ที่มา ไทยรัฐ
ทางด้านของพรรคประชาธิปัตย์โดย คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติอ้างว่าคณะทำงานมีความกังวลเงินสนับสนุนพรรคการเมือง 29 ล้านบาทมากกว่าคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท เนื่องจากมาตรา 93 พ.ร.บ. การเมืองกำหนดให้ กกต.ส่งเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน หลังจากมีคำวินิจฉัยซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 26 เม.ย.นี้
แน่นอนว่าต่อจากนี้ไปกระบวนการพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์จะถูกจับตาเป็นพิเศษ เพราะที่ผ่านมาประชาธิปัตย์ ถูกเพ่งเล็งว่าเส้นใหญ่ มีไม้ค้ำเลิศล้ำด้วยตัวช่วย ดังนั้น ตัวบุคคลที่เป็นคณะทำงาน ทั้งฝ่ายของพรรคประชาธิปัตย์ อัยการสูงสุด กกต. เลยไปจนถึงศาลรัฐธรรมนูญจะถูกแรงกดดันสารพัด เชื่อว่างานนี้ถ้ายุบก็มีปัญหา ถ้าไม่ยุบยิ่งมีปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะข้อครหาสองมาตรฐานต้องระวังให้มากที่สุด
ยิ่งพรรคประชาธิปัตย์หนังเหนียวอยู่ด้วย เจอข้อหามือเปื้อนเลือด เจอข้อหาโกงเงินสนับสนุนพรรคการเมือง เป็นรัฐบาลอื่นกลับบ้านเก่าไปนานแล้ว ดังนั้น ใครเป็นเพื่อนใครสัมพันธ์กับใคร จะถูกขุดคุ้ยทุกซอกทุกมุม ความพยายามที่จะออกมาชี้ว่า ผลของคดีเงินบริจาคกับการทุจริตการเลือกตั้งเป็นคนละเรื่องกัน และกรรมการบริหารพรรคก็คนละชุดกัน อาจเกิดความคลาดเคลื่อนทางบัญชี ดูทะแม่งชอบกล
ประกอบกับชนวนร้าวในพรรคประชาธิปัตย์ระหว่าง คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ กับแกนนำสำคัญของพรรค โดยเฉพาะประเด็นแต่งตั้ง ผบ.ตร.มาจนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ ที่ล่าสุดทำเอารองนายกฯสุเทพเดินน้ำตาซึมออกจากที่ประชุมพรรค
น่าจะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
พรรคประชาธิปัตย์จะเหมือนเดิมหรือไม่เป็นอีกเรื่อง แต่สภาพของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากถูกยุบพรรคจริงๆอะไรจะเกิดขึ้น ลำพังพรรคเพื่อไทยศัตรูคู่อาฆาตก็รับมือไม่ไหวแล้ว ยังมาเจอวิกฤติการเมืองอีกกระทอก
ประการนี้ทำให้รองนายกฯสุเทพมองเรื่องของพันธมิตรทางการเมืองมากกว่าความเป็นไปของพรรคประชาธิปัตย์ แต่แกนนำรุ่นใหญ่จะมองถึงการดำรงอยู่ของความเป็นพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า
นี่ไม่ใช่ความขัดแย้งครั้งแรกในพรรคประชาธิปัตย์ แต่ความขัดแย้งทุกครั้งที่ผ่านมาจะแรงอย่างไรก็ ไม่ถึงกับต้องถูกยุบพรรค หรือจะต้องเปลี่ยนสัญลักษณ์ชื่อแซ่เหมือนในครั้งนี้
ประชาธิปัตย์มีทางเลือกอยู่สองทางคือดิ้นให้หลุด หรือเกิดใหม่ แต่ด้วยวิกฤติที่ถาโถมเข้ามาเป็นระลอกคลื่นโดยฝีมือของหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ยามนี้ประชาธิปัตย์ทรงตัวได้ยากลำบาก
เป็นกงเกวียนกำเกวียน.
หมัดเหล็ก
เพื่อไทย
Friday, April 23, 2010
หนังเหนียว
วันก่อน คุณวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุดออกมาแถลงว่า คุณจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด มีคำสั่งแต่งตั้ง คุณอนุชาติ คงมาลัย รองอัยการสูงสุด เป็นประธานคณะทำงานรับผิดชอบ คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีรับเงินบริจาค 258 ล้านบาทอย่างมีเงื่อนงำ รวมทั้งการใช้เงินจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ผิดวัตถุประสงค์