ที่มา Thai E-Newsหนูดาวคนนี้สำคัญนักหนาล่ะท่านเอ๋ย อยู่ติดตัวติดตูดของคนโตคับฟ้าขนาดแค่กระดิกนิ้วตีนก็เปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้ เธอสัมผัสตัวคนๆ นั้นก็ได้ อาบน้ำสระผมคนๆ นั้นก็ได้ วันดีคืนดีถึงกับนอนหน้าเตียงเลยเทียว ไอ้เทือกมันก็เลยมีตั๋วเข้าสู่วงจรอำนาจอันใหญ่ยิ่งหาอะไรเปรียบมิได้ มีอะไรมันก็ฝากผ่านหนูดาวเข้าไป หนูดาวแกก็ดี๊ดี ถือว่าผัวอุตส่าห์ (หน้าด้าน) ฝากมาก็จัดการส่งต่อให้ถึงตัวทุกทีไป
โดย จิตร พลจันทร์
ที่มา คอลัมน์คมความคิด จิตร พลจันทร์ นิตยสาร Voice of Taksin ฉบับที่ 19
ก๊ากๆๆๆ และแล้วพฤติกรรมหำทมิฬของกำนันโคอ๊อปแห่งสุร๊าดตานี ก็ถูกถลกมาแผ่หราหน้าเวทีที่ราชประสงค์
จิตรนึกอยู่แล้วว่าเรื่องอีแบบนี้มันจะหลบอยู่ได้นานขนาดไหนเชียว คนเราลองได้บ้ากามชนิดโชว์หรากลางหน้าผากขนาดนั้น สาธุชนเขาต้องรู้กันจนได้
ยิ่งตอนหลังก้มกบาลเอาใจไอ้แก่ตัณหา (การเมือง) กลับเสียจนลืมตัว ก็ยิ่งเย้ายวนให้เค้าช่วยกันแฉ รู้กันให้ทั่วเลยว่าเชื้อโรคตัวนี้มันไม่ได้ดำปี๋แค่ภายนอกหรือแต่ตัว แต่ใจมันก็ด๊ำดำเสียยิ่งกว่ากระจุก “diamond hair” ของนางโลมที่มันอุตส่าห์ไปพรากจากผัวเค้ามาซะอีก
เพียงแต่บนเวทีเค้ามีเวลาน้อย แล้วก็ถ่ายสดทางทีวีกับเว็ป คนพูดก็ต้องระวังไม่ให้เกินเลย จิตรก็เลยถือโอกาสช่วยงานกฐินเที่ยวนี้ซะเลย
เพราะไอ้ที่เล่าบนเวทีน่ะ มันน้อยนิดเสียจนมวลชนที่น่ารักของเราฟังไม่เข้าใจ ได้ยินหางเสียงว่าตีท้ายวังๆ ก็สนใจเฮฮากัน แต่ใจอยากรู้มากกว่านั้น เพราะหลายท่านกำลังปฏิบัติแยกสัตว์ออกจากคน
จิตรขอกราบบริการข้อมูลเพิ่มเติมก็แล้วกัน จะได้รู้ว่าบ้านเมืองนี้มันมีอาเพศใหญ่ ถึงขนาดคนสำคัญของประเทศเห็นผิดเป็นชอบ เลือกคนที่ทางพุทธเขาเรียกอัปรียชนล้วนๆ มาบริหารชาติ ส่วนคนเลือก เลือกเพราะเป็นสายพันธุ์เดียวกันหรือไม่ ค่อยมาว่ากันวันหลัง
ไอ้ความวิตถารชอบคนที่เค้ามีผัวแล้วของคนๆ นี้ มันเริ่มมานานแล้วล่ะท่าน ตอนอยู่บ้านก็แอบตีท้ายครัวมั่วหม้อไห ไม่เว้นแม้แต่ชาวบ้านร้านถิ่น นี่ตั้งแต่ก่อนจะเป็นกำนันและเป็นผู้มีอิทธิพลแล้วนะ ก็เหยื่อรายแรกของไอ้บ้านี่ก็คือผัวของสาวชาวบ้านคนหนึ่ง เขาเป็นคนจริง มาลูบคมหยั่งงั้นเขาก็ไม่ยอม จะสะสางคิดบัญชีกับมัน ปรากฏว่ามันทำยังไงรู้ไหมท่าน? มันสั่งให้ลูกกระเป๋งข้างตัวมันไปลอบยิงเขาก่อน มันรู้เหมือนกันว่าถ้าปล่อยไปกูคงเสร็จแน่ เพราะไปสะเดิฟเมียเขามาจริงๆ ในที่สุดสาวผู้น่าสงสารก็กลายเป็นแม่หม้ายลูกติด ไอ้ชั่วนี่ก็ไม่ดูดำดูดี ถือว่าได้แล้วก็แล้วกันไป
จิตรว่าคงจะใช้สไตล์นักเลงคุมซ่องข่มขู่เค้าด้วยแหละ เรื่องมันถึงได้เงียบ แต่ชาวบ้านเค้าก็รู้กันทั่วว่าไอ้เลวนี่มันมีอุปนิสัยเหมือนหมาปากซอย เผลอหน่อยเดียวมันก็ดึ๊บๆ เหมือนสุนัขชาติในฤดูติดสัตว์ก็ไม่ปาน
ถ้าให้เล่าหมดทุกเรื่องเนื้อที่คงจะไม่พอ จิตรขอกระโดดปร๊าดมายังบทสวาทของมันในสมัยสังกัดพรรคประชาธิกัดเลยก็แล้วกัน ไอ้คนนี้มันคงสังเกตการณ์อยู่ว่า ผู้ใหญ่ในพรรคตะละคน โดยเฉพาะชาวสะตอสามัคคีเหมือนตัวมัน ล้วนมีพฤติกรรมทางเพศน่าดูชมยิ่ง พระพุทธองค์ทรงบัญญัติวินัยคฤหัสถ์ในเรื่องนี้ไว้อย่างไร ผู้ใหญ่ประชาธิกัดมันทำตรงข้ามชนิด ๑๘๐ องศาทุกทีไป ไอ้ “นายชวนหัว” ก็ทำตัวเป็น “ใบไม้” ที่วันหลังมีโอกาสจะแฉมั่ง เรื่องเมียนอกสมรสอะไรนี่ก็จริง แต่เป็นเรื่องทีหลังทั้งน้าน
อีกตัวที่สวาปามไปซะพุงกาง สมัยเป็นเสนาบดี เดี๋ยวนี้ทำเป็นเงียบ คือไอ้ “เฉ่งอ้วน” คนตัวใหญ่แต่ของเล็ก ก็เลยชอบเด็กตัวน้อยๆ เป็นโรคจิตประเภทหนึ่ง เหมือน “ท่านรองประธานวุด” คนหนึ่งในอดีตที่ต้องคดีมีเพศสัมพันธ์กับเด็กจนติดคุกติดตะราง ออกจากถนนการเมืองไปอย่างเด็ดขาด ไอ้ “จุลินทรีย์” ที่ชอบทำภาพลักษณ์สงบเสงี่ยมเรี่ยมเร้ ไอ้นี่นอกจากโกงซะปากมันแล้ว เรื่องเพศก็โรคจิตชนิดวิปลาสเลยทีเดียว เคยมีเรื่องฉาวโฉ่หลายหนว่าเรียกสาวบริการขึ้นไป แล้วตบตีน้องน้อยจนแทบสลบ ก่อนจะมีอะไรกันได้ ตัวอย่างเบาะๆ ในเรื่องพรรค์นี้ คงทำให้ไอ้เทือกนึกว่า หวานหมู กูมาถูกที่แล้ว
จากนั้นมันก็ใช้ “น้ำกาย” (ไม่ใช่ “น้ำใจ”) หากินสร้างตัวเองทางการเมืองเรื่อยมา คุณนายผู้ใหญ่ในพรรคคนไหนที่เปล่าเปลี่ยว ถูกผัวทิ้งไปมีอีหนูอีแมวที่ไหน มันก็เสนอตัว ทำเป็นป้วนเปี้ยนไปมาจนเค้าเรียกใช้ มันก็สนองนโยบายเสียจนกระทั่งติดใจ เหตุที่ติดใจก็ไม่ใช่เพราะมันเก่งหรือฉกาจกามใดๆ นักหนา แต่เพราะมันมีสันดานเหมือนคนติดการพนัน คือชอบอะไรที่มันลุ้นๆ เสี่ยงๆ มันก็เลยชอบกามกิจประเภทที่ต้องคอยหลบเลี่ยง ยิ่งเสี่ยงผัวเขาด้วยก็ยิ่งมันส์ สาวแก่แม่หม้ายทั้งหลายก็เลยพลอยได้รสชาติแห่งความเสี่ยงอันตรายไปกับมันด้วย ติดอกติดใจกันจะอี้
แต่สุดยอดของวีรกรรมแห่งกำนันสุร๊าดคือเมื่อเสี่ยหนุ่มตระกูลมหาเศรษฐีคนหนึ่งเกิดอยากเล่นการเมืองขึ้นมา เมียแกก็บังเอิญเป็นน้องสาวของคนใหญ่ในพรรคที่เดี๋ยวนี้เป็นชายผู้สูงศักดิ์ไปซะแล้ว เสี่ยหนุ่มแกมีแต่เงิน ศิลปะการพูดบ่มี อย่าว่าแต่ปราศรัยเลย เมียแกก็เหมียนกัน สาวสวยรวยเละ แต่อยากเป็นนักการเมืองเหมือนผัว (ตอนนั้นแกฉอเลาะกับผัวว่าอยากหัดพูดให้เก่ง จะได้ช่วยผัวปราศรัย) ไอ้ผัวก็ตายใจ ยอมให้เมียมาใกล้ชิดสนิทแนบอยู่กับไอ้บ้ากามนี่
ในที่สุดมันก็พามา “หัดพูด” ที่บ้านของมันในกรุงเทพฯนี่ล่ะ ชะๆ หัดพูดหัดไปหัดมาก็เลิกพูด กลายเป็นหัดคราง ต่อมาพัฒนาเป็นหัดครวญ จนเป็นโหยหวนไปในที่สุด ความติดใจทำให้คนสองคนต้องหัดพูดอย่างต่อเนื่องจน “ถอน” ไม่ขึ้น
เสี่ยหนุ่มที่เป็นผัวมัวไปวุ่นวายกับการเมืองจนไม่เหลียวหลัง หันกลับมาอีกทีถึงผงะ ตกตะลึงพรึงเพริดเหมือนจู่ๆ พบว่าของลับตัวเองหายวับไปกับตา ต้องยอมหย่าทั้งน้ำตา ในใจคงแค้นไอ้เทือกจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก จากนั้นมาไอ้เทือกกับแม่สาวหัดพูดก็รื่นเริงเหมือนดอกไม้ทองรับแสงตะวัน แสดงตัวกันโจ๋งครึ่ม ไม่หวั่นหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น ครั้งหนึ่งยังลือลั่นไม่รู้จบ คือบทบาทของฝ่ายชายชนิดลงคลานสี่ตีนอยู่ใต้โต๊ะในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง แล้วให้ตวัดลิ้นให้ “บริการ” แก่แม่สาวนักพูด จนแกเลิกพูดไปเลยทั้งคืน
อู๊ว์ยยยย....
วีรกรรมสุดท้ายที่แกขยับขึ้นมาถึงขั้น “ท้ายวัง” ก็คงจะเห็นตัวอย่างจากคุณพี่ผู้ใหญ่ในพรรคที่ชื่อ“บัญหยาด” เพราะพี่หยาดแกไปได้เสียแป๊ะเจี๊ยะกับหญิงผู้สูงศักดิ์หนักแผ่นดินเข้าคนหนึ่ง ที่มีชื่อย่อว่า “นาง จ.”หรือ “ท่านผู้ใหญ่ จ.” ที่จิตรเคยเล่ามาแล้วในตอน “องคมนตรีกับสตรีชั่ว” แล้วเห็นเขาดีวันดีคืน ลงทุนก็แต่น้ำในระบบชลประทานเท่านั้นเอง ไม่เห็นจะเหนื่อยยากอะไร
ในที่สุดแกก็อาศัยว่าพรรคแกมันเป็นร่างทรงของปิศาจหลวงนฤบาลฯ ได้ใกล้ชิดกับคนใหญ่คนโตและคนระดับหน้าห้องนอกห้องของคนเหล่านี้บ่อยๆ แกก็เลยรู้จักกับสตรีนางหนึ่ง หน้าตาไม่ได้สวยสะนัก ออกจะคล้ำๆ อยู่ ที่มีชื่อว่า “หนูดาว” (ชื่อจริงคงไม่ต่างจากนี้นัก แต่จิตรบอกตรงๆ ไม่ล่าย ความสูงศักดิ์ของแกจะหล่นใส่หัวแม่ตีนรากหญ้าของจิตรเข้า)
หนูดาวคนนี้สำคัญนักหนาล่ะท่านเอ๋ย อยู่ติดตัวติดตูดของคนโตคับฟ้าขนาดแค่กระดิกนิ้วตีนก็เปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้ เธอสัมผัสตัวคนๆ นั้นก็ได้ อาบน้ำสระผมคนๆ นั้นก็ได้ วันดีคืนดีถึงกับนอนหน้าเตียงเลยเทียว
จริงๆ หนูดาวแกก็มีผัวเป็นตัวเป็นตนอยู่ นายทหารซะด้วยนะ แต่มนต์ไอ้เทือกมันคงเด็ดขาด ถือคติว่า “ผัวบัณฑิต” หรือจะสู้ “ผัวโจร” มันเลยปรนเปรอด้วยรสชาติอย่างโจรไพร ชนิดที่สาวแก่แม่หม้ายระดับนี้ไม่เคยเจอ เห็นแต่ในหนังโป๊ ไม่รู้เค้าทำกันจริงๆ ได้ เลยชอบอกชอบใจจนขาดไม่ได้อีกต่อไปในโลกนี้ ไอ้เทือกมันก็เลยมีตั๋วเข้าสู่วงจรอำนาจอันใหญ่ยิ่งหาอะไรเปรียบมิได้ มีอะไรมันก็ฝากผ่านหนูดาวเข้าไป หนูดาวแกก็ดี๊ดี ถือว่าผัวอุตส่าห์ (หน้าด้าน) ฝากมาก็จัดการส่งต่อให้ถึงตัวทุกทีไป ทำให้ตอนหลังไอ้เทือกมันมีอำนาจแฝงเร้นมากกว่า “อภิสัตว์” ที่มันอุตส่าห์ปั้นจากอสุจิของ “นายชวนหัว” ด้วยซ้ำไป
นี่แหละท่าน เมืองไทยวิไลตา รู้แล้วสดชื่นรื่นเริงเหมือนนกยามเช้าไหม ของบางอย่างเราไม่รู้มาก่อน เราก็นึกว่าเรื่องอัปรีสีย์กบาลมันมีแต่ในหมู่ชาวบ้าน อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ว่าเกิดเหตุทางเพศตรงนั้นตรงนี้ ล้วนแต่รากหญ้าทั้งนั้น ความจริงไอ้ที่มันชั่วสุดๆ มืดดำสุดๆ มันอยู่ตรงที่สูงสุดนั่นล่ะท่าน
ไอ้คนหน้าด้านอย่างไอ้เทือกมันรู้ดีนักล่ะ มันถึงทำท่ากราบไหว้ให้ความเคารพนบนอบ แล้วก็ปิดไฟ จากนั้นก็ลงมือปฏิบัติการชลประทานส่งน้ำไปตามตามท่อทางต่างๆ เพื่อให้เกษตรกรชั้นสูงได้ทำไร่ไถนาอย่างปอเปียง
นี่ล่ะท่านผู้ชมที่รัก.... เรื่องของท่านรองฝ่ายความมั่น “ค.” แห่งปี!
-------------------------------