ที่มา Thai E-Newsอิทธิฤทธิ์Black propaganda- (บน)สำนักข่าวต่างประเทศเสนอภาพข่าวกลุ่มพรางชมพูที่แปลงร่างเป็นม็อบเสื้อหลากสีชูธงพระปรมาภิไธย พร้อมกับภาพตัดต่อทักษิณเป็นคนป่วยหนักใกล้ตาย อีกภาพตัดต่อเป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นรูปแบบที่นักโฆษณาชวนเชื่อเครือสนธิลิ้มถนัด (ล่าง)ม็อบนี้มักนำพระบรมฉายาลักษณ์มาทำเป็นหมวกใส่ชุมนุมเสมอ ซึ่งพวกนี้ทำไปในนามผูกขาดความจงรักภักดี แต่หากเป็นฝ่ายอื่นทำจะโดนข้อหา"จาบจ้วง"ทันที(ภาพ:AP)
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
22 เมษายน 2553
บทความของอัญชะลี ไพรีรักษ์ หัวข้อเรื่อง อัญเชิญสมเด็จทักษิณขึ้นครองราช!!! ในเวบสื่อกระบอกเสียงสนธิลิ้ม อาจเป็นตัวสะท้อนวิธีคิดวิธีให้ร้ายป้ายสีของนักโฆษณาชวนเชื่อชนิดพลิกขาวเป็นดำ(Black propaganda)แห่งค่ายASTVผู้จัดการได้เป็นอย่างดี
และก็สะท้อนถึงบรรดาผู้เสพสื่อนี้ คนเสื้อเหลืองที่มาพรางชมพู และอ้างเป็นเสื้อหลากสีในวันนี้ได้อย่างดียิ่ง..
กล่าวคือคนพวกนี้มักจะอ้างให้ร้ายป้ายสีทักษิณ หรือฝ่ายเสื้อแดงแบบลอยๆ ไม่มีที่ไปที่มา แล้วก็นำไปขยายผล หากเป็นพวกที่ไปเล่นตามอินเตอร์เน็ต หรือเฟสบุ๊คก็มักนำรูปตัดต่อไปตัดต่อเอง ชงเอง และรับมุกกันเอง ตอนนี้ขยายไปยังม็อบของพวกพรางชมพูด้วย
อัญชะลีเขียนในตอนท้ายบทความของเธอว่า "..แท็กซี่สีแดง ที่ปากซอย วิภาวดี 16 โชคชัยร่วมมิตร แจกเอกสารทุกวันๆ ละมากๆ ใจความบาดใจจนเจ็บว่าขอให้พี่น้องเสื้อแดงทั่วประเทศ รวมตัวกันเพื่อร่วมมือแสดงจุดยืนบีบรัฐบาลยุบสภา และอันเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จทักษิณ ที่เราเคารพและบูชามาอยู่คู่ไทยและอยู่ในใจปวงชนชาวไทยทุกคน ช่วยกันเพื่อให้สมเด็จทักษิณได้เสด็จกลับสู่ประเทศไทย เพื่อขึ้นครองราชสืบต่อไป ปกครองประเทศ และคนไทยให้อยู่เย็นเป็นสุข
เอาละเหวย ลิเกคนบ้าที่ท้ายตลาดสด มันกลับมาอีกแล้วโว้ย แต่คราวนี้มาแรง เห็นจะไม่ใช่มีดไม้มารบชิงบ้านชิงเมืองชิงราชบัลลังก์นะสิ....เมษาปีนี้ทำไมมันร้อนอย่างนี้นะ "
แต่อัญชะลีก็ไม่ได้บอกว่าแท็กซี่สีแดงที่ว่าแจกเอกสารแบบนี้ทุกๆวัน วันละมากๆนั้น ชื่อ นามสกุลอะไร เลขทะเบียนรถอะไร ในเมื่อแจกเอกสารที่ว่าทุกวัน วันละมากๆทำไมไม่มีพสกนิกรผู้จงรักภักดีไปแจ้งความดำเนินคดีกับแท็กซี่คนนี้ชงเองกินเอง-ป้ายแบบนี้ที่พวกผู้จัดการASTVใช้คำนี้ล้างสมองผู้เสพสื่อจนติดหู แล้วก็นำไปแปะแถวที่ชุมนุมสีลม แน่นอนว่ากลายเป็นข่าวพาดหัวในนสพ.ASTVผู้จัดการในวันรุ่งขึ้น และวนเวียนทางASTVตลอด24ชั่วโมง
คนเหล่านี้ใช้หลักโฆษณาชวนเชื่อแบบง่ายๆ หยิบฉวยข่าวลอยๆขึ้นมาแล้วขยายผล ผลิตซ้ำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อไร้หลักฐานใดๆ ก็ใช้รูปตัดต่อ หรือทำสติ๊กเกอร์ไปแปะเองแบบสติ๊กเกอร์"ประธานาธิบดีทักษิณแห่งรัฐไทยใหม่" จากนั้นก็ขยายผลวนเวียน และทำให้ชนชั้นกลางผู้ฉาบฉวยได้เสพแบบสำเร็จรูป และกลายเป็นพวกซาบซึ้งน้ำตาไหลพราก พร้อมจะออกมาเข่นฆ่าเสื้อแดง หรือป้ายหัวเป็นผู้ก่อการร้ายที่ต้องเจอฆ่าด้วยกฎอัยการศึกอาการระยะสุดท้ายของผู้เสพสื่อลิ้ม-สำนักข่าวต่างประเทศนำเสนอภาพข่าวสตรีผู้นี้ถือพระบรมฉายาลักษณ์ไปร่วมชุมนุมกับม็อบพรางชมพู โดยถูกฝังหัวมาว่าพวกเสื้อแดงจะล้มล้างสถาบัน เป็นผู้ก่อการร้าย และจะสถาปนารัฐไทยใหม่
การโฆษณาชวนเชื่อและblack propagandaเจริญขึ้นทุกๆวัน นั่นก็เป็นเครื่องสะท้อนถึงความฉาบฉวย และขลาดเขลาของชนชั้นกลางผู้เสพสื่อขยะแบบที่อัญชะลีและพวกกระบอกเสียงสนธิลิ้ม แสยะยิ้มในผลงานกระหายเลือดของพวกมัน.