ที่มา เดลินิวส์
ก่อนนี้ ข้าราชการถูกมองว่าล้าหลัง เช้าชามเย็นชาม คอร์รัปชั่น ไม่รู้กี่โต๊ะต่อกี่โต๊ะ กว่าจะผ่านเรื่องการขออนุมัติแต่ละอย่างได้ แต่ ผลสำรวจ บริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ หรือ เพิร์ก ที่ทรงอิทธิพล ล่าสุดพบว่า ระบบราชการไทยมีประสิทธิภาพในการทำงานอยู่อันดับ 3 ของเอเชีย
ชนะญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ด้วยซ้ำ เป็นรองก็แค่ สิงคโปร์กับฮ่องกง เท่านั้น ออกมาอย่างนี้ ข้าราชการไทยคงปลื้ม และมีขวัญกำลังใจอีกโข ประเทศชาติก็ได้หน้าไปด้วย
ขณะที่ผลสำรวจของกลุ่มวิชั่น ออฟ ฮิวแมนนิตี้ (Vision of Humanity) เปิดเผยดัชนีสันติภาพโลกปี ค.ศ. 2009 พบว่าชาติที่มีสันติภาพมากที่สุด 5 อันดับแรกจาก 144 ชาติ ได้แก่ นิวซีแลนด์ เดนมาร์ก นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และ ออสเตรีย มี ญี่ปุ่นติดอันดับ 7
ส่วนชาติที่สงบสุข 5 อันดับท้าย ๆ ได้แก่ ซูดาน อิสราเอล โซมาเลีย อัฟกา นิสถาน และ อิรัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแดนสู้รบ ขณะที่ไทย อยู่ที่ 118 จาก 144 ชาติ มี พม่า อยู่อันดับ 126 ผลอย่างนี้น่าเป็น ข่าวร้าย ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยว และ การลงทุนไม่น้อย
มาดูข่าวดีก่อน การที่ระบบราชการไทยมีประสิทธิภาพมากขึ้น จนติดอันดับ “ท็อปไฟว์” เอเชีย ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้ก.พ.ยุคคุณหญิง ทิพาวดี เมฆสวรรค์ เป็นเลขาธิการ มีการปรับโครงสร้างราชการ ทั้งเรื่องซี เรื่องตำแหน่ง ระบบการทำงาน
รวมทั้งที่ต้องยอมรับ จะดี จะชั่ว รัฐบาลแม้วยุคแรก ที่เสถียรภาพแข็งปั๊ก ก็ ได้นำระบบบริหารจัดการแบบเอกชนที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ มาใช้กับงานราชการ เช่น มี ผู้ว่าราชการซีอีโอ มีการให้โบนัสคนเก่งในระบบราชการ มีทีมไทยแลนด์ มีการใช้เทคโน โลยีใหม่ ๆ เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน
การทูตเพื่อประชาชนยุค ดร.สุรเกียรติ์เสถียรไทย ที่นอกจากโดดเด่นด้านการต่างประเทศในเวทีโลกแล้ว คนทั่วไปสัมผัสได้ คือการทำพาสปอร์ต สมัยก่อนจะทำแต่ละที ต้องเสียเงินให้หน้าม้า รอนานเป็นเดือน พอยกเครื่องใหม่ ไม่ถึง 7 วัน ก็รับพาสปอร์ตได้
ข้าราชการกรมการค้าต่างประเทศ ทำงานจนตีหนึ่ง ตีสอง แทบทุกวัน เพื่อเตรียมข้อมูลสนองนโยบายรัฐมนตรีพาณิชย์ เสาร์- อาทิตย์ แทบไม่มีวันหยุด
นี่คือ คุณูปการ ที่รัฐบาลทักษิณ ทิ้งไว้จนบัดนี้
แต่ตอนนี้การเมืองอ่อนแอมาก หลัง วงจรอุบาทว์ 19 ก.ย. 49 มีการฟื้นระบอบ “อำมาตยาธิปไตย” ให้เข้มแข็งใหม่ ซึ่งโดยธรรมชาติ คือระบบ “อำนาจนิยม” ที่มองประชาชนเป็นแค่ผู้ถูกปกครอง ประสิทธิภาพระบบราชการไทยจะยังดีต่อเนื่องได้แค่ไหน ยังต้องติดตาม
ส่วนข่าวร้าย ไทยเกือบติดอันดับบ๊วย เรื่องความสงบสุข ที่จริงไม่ต้องให้ใครมาจัดอันดับหรอก คนไทยก็สัมผัสได้ด้วยตัวเองอยู่แล้วว่า จากสยามเมืองยิ้ม เป็นยิ้มไม่ออก และเกือบกลายเป็นพวกประสาทรับประทาน
เป็นบ้านป่า เมืองเถื่อน ที่ใครจะยึดถนนทำรัฐอิสระ ยึด ทำเนียบฯ ยึดสนามบิน บุกสภา ทำได้ตามใจชอบ เพราะเป็นม็อบมีเส้น ขณะที่ม็อบอื่น ๆ ถูกดำเนินคดีรวดเร็วทันใจ แต่ม็อบมีเส้น ยังลอยนวล !!!
เพราะเป็นผู้มีพระคุณของรัฐบาล
ความไร้เสถียรภาพทางการเมือง (เป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ใช้วัดความสงบสุขของประเทศ) มีต้นตอมาจาก คมช.ที่ใช้รถถังล้ม ล้างรัฐบาลที่ประชาชนเลือกมา จนนำประเทศเข้าสู่วังวนของวิกฤติดังที่เป็นอยู่นี่แหละ.
ดาวประกายพรึก