที่ได้รับมาก็มีเหมือนกัน แต่เกิดขึ้นกับบรรดาเพื่อนร่วมการสื่อสารมวลชน และบริษัทห้างร้านต่างๆ ที่เชิญบรรดารัฐมนตรีไหปออกรายการต่างๆ ซึ่งต่อไปนี้ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำมันรถในการเดินทางมาสถานี หรือ จ่ายค่าตั๋วเครื่องบินกรณีจัดรายการสัญจร หรือการไปตัดริบบิ้นเปิดป้ายบริษัท ก็ต้องทำกันฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ใครรับค่าน้ำมันรถ ถือว่าเป็นลูกจ้างของบริษัทไปโดยปริยาย เพราะมีบรรทัดฐานไว้แล้ว

วันนี้เมื่อผมยังไม่มีผู้นำที่ถูกต้องตามกฏหมาย ผมก็ต้องไปพึ่งบารมีผู้นำที่ยึดทำเนียบรัฐบาลไว้เป็นฐานกำลังให้ 9 กบฏได้ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าถุงและมีจีวรสีกรักอำพรางตัว

ฯพณฯ ทั่นสุริยะใส กตะศิลา หนึ่งในเก้ากบฏซึ่งถือว่าเป็นผู้นำคนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรทำลายประชาธิปไตย ดีใจจนหน้าดำเมื่อตุลาการรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายสมัคร สุนทรเวช กระทำการขัดกับรัฐธรรมนูญ จึงประกาศก้องอาณาจักรกบฏว่า กลุ่มพันธมิตรฯ จะยึดทำเนียบรัฐบาลชุมนุมต่อไป เพราะแปลงนาเพิ่งจะปักดำ ต้องรอให้ข้าวออกรวงสุกพอที่จะเกี่ยวได้ จึงจะคิดกันอีกครั้งว่าจะคืนซากทำเนียบรัฐบาลให้รัฐบาลไทยหาเงินมาบูรณะกันขนานใหญ่

เพราะฉะนั้นกลุ่มพันธมิตรฯ จะไม่รับนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ที่เคยร่วมกับรัฐบาลหุ่นเชิดตั้งแต่อักษร ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูก

เมื่อนักข่าวถามว่าถ้างั้นให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นขั้วจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพื่อให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ฯพณฯ ทั่นสุริยะใส คงรู้ว่านักข่าวถามประชด หรือขุดบ่อล่อปลา เพราะ ฯพณฯ ทั่นสุริยะใส มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับนักข่าวหลายต่อหลายคน จึงเข้าใจคำถามดี จึงออกอาการหน้าดำตาแดง สั่งให้นักข่าวรู้จักคิดนอกกรอบบ้างสิว่า อย่าคิดวนเวียนอยู่แต่นักการเมืองเก่าๆ วนไปเวียนมา สมัคร บรรหาร ชวน ชวลิต บรรหาร ชวลิต ชวน สมัคร

เมื่อ ฯพณฯ ทั่นสุริยะใส ทำหน้าดำตาแดงใส่กล้องทีวี บังเอิญผมดูทีวีอยู่พอดี ในเมื่อวันนี้ผมยังไม่มีผู้นำ ผมก็ต้องโมเมเอาเองว่า ผู้นำสั่งให้ผมคิดนอกกรอบ คิดถึงการเมืองใหม่ ไม่ให้เอ่ยชื่อนักการเมืองเก่าซ้ำๆ ซากๆ เพราะไม่ว่าใครจะได้รับการเสนอชื่อบรรดา ฯพณฯ ทั่น 9 กบฏ ประกาศชัดเจนแล้วว่าไม่รับ จะปักหลักยึดทำเนียบต่อไป

บอกกันตรงๆว่า คำสั่งของผู้นำให้ผมคิดนอกกรอบ เป็นงานหนักของผมจริงๆ เพราะแนวคิดการเมืองใหม่ที่ ฯพณฯ ทั่น 9 กบฏ กำหนดไว้นั้น ไม่ว่าจะให้มีการแต่งตั้ง ส.ส. 70 เปอร์เซ็น มาจากทุกสาขาอาชีพ ซึ่งทั่วโลกเขาไม่ได้เรียกว่าผู้แทนราษฎร แต่เขาเรียกว่าตัวแทนจากสาขาอาชีพ และให้เลือกตั้ง ส.ส. 30 เปอร์เซ็นต์ ยังมีประเทศใดในโลกและในจักรวาลนี้ใช้ระบบนี้บ้าง จะได้นำมาศึกษาเป็นแนวทางในการคิดนอกกรอบตามคำสั่งของทั่นผู้นำขณะนี้

เท่าที่ผมคิดนอกกรอบได้ขณะนี้ ไม่ทราบว่าตรงกับใจทั่นผู้นำหรือไม่ คือ ให้กบฏสนธิ เป็นผู้จัดการประเทศไทย ให้กบฏจำลองเป็นผู้นำประเทศ ให้สมณะโพธิรักษ์เป็นผู้นำศาสนา และให้ฟื้นระบบ เวียง วัง คลัง นา เพื่อให้กบฏที่เหลือแบ่งกันปกครอง

ผมคิดได้แค่นี้แหละครับ ฯพณฯ ทั่นผู้นำ

พิธาน คลี่ขจาย