ที่มา บางกอกทูเดย์
โทรทัศน์เป็นเครื่องมือสื่อสารทางภาพที่มีอิทธิพลต่อมวลชนสูงสุด และสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งแม้แต่อำนาจรัฐทั้งหมดก็ล้มล้างการแพร่ระบาดความเลวร้ายในสังคมมนุษย์ได้ไม่เท่าโทรทัศน์รู้ทั้งรู้ แต่เราก็ยอมให้โทรทัศน์กลายเป็นเครื่องมือมอมเมาความอิจฉาริษยา ความอาฆาตมาดร้าย ความไร้สาระไร้เหตุผลโดยเฉพาะในหนังในละครที่ยิ่งกว่า “น้ำเน่า” ได้อยู่ทุกวี่วันโทรทัศน์มีอำนาจล้นฟ้ายิ่งกว่าคณะปฏิวัติชุดใดๆ เมื่อสามารถปฏิวัติสังคมไทยให้ไปสู่พฤติกรรมสังคมลักเพศ และยัดเยียดให้หญิงเบี่ยงเบนเป็นชาย ชายกลายเป็นหญิงกันเกลื่อนเมืองแถมโทรทัศน์ยังยุยงสังคมให้ฝักใฝ่ความเป็นกะเทยและเกย์อย่างเลือดเย็นโดยไม่มีหน่วยงานรัฐหรือแม้แต่ผู้บริหารประเทศใส่ใจไประงับยับยั้งได้ผิดกันตรงไหนกับการระบาดของมะเร็งหรือโรคหวัดเม็กซิโกที่เป็นเชื้อร้ายพันธุ์ใหม่เยี่ยงฆาตกร เข้ามาทำลายสังคมไทยอย่างเกรียวกราวและเงียบเชียบระคนกันไม่อยากพูดแต่ก็ต้องถลกเปลือกให้เห็นว่า การกำกับการแสดงหนังละครของไทยทั้งระบบ ถูกครอบงำด้วยขบวนการตุ๊ด แต๋ว เลสเบี้ยน และเกย์ไปอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้วไม่มีใครรู้หรอกว่า สังคมไทยจะอ่อนแอ ง่อยเปลี้ยเสียศูนย์ขนาดไหนในอนาคต?ที่พูดนี่ไม่ต้องการให้สังคมตุ๊ดแต๋วทั้งหลายมาตอบโต้ว่า พวกเขาชั่วร้ายหรือเป็นขโมยขโจร หรือขอทานใครกินเนื่องเพราะมันคนละประเด็นกับความมั่นคงของเพศชายจริงหญิงแท้ที่ธรรมชาติให้มาอย่างสมบูรณ์ที่สุด ดีกว่าเพศที่เสแสร้งแต่งเติมขึ้นมาใหม่ท่ามกลางความเป็นห่วงเครื่องมือสื่อสารอย่างโทรทัศน์ ที่ปล่อยเชื้อน้ำเน่าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน พลันก็ได้เห็นบทบาทและรายการที่“เปลี๊ยนไป๋” ของโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นโทรทัศน์ซึ่งหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่มีวันเปลี่ยน“กฎเหล็ก” เพื่อลดละครน้ำเน่า อิจฉาริษยา อาฆาตมาดร้าย“ทำลายจิตใต้สำนึก” ของทุกครอบครัว เฉพาะอย่างยิ่ง
“ครอบครัวรากแก้ว-รากหญ้า” ของคนไทย ที่ยังไม่สามารถใช้สติปัญญาไตร่ตรองความดีชั่วให้ตัวเองได้ช่อง 7 สี พลิกบทบาท แล้วเพิ่มรายการ “7 สีปันรักให้โลก”โดยนำภาพยนตร์ “HOME เปิดหน้าต่างโลก” ออกมานำเสนอให้คนดูได้ศึกษาและเข้าใจธรรมชาติของโลกที่แสนจะร่มเย็นเขียวขจีมีความสุขและควรปกปักรักษา แต่กำลังถูกมนุษย์ทำลายล้างอย่างน่าตกใจบรรยากาศโลกกำลังทวีความร้อน ถูกมนุษย์โค่นไม้ทำลายทรัพยากรอย่างเห็นแก่ตัวแผ่นน้ำแข็งขั้วโลกเหนือที่ละลายไปกว่า 40% ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นอย่างน่าวิตก มนุษย์ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างฟุ่มเฟือยคนตายเพราะน้ำสกปรกวันละ 5,000 คน พืช 50% ของโลกถูกผลิตเป็นอาหารสัตว์ ทะเล 3 ใน 4 ของพื้นที่ประมง ปลาถูกจับสูญหายไปทั้งแถบ อุณหภูมิที่ร่มเย็นของสัตว์โลกและมนุษย์กลับร้อนสูงมากใน 15 ปีหลังมนุษย์ 200 ล้านคน กำลังอพยพหนีธรรมชาติที่ถูกมนุษย์ด้วยกันทำลายป่าถูกทำลายไปแล้วครึ่งโลก คำถาม คือ เหลือป่าอีกครึ่งโลกเราจะรักษามันอย่างไร?เป็นภาพยนตร์ที่ด่าเมืองไทยทางอ้อม เพราะมีไทยอยู่ประเทศหนึ่งซึ่งเป็นตัวการทำลายล้างธรรมชาติอย่างหนัก แต่คนไทยมีสำนึกคิดจะปกปักรักษาหรือเพิ่มความสมบูรณ์ของธรรมชาติได้หรือไม่ยังไม่มีใครให้คำตอบได้แต่หากโทรทัศน์สีช่อง 7 สามารถ “หักมุม” เพิ่มเวลาเปลี่ยนแนวคิดนำเสนอให้ครอบครัวคนไทยเข้าใจและเข้าถึงโลกมากขึ้น แล้วลด “น้ำเน่า” ลงได้บ้างแล้วน่าจะเป็นนิมิตและจิตสำนึกของการเปลี่ยนแปลงเชิงสร้างสรรค์สังคมไทยดีกว่าวิสัยทัศน์เชิงการบริหารของรัฐบาลเป็นไหนๆไม่ใช่หรือ??? ■