น่าสนใจมากสำหรับข้อมูลตามการเปิดประเด็นของ “ศักดาคงเพชร” ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยไม่ใช่เรื่อง “แก๊ง ออฟ โฟร์ 2009” ที่เหมือนจะเป็นความพยายามสร้างปาหี่การเมือง..หากแต่เป็นคำกล่าวที่ว่าถึง ศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3สกลนคร และเขต 1 ศรีสะเกษ!!ตามคำเรียกของ “ศักดา” ยกให้การชิงชัยใน 2 พื้นที่ภาคอีสานครั้งนี้..เป็น “ศึกแห่งศักดิ์ศรี” ระหว่าง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ผู้เป็นนายใหญ่ กับ “เนวิน ชิดชอบ” อดีตคนสนิทนายใหญ่ ผู้กำลังจะเป็นใหญ่เสียเอง“ขณะนี้มีแก๊ง ออฟ โฟร์ 2009 ประกอบด้วยคนปากห้อยคนหัวเถิก คนสีเขียว และคนที่เป็นอมาตย์ ที่ร่วมมือกันหาผลประโยชน์และยักย้ายงบประมาณเพื่อเตรียมเสบียงกรังไว้สำหรับเตรียมการเลือกตั้ง หวังสร้างความยิ่งใหญ่ยึดครองอำนาจทางการเมือง”หากตัดประเด็นปาหี่ไร้แก่นสารออก ก็จะเหลือยุทธวิธีที่บ่งบอกถึงมุมมองในฐานะคู่แข่งขันสำหรับการชิงชัยครั้งใหญ่ในศึกเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ด้าน “นายใหญ่” ก็ใช่ย่อย...ระหว่างการประชุม ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย เมื่อบ่ายวันที่ 11มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่อาคารบีบีดี บิ้วดิ้ง ย่านพระราม 4 มีข่าวแว่วมาว่า“ทักษิณ” โฟนอินผ่านโทรศัพท์มือถือมายังที่ประชุม ใช้เวลาพูดคุยนานเป็นชั่วโมงความสำคัญในสิ่งใด ไม่อาจเท่ากับเนื้อหาของการพูดคุยครั้งนี้..“ทักษิณ” ชี้ถึงการไหลออกของ ส.ส.ในพรรค ว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่นักการเมืองจะมองจุดอ่อนตัวเองไม่ออก แต่ตัวเองอยู่นอกเกมสามารถมองเห็นได้ โดยได้เห็นม้าวิ่งไปทางนู้น แพะวิ่งไปทางนี้..
“..ผมเชื่อมั่นว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคเราได้กลับมาเป็นรัฐบาลแน่นอน ตอนนี้เราโชคดีที่ได้เป็นฝ่ายค้าน เราไม่ต้องไปเสียใจ แล้วจะได้รู้ว่าใครเป็นใครขอบคุณ ส.ส. ที่อยู่ร่วมกันมา ขอให้มั่นใจและถ้ามีโอกาสจะตอบแทนให้ นานแล้วที่ไม่ได้โทรศัพท์มา ก็คิดถึง ส่วนคณะที่จะไปหาผมนั้นไม่ต้องมาก็ได้ เพราะทุกคนกำลังช่วยกันหาเสียง แค่คิดถึงกันก็พอแล้วขอขอบคุณจริงๆ ที่ทุกคนยังอยู่กับผม ไม่ทิ้งผม ผมจะไม่ลืมบุญคุณของพวกท่าน ขอให้โทรมาหรือรวมกันอย่างนี้ก็โทรมาได้ การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะเป็นการวัดกันว่า พรรคจะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อย่างไร”ทางพรรคยังได้นำรูปภาพสีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขนาด12 x 6 นิ้ว แจกให้ ส.ส.อีสาน คนละ 5 แผ่น พร้อมข้อความที่ระบุว่า..“ภาพนี้ผมยิ้มได้เต็มใบหน้า เพราะทราบว่าพี่น้องชาวอีสานยังรักและคิดถึงผม ผมรัก คิดถึง และเป็นห่วงพี่น้องทุกๆ คนครับ ด้วยความเคารพรัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร23 พ.ค.52”ไม่ต้องรอการวิเคราะห์ให้เสียเวลาก็รู้ได้ทันทีว่า..นอกจากเป็นการพยายามซื้อใจและให้กำลังใจ ส.ส.แล้วนี่คือเกมของพรรคเพื่อไทย ที่หวังให้ “ทักษิณ” ปรากฏกายผ่านข่าวเพื่อรักษาฐานเสียงที่มี สำหรับการเลือกตั้งซ่อมที่จะถึงนี้ยังไม่พอแค่นั้น..ที่ตามมาติดๆ คือ การออกมาสร้างกระแสผ่าน“ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ในฐานะประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยตัวชูโรงที่ได้รับกระแสการนำเสนอข่าวผ่านสื่อไทยเป็นอย่างดี“ที่วิเคราะห์กันว่าเป็นผีหัวขาดไม่มีหัวนั้น มันไม่ได้หัวขาด
เพราะหัวหน้าพรรคตัวจริงอยู่ที่ดูไบ ยังคิดนโยบายแก้เศรษฐกิจมาให้เสร็จเรียบร้อยตั้ง 5 ข้อ ที่บอกว่า ส.ส. จะย้ายออก เป็นเขื่อนแตก มันฝั่งโน้น ฝั่งนี้มันคอนกรีตเสริมเหล็กจะย้ายไปทำไม ไม่มีใครไป อีสานแน่นเปรี๊ยะ”เหล่านี้ คือ สิ่งที่นอกเหนือไปจากการใช้วิธีการเมืองเดิมๆด้วยการยื่นหนังสือผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เพื่อให้ตรวจสอบพรรคคู่แข่งที่เข้าข่ายน่าสงสัยว่า จะทุจริตในการเลือกตั้งหาเสียงเลือกตั้งซ่อมวิธีหลังนี้..อย่างน้อยๆ ก็ได้ผลทางการสกัดแข้งสกัดขาให้พอเดินเหินไม่ได้สะดวกกันเท่าไหร่นัก..ถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเวทีเลือกตั้งด้านความเคลื่อนไหวของภูมิใจไทย นับตั้งแต่เปิดกลยุทธ์ “สกลนครโมเดล” แข่งขันกับภาพ “อาจสามารถโมเดล” ในอดีตน่าจะยังมีกลเม็ดเด็ดพรายมากกว่านี้เตรียมเอาไว้...เพราะการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้สำคัญต่อพรรคภูมิใจไทยในฐานะที่เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในนามพรรค ขณะที่จะเป็นการบ่งบอกถึงการโค่นล้มฐานอำนาจเก่าของ “ไทยรักไทย”ที่มาในนาม “เพื่อไทย”ว่าจะทำสำเร็จ “ได้” หรือ “ไม่ได้”...!!แต่สิ่งที่ ส.ส.เพื่อไทย บอกว่า เป็น “ศึกแห่งศักดิ์ศรี”นั้น ไม่เพียงความสำคัญด้าน “พื้นที่” ที่ต้องช่วงชิง ยังเป็นการห้ำหั่นกันเองที่น่าติดตามดูว่า..“เนวิน” ฐานะในอดีตเคยวางแผนการรบให้ “ทักษิณ”ชนะชัยการเลือกตั้งมานับครั้งไม่ถ้วนมาวันนี้ “เนวิน” คนเดิม กำลังวางแผนการรบในพื้นที่เดิม...แต่ไม่ได้ทำเพื่อ “นายใหญ่” คนเดิมอีกต่อไป!! ■
ใครเป็น"ทักษิณฯ"ก็ต้องสู้...
นับเป็นปรากฏการที่แปลกประหลาดในวงการ"ผู้นำนักการเมืองไทย" ที่เล่นการเมืองแล้ว" เจ๊ง " นับแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบรูร์ญาณาสิทธิราชย์ มาเป็นการปกครองแบบประชาธิปไตย เป็นระยะเวลาเกือบแปดสิบปี เรามีนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศมายี่สิบกว่าคนแล้วบางท่านก็ก้าวลงจากตำแหน่งอย่างสง่างาม บางท่านก็ถูกทหารทำการ ปฏิวัติ,รัฐประหาร,หรือปฏิรูปการปกครอง,(ความจริงกบฏ) ยึดอำนาจจนต้องระเห็ดระเหออกไปอยู่ต่างประเทศหลายท่าน การเข้ามาดำเนินการทางการเมืองของนักการเมืองแต่ละท่าน มาในสถานะต่างๆกัน ส่วนใหญ่มักจะมาจากทหารซึ่งเป็นผู้ถืออาวุธและกำอำนาจไว้ในมือก็ไม่น่าแปลกสำหรับประเทศที่กำลังพัฒนาระบอบประชาธิปไตย..แต่ที่น่าแปลกคือ..ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนไหน..?ที่มั่งมีเงินทองก่อนเข้าเล่นการเมืองมีมากมายถึง"หกหมื่นกว่าล้าน(ซึ่งทักษิณแสดงทรัพย์สินขณะอยู่พรรคพลังธรรมก่อนเข้ามาเป็น ร.ม.ว.ต่างประเทศ ปี 2537) และที่น่าแปลกที่สุดก็คือเงินนี้หามาได้ก่อนเข้ามาดำเนินการทางการเมือง"แต่มาถูกยึดจนหมดสิ้น" (ในปี 2550)ด้วยข้อกล่าวว่า"ทุจริต-คอร์รัปชั่นฯ ในการบริหารประเทศ..มันประหลาดที่สุดในโลกไหมครับท่าน...เมืองไทยเคยมีการคอร์รัปชั่นครั้งมโหฬารในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ปฏิวัติยึดอำนาจจากจอมพล ป. พิบูลสงคราม และดำรงค์ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเผด็จการอยู่หลายปีจนเมื่อถึงแก่อนิจกรรมลงปรากฏว่าลูกเมียต่างแก่งแย่งสมบัติกันจนความแตกสู่สาธารณะชนว่าจอมพลสฤษดิ์ฯ ทุจริตคอร์รัปชั่นเงินหลวงเป็นจำนวนเงินถึงพันกว่าล้านบาท(ตั้งแต่ปี02500-2507) ซึ่งนับว่าเป็นเงินจำนวนมากมายมหาศาลในสมัยนั้น และรัฐบาลก็ได้ตามยึดทรัพย์สินเอาคืนมาได้ประมาณห้าร้อยกว่าล้าน(ที่เหลือไม่ทราบว่าหายไปไหน..? นับจากนั้นมา ก็ไม่เคยเห็นมีการยึดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรีคนไหนอีกเลย(หรือว่านายกรัฐมนตรีคนอื่นๆปฏิบัติหน้าที่ด้วยซื่อสัตย์บริสุทธิผุดผ่องด้วยกันทุกคน) จะมีเป็นคนแรกและคนสุดท้ายคือ พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร คนนี้แหละ ที่คดโกง-ทุจริตคอร์รับชั่นในตำแหน่งหน้าที่ นายกรัฐมนตรี(ก่อนเข้ามาเล่นการเมือง)...มันน่าประหลาดไหมละครับพี่น้องประชาชนคนไทย....จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม"ทักษิณ"จึงไม่ยุติบทบาททางการเมืองเพื่อเห็นแก่ความสงบสุขของประเทศชาติตามที่อีกฝ่ายหนึ่งชอบอ้างขอให้พี่น้องชาวไทยไปลองคิดดูให้ดีว่าความยุติธรรมนั้นอยู่ที่ไหน...? "ใครเป็นทักษิณฯก็ต้องสู้"....