WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, June 12, 2009

แก๊ง ออฟ โฟร์ 2009 ต่ออายุใคร?

ที่มา บางกอกทูเดย์

แก๊ง ออฟ โฟร์” กลายเป็นคำพิเศษประจำแวดวงการเมืองไทยไปแล้ว เพราะเปิดขึ้นมาทีไร เป็นต้องสะเทือนเลื่อนลั่น พล่านกันไปทุกทีทั้งๆ ที่คำๆ นี้เป็นตำนานที่น่าสนใจยิ่งทางการเมือง แต่เป็นตำนานการเมืองจีนแก๊ง ออฟ โฟร์ (Gang of Four) ถือเป็นคำเปรียบเทียบบุคคล 4 คน ในพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่มีบทบาทสำคัญในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม (ค.ศ.1966-1976) ประกอบไปด้วย เจียงชิงภริยาคนที่ 3 ของ ประธานเหมาเจ๋อตุง แห่งพรรคคอมมิวนิสต์นักการเมืองเซี่ยงไฮ้ คือ จาง ชุนเฉียว กับ หวัง หงเหวินและ เหยา เหวินหยวน อดีตนักหนังสือพิมพ์ที่ผันตัวมาเล่นการเมืองทั้ง 4 คนเข้ามารวมตัวกันอย่างจริงจังเมื่อการปฏิวัติดำเนินไปช่วงหนึ่งแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นบทบาทและความทะเยอทะยานทางการเมืองของแต่ละคนในการช่วงชิงอำนาจ ต้องถือว่าไม่ด้อยไปกว่ากันเลยเจียงชิง มีชื่อเดิมว่า หลี่หยุนเฮ่อ เป็นคนเมืองจูเฉิงในมณฑลซันตง โอกาสสำคัญบนถนนการเมือง คือ การเป็นภริยาของ ประธานเหมาเจ๋อตุง ซึ่งทำให้นางครองตำแหน่งสูงทางการเมือง และในช่วงปลายของชีวิตประธานเหมา นางกับพรรคพวกได้กีดกันผู้นำพรรคคนอื่นๆ ที่เป็นปรปักษ์ไม่ให้เข้าใกล้ประธานเหมา และเป็นปฏิปักษ์กับทั้ง โจวเอินไหล และ

เติ้งเสี่ยวผิง ทำให้ถูกมองว่าเป็นแกนนำหลักของแก๊ง 4 คนที่นำอำนาจของสามีไปใช้ในทางที่ผิดจนเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 1976 หลังอสัญกรรมของ เหมาเจ๋อตุงไม่ถึง 1 เดือน เติ้งเสี่ยวผิง ร่วมมือกับ นายพลเยี่ยเจี้ยนอิงและพรรคพวก วางแผนเข้าจับกุมแก๊ง 4 คน และในเดือนกรกฎาคม1977 ในที่ประชุมเต็มคณะพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 10 วาระที่ 3ก็ได้มีมติยกเลิกสถานภาพภายในพรรคของ เจียงชิง ไปตลอดกาลรวมถึงเพิกถอนตำแหน่งหน้าที่ทั้งหมด25 มกราคม 1981 ศาลสูงสุดแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้พิพากษาให้ประหารนางเจียงชิงในฐานะหัวหน้าการกบฏรอลงอาญาไว้ 2 ปี ซึ่งต่อมาในเดือนมกราคมปี 1983 ศาลก็ได้ลดหย่อนโทษให้เหลือเพียงจำคุกตลอดชีวิต และไม่มีสิทธิทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้นตลอดชีวิตสุดท้ายเจียงชิงเลือกจบชีวิตด้วยน้ำมือตัวเอง เมื่อวันที่14 พฤษภาคม 1991“แก๊ง ออฟ โฟร์” ของประวัติศาสตร์การเมืองจีน เกิดขึ้นเพราะต้องการยึดอำนาจการนำในพรรครัฐบาลและกองทัพแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่สุดท้ายก็จบสิ้นแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเช่นกันวันนี้ แก๊ง ออฟ โฟร์ ของเมืองจีน จึงเป็นเพียงตำนานแห่งการจดจำแต่สำหรับเมืองไทย ดูเหมือนว่า แก๊ง ออฟ โฟร์ จะเป็นตำนานที่โลดแล่นแบบ Non Stop หรือไม่รู้จักจบสิ้นโดย แก๊ง ออฟ โฟร์ ถูกใช้เรียกในการเมืองไทยครั้งแรกก็ด้วยเหตุที่ต้องการสื่อไปถึงบุคคล 4 คน ในพรรคพลังประชาชนที่กล่าวกันว่ามีความพยายามจะยึดกุมอำนาจภายในพรรค

หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องเดินทางออกนอกประเทศว่ากันว่าและเชื่อกันว่าประกอบไปด้วย นายสมัคร สุนทรเวชนักการเมืองระดับอดีตหัวหน้าพรรคและอดีตนายกรัฐมนตรีนายธีรพล นพรัมภา เลขานุการนายสมัคร นายเนวิน ชิดชอบหัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน และ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังซึ่งผู้ที่เรียกบุคคลเหล่านี้ว่าเป็น แก๊ง ออฟ โฟร์ ก็คือส.ส.ของพรรคพลังประชาชน เองแต่แน่นอนว่า ตลอดมาทั้งหมดพยายามที่จะปฏิเสธว่าแก๊ง ออฟ โฟร์ ไม่ได้มีอยู่จริงสุดท้ายเมื่อมีความครึกโครมมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด แก๊งออฟ โฟร์ ก็ต้องสลายไปโดยแรงกดดันของคนในพรรคพลังประชาชนด้วยกันเอง โดยที่มีหัวหอกสำคัญ คือ กลุ่มอีสานพัฒนา ซึ่งมี นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด เป็นแกนนำและก็เป็น นายศักดา คงเพชร คนเดียวกันนี่แหละ ที่ออกมาพูดถึง แก๊ง ออฟ โฟร์ อีกครั้ง เมื่อวันสองวันที่ผ่านมาจนกลายเป็นกระแสกระหึ่มของ แก๊ง ออฟ โฟร์ 2009แต่จริงแล้ว ก่อนหน้านี้ ในช่วงตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ 1 ขึ้นมาใหม่ๆคำว่า แก๊ง ออฟ โฟร์ ก็เคยออกมาอาละวาดแล้วครั้งหนึ่งแต่กระแสอยู่ได้ไม่นานก็จบลงเพราะเป็น แก๊ง ออฟ โฟร์ สายพันธุ์ประชาธิปัตย์ ที่ไม่มีการข้ามสายพันธุ์ต่างขั้ว เชื้อจึงไม่แข็งแรงพอครั้งนั้นเกิดหลังจากที่มีการแต่งตั้งรัฐมนตรีหลายคน ซึ่งมาจากต่างพรรคและเป็นคนนอก จนสร้างความอกหักผิดหวังให้แก่หลายๆ คนในพรรคประชาธิปัตย์ที่พลาดหวังในตำแหน่งทำให้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ ได้หลุดปากออกมาว่า เบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นเพราะภายในพรรคประชาธิปัตย์มี แก๊ง ออฟ โฟร์นั่นเอง

แต่เพราะเป้าที่พุ่งไปในครั้งนั้น มองกันว่าอยู่ที่ นายสาทิตย์วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรค นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรูรองเลขาธิการพรรค นางอัญชลี วาณิช เทพบุตร เหรัญญิกพรรค และ นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ด้วยข้อสงสัยว่า บุคคลทั้งสี่น่าจะเกี่ยวโยงอยู่กับการล็อบบี้เสียงของกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด 19 คนและเป็นผู้กำหนดทิศทางของพรรคแต่เรื่องนี้ เนื่องจากเป็นการขัดแย้งภายในพรรคเดียวกันเองจึงจบลงได้ไม่ยาก เพราะทั้ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณเลขาธิการพรรคในฐานะผู้จัดการรัฐบาล และ นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่มี แก๊ง ออฟ โฟร์ ภายในพรรคประชาธิปัตย์โดยยืนยันว่าความขัดแย้งภายในพรรคนั้น ได้ทำความเข้าใจกับสมาชิกแล้วเท่าที่จะทำได้ จึงมั่นใจว่าไม่มีปัญหา เพราะทุกคนทราบดีว่าใครเหมาะสมที่จะเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ยิ่งนายสุเทพด้วยแล้วยิ่งเสียงแข็งเลยว่า ไม่มี แก๊ง ออฟ โฟร์และไม่มีการจัดตั้งคลื่นใต้น้ำโดยถึงกับพูดชัดเจนไม่เกรงใจใครๆ ในพรรคว่า ผู้ที่มีอิทธิพลภายในพรรคมีแต่ตัวนายสุเทพกับนายอภิสิทธิ์ในฐานะหัวหน้าพรรคเท่านั้นดังนั้น เมื่อสำทับด้วยการแถลงของ นายจุติ ไกรฤกษ์ส.ส.พิษณุโลก ที่พลาดตำแหน่งเช่นเดียวกันว่า ไม่เป็นความจริง...เท่านั้นเอง เกมก็จบลงด้วนๆและทำให้คำว่า แก๊ง ออฟ โฟร์ จางหายไปกระทั่ง จู่ๆ นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยก็ออกมาปลุกคำว่า แก๊ง ออฟ โฟร์ ขึ้นมาอีกครั้ง โดยระบุว่า

มี แก๊ง ออฟ โฟร์ 2009 ในรัฐบาล“ขณะนี้ แก๊ง ออฟ โฟร์ ฟื้นคืนชีพในรัฐบาลแล้วโดยแกนนำอยู่ในพรรคภูมิใจไทย ถ้าเปรียบเทียบเหมือนกับโรคเอดส์สายพันธุ์ใหม่ที่แข็งแรงกว่าเดิม” นายศักดา คงเพชร โยนระเบิดเข้าให้ตูมใหญ่เต็มๆแถมมี ปริศนาบอกใบ้ทายคำ ตามมาว่า คนที่หนึ่ง คือตัวแทนของอมาตยาธิปไตย ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทางการเมืองมาตั้งแต่ รัฐประหาร 19 กันยายนคนที่สอง เป็นบิ๊กสีเขียว ซึ่งเป็น อดีตนายทหารใหญ่ ที่ยังมีตำแหน่งและอำนาจในเหล่าทัพ โดยมีหน้าที่เป็นตัวกลางในการประสานงานระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายอมาตย์ มีบทบาทสำคัญในการทำให้เกิดการสลับขั้วทางการเมืองและจัดตั้งรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์คนที่สาม นั้น มีฉายาว่าคนหัวเถิกที่เป็นตัวแทนฝ่ายการเมืองโดยปัจจุบันมีตำแหน่งใหญ่อยู่ในรัฐบาล อักษรย่อ “ส.” จะเป็นคนเชื่อมกับทุกฝ่ายรวมทั้งบิ๊กกองทัพด้วยและสุดท้าย คนที่สี่ เป็นนักการเมืองมากบารมีนอกรัฐสภาที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มการเมืองใหญ่และพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่มีอิทธิพลต่อความอยู่รอดของ ครม.อภิสิทธิ์ 1เล่นเอาไถ่ถามและทายกันอุตลุดไปหมดว่า ใครเป็นใครบ้าง???แต่ที่แน่ๆ และตรงกันหมดไม่ว่าจะในสังคมการเมือง หรือในสื่อสารมวลชนสารพัดแขนง แม้กระทั่งทีวี ก็ยังระบุชัดเจนว่า1 ใน แก๊ง ออฟ โฟร์ 2009 ก็คือ เนวิน ชิดชอบ นั่นเองเพราะจากปริศนาที่ นายศักดา คงเพชร บอกว่า เป็นการกลายพันธุ์มาจาก แก๊ง ออฟ โฟร์ ของพลังประชาชน นั่น

ย่อมแปลว่าจะต้องมีเชื้อเดิมอยู่ ซึ่งในชุดนั้นก็มีเนวินอยู่ด้วยในขณะที่เหลือที่อยู่ในข่ายนั้นก็แพลมๆ ชื่อกันออกมาว่าน่าที่จะมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ หรือแม้กระทั่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดาก็ถูกถามไถ่ถึงด้วยเช่นกันแต่แน่นอนว่าทุกๆ คนที่ถูกมองหรือเชื่อมโยงไปถึง ล้วนแล้วแต่ปฏิเสธความเป็น แก๊ง ออฟ โฟร์ 2009 ด้วยกันทั้งสิ้นอย่างไรก็ตาม ด้วยความขลังของคำว่า แก๊ง ออฟ โฟร์ทำให้แวดวงการเมืองกระเพื่อมอย่างรุนแรง โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าอะไรคือวัตถุประสงค์หลัก หรือเป้าหมายปลายทางของแก๊ง ออฟ โฟร์ 2009บรรดาข้อสงสัยต่างๆ ที่พุ่งเป้าเข้าใส่นั้น ใครจะตั้งประเด็นอย่างไรก็ได้ แต่หากดูสถานการณ์การเมืองที่ล่อแหลมถึงการเจียนอยู่เจียนไปของรัฐบาลการไม่ลงรอยกันของพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ขัดแย้งกันสารพัดเรื่องเป็นไปได้หรือไม่ว่า ภารกิจสำคัญของ แก๊ง ออฟ โฟร์2009 คือ การต่อลมหายใจให้กับรัฐบาลอภิสิทธิ์???ทั้งนี้ เพราะต้องไม่ลืมว่า เงาร่างของ แก๊ง ออฟ โฟร์2009 เป็นการรวมพลังหลากหลายสายพันธุ์ ที่มีอำนาจในปัจจุบัน โดยไม่มีการมองที่ขั้วการเมือง ซึ่งผิดกับ แก๊งออฟ โฟร์ ในอดีตที่มาจากขั้วการเมืองเดียวกันทั้งสิ้นดังนั้น เมื่อลมหายใจของรัฐบาลแผ่วบางลงเพราะความขัดแย้ง อำนาจแต่ละสายแต่ละขั้วที่อยู่ในมือ แก๊ง ออฟ โฟร์2009 ย่อมเข้ามาเพื่อ ต่ออายุรัฐบาล ไม่ให้ถูกบังสุกุลเร็วจนเกินไปนักนั่นเองส่วนว่าหลังจบภารกิจแล้ว ใครจะใหญ่กว่าใคร ขั้วไหนจะพลิกขึ้นมามีอำนาจก็อยู่ที่ฝีมือของแต่ละคนใน แก๊ง ออฟ โฟร์ แล้วนั่นเองว่าใครจะเหนือกว่าใครในที่สุด ■