ที่มา ไทยรัฐ
ปลอดประสพ สุรัสวดี
คณะกรรมการฝ่ายการเมืองนัดถกปรับทัพเสริมกลยุทธ์ ทำกิจกรรมการเมืองในทุกเขตเลือกตั้ง เสริมสร้างความเข้าใจให้กับชาวบ้าน ปูดแก๊งค์ออฟโฟร์ 2009 คอยจ้องประสานผลประโยชน์ร่วมกัน...
วานนี้ (9 มิ.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย ได้มีการประชุมคณะกรรมการฝ่ายการเมือง มีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค เป็นประธาน ภายหลังการประชุมพ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ในที่ประชุมได้ประเมินการบริหารงานของรัฐบาล โดยเห็นว่า ไม่สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจได้แน่นอน ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติให้พรรคเตรียมการขับเคลื่อนครั้งทางการเมืองครั้งใหญ่แบบเต็มสูบ เพื่อทำงานการเมืองให้เป็นระบบ ทั้งสนับสนุนข้อมูลทุกด้านให้ส.ส.ทำงานในสภาเต็มที่ นอกจากนี้จะขับเคลื่อนทำกิจกรรมการเมืองในทุกเขตเลือกตั้ง เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจให้กับชาวบ้านในด้านนโยบายที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจ รวมถึงโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน จะมีนโยบายให้เป็นทางเลือกแก่ชาวกทม. เพราะขณะนี้เช่าหรือซื้อก็มีปัญหา ทางออกที่ดีจะต้องปฏิรูประบบขนส่งมวลชนในกทม.ทั้งระบบ ไม่ใช่คิดอย่างรัฐบาลชุดนี้ทำอยู่ที่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของคนกทม.ได้ ส่วนกรณีที่มีส.ส.ประกาศย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย 2 คนนั้น ที่ประชุมไม่ได้ตำหนิ เพราะเห็นว่าคนเหล่านี้ใจร้อนเกินไป หรือมีความจำเป็นบางอย่าง หน้าที่ของพรรคจะต้องเร่งประกาศนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อดึงคนเหล่านี้และเอาเพื่อนๆกลับมาทำงานช่วยพรรคต่อไปด้วย
ด้านนายพีรพันธุ์ พาลุสุข สส.ยโสธร กลุ่มอีสานพัฒนา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายจุมพฎ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ประกาศย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทยว่า เรื่องนี้ผู้ใหญ่ในพรรคได้ประชุมกัน โดยเห็นว่าอาจมีมาตราการต่างๆ เช่น ให้ประชาชนเข้าชื่อถอดถอนส.ส.หรือหามาตราการขับพ้นจากสมาชิกภาพโดยการฟ้องต่อศาล พรรคจะปล่อยไว้ไม่ได้ โดยเฉพาะหากผลการเลือกตั้งซ่อม จ.สกลนคร ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทยชนะ จะถูกเกทับว่า นับประสาอะไรกับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเอาชนะ และจะเป็นสงครามจิตวิทยาเกิดโดมิโน่ในพรรคเพื่อไทย โดย ส.ส.ส่วนหนึ่งอาจไหลไปพรรคภูมิใจไทย เพื่อหวังเอาอำนาจรัฐ และเอาเงิน ผลประโยชน์ใช้ ดังนั้นพรรคต้องมีวินัย ไม่ให้เกิดความไร้ระเบียบอย่างนี้ อย่างไรก็ตามพรรคไม่ควรต้องข้อสงสัยส.ส.ที่เคยสังกัดกลุ่มเพื่อนเนวินที่ยังอยู่ในพรรคเพื่อไทย แต่เราควรสร้างพรรคให้เกิดเอกภาพทั้งภายในและภายนอก เช่น จัดกิจกรรมมากพบปะสมาชิกมากขึ้น และให้ส.ส.ทุกคนมีส่วนร่วมในการบริหารพรรค
ขณะที่ นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม หัวหน้ากลุ่มอีสานพัฒนา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้อด้อยของพรรคเพื่อไทย คือ ส.ส.ใหม่ที่ได้รับเลือกเพราะกระแสทักษิณ ทำให้ขาดความเป็นนักการเมือง ที่ต้องมีความสัมพันธ์กับประชาชน อย่าเข้าใจเพียงว่า เมื่อเราเป็นรัฐบาลจะได้นั่งกินนอนกิน มีเงินทอง พอมาเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีอำนาจ แล้วก็ต้องวิ่งหาอำนาจเงินอย่างนี้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่านายจุมพฎ ไม่ใช่ส.ส.คนคนสุดท้ายที่จะย้ายออกจากพรรค เพราะเรื่องนี้มันตบมือสองข้างไม่ดัง อีกฝั่งก็เสนอผลประโยชน์ มีงบประมาณให้ แต่เชื่อว่า ประชาชนไม่โง่จะตัดสินนักการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์เหล่านี้ได้แน่
ส่วนกระแสข่าว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี จะมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น นายไพจิต กล่าวว่า ได้คุยกับพล.อ.ชวลิต ล่าสุดทราบว่า ท่านมีจุดมุ่งหมายที่จะแก้ปัญหาบ้านเมือง และเป็นห่วงปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ส่วนตัวเห็นว่าขณะนี้ยังมีสถานการณ์ความขัดแย้งอยู่ หากพล.อ.ชวลิตมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีความเหมาะสม เพื่อช่วยให้บ้านเมืองเกิดความสงบ แต่ทั้งหมดพรรคยังไม่ได้พิจารณา
ด้านนายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการประชุมคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ของพรรคว่า ที่ประชุมประเมินภาพรวมการเมืองพบว่า ขณะนี้เกิดแก๊งค์ออฟโฟร์ 2009 โดยทุกกลุ่มมีพฤติกรรมประสานผลประโยชน์ร่วมกัน ทั้งต้องการเงินทอนจากโครงการต่างๆ เพื่อเตรียมเสบียงกรังไว้เลือกตั้ง อีกกลุ่มต้องครองอำนาจในระบบราชการ ยึดอำนาจการเมือง และสลายขั้วการเมืองฝ่ายที่ตัวเองไม่เห็นด้วย แก๊งค์นี้ยิ่งใหญ่กว่าแก๊งค์ออฟโฟร์ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ที่ต้องการเพียงยึดอำนาจในการบริหารพรรคพลังประชาชนเท่านั้น และหาเงินอย่างเดียว ไม่เหมือนแก๊งค์นี้ที่ยิ่งกว่าสายฟ้าฟาด ไปตรงไหนกระจุยหมด ไม่มีใครต้านทานได้ สิ่งเหล่านี้ได้นำเข้าหารือกับคณะทำงานชุดต่างๆของพรรคอีกครั้ง เพื่อเปิดเผยถึงพฤติกรรมให้สังคมได้รับทราบ แม้วันนี้พรรคเพื่อไทยถูกกระทำหนัก โดยเบียงเบน ใส่ความ สร้างความอ่อนแอ่ให้พรรคฝ่ายค้านตลอด เช่น โครงการเช่ารถเมล์ 4 พันคันก็ถูกกล่าวหาว่าผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยไปเอี่ยวผลประโยชน์ จะไปเอี่ยวได้อย่างไร เรื่องอะไรต้องแบ่งให้พรรคฝ่ายค้าน
ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 11 มิ.ย. จะมีการประชุมใหญ่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย หยิบยกประเด็น ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี และนายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร เตรียมย้ายเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทยหารือว่าจะมีมตรการดำเนินการอย่างไร พร้อมเปิดให้ ส.ส.ได้พูดคุยกัน