ที่มา ไทยรัฐ
ยิ่งวันนี้ รัฐบาลมีดาบอาญาสิทธิ์คือ "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" อยู่ในมือ
ทำให้ "อภิสิทธิ์-สุเทพ" มีอำนาจเบ็ดเสร็จสั่งใช้กำลังทหารสองแสนคน ตำรวจอีกสองแสนนายได้อย่างสะดวกโยธิน
แถมมีอำนาจพิเศษสั่งขังประชาชน โดยไม่ต้องขอหมายศาลได้ 30 วัน
และอื่นๆที่ "แม่ลูกจันทร์" ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ
แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ "อภิสิทธิ์-สุเทพ" ไม่สามารถสั่ง ส.ส.ลูกพรรคประชาธิปัตย์ 172 คน ให้ลงมติสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สนองความต้องการของพรรคร่วมรัฐบาล
นี่ คือจุดแข็งของพรรคประชาธิปัตย์ ที่แตกต่างจากพรรคอื่นชัดเจน
"สุ เทพ" เปิดอกพูดตรงๆว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่พร้อมยุบสภาฯ เพราะถ้าเลือกตั้งใหม่ก็แพ้พรรคเพื่อไทย จึงจำเป็นต้องพึ่งพรรคร่วมฯให้ช่วยประคองรัฐบาล
เมื่อพรรคร่วมฯ ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ประเด็น เราก็ควรแสดงนํ้าใจลงมติสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เพราะถ้าเราไม่ มีนํ้าใจให้คนอื่น คนอื่นจะมีนํ้าใจให้เราได้อย่างไร??
เหตุผลของ "สุเทพ" ก็มีนํ้าหนักน่าฟัง
เพียงแต่เหตุผลของ "ชวน หลีกภัย" กับ "บัญญัติ บรรทัดฐาน" หักล้างเหตุผลของ "สุเทพ" อย่างสิ้นเชิง
สองผู้ อาวุโสเห็นว่าปัญหายุบพรรคเร่งด่วนกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าจะแก้รัฐ-ธรรมนูญต้องทำให้เป็นระบบ มีระยะเวลา มีคณะกรรมการดูแลอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้มีข้อครหาว่าแก้เพื่อประโยชน์ตัวเอง
ข้อสำคัญ พรรคประชาธิปัตย์เคยลงมติไม่เห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะให้กลับไปลงมติสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญจะเสียหลักการ
สรุปสั้นๆ ชัดๆ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ปฏิเสธแก้รัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่เห็นด้วยที่จะต้องรีบร้อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ประเด็น ตามที่พรรคร่วมฯกดดัน
ควรรอให้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นปกติ เสียก่อน แล้วค่อยพิจารณากันใหม่ก็ยังไม่สายเกินเพล
โดยพรรคมีมติให้ "อภิสิทธิ์-สุเทพ" ไปพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อประสานความเข้าใจ
"แม่ ลูกจันทร์" ฟันธงว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังต้องค้างเติ่ง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ลงมติสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ
ก็อยู่ที่ พรรคร่วมรัฐบาลจะทำอย่างไร ต่อไป??
คำตอบคือ พรรคร่วมรัฐบาลก็คงไม่ ถอนตัวออกจากรัฐบาล
เพราะพรรคร่วมฯก็ไม่พร้อมยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่เหมือนกัน
ฉะนั้น ก็ต้องอยู่กันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะยุบสภาฯ
"แม่ลูกจันทร์" เห็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่ควรมุ่งจะเอาประโยชน์ตัวเองมากเกินไป
เพราะ จะเข้าข่ายค้ากำไรเกินควร??
ตอนย้ายขั้วมาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งรัฐบาลก็ได้แบ่งโควตารัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ๆกันสบายอุรา
พอเกิด วิกฤติม็อบเสื้อแดงเรียกร้องให้ ยุบสภาฯ แทนที่พรรคร่วมฯจะเดือดเนื้อร้อนใจ กลับเอากรณีม็อบเสื้อแดงเป็นเงื่อนไขกดดัน ให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ความจริง "แม่ลูกจันทร์" เห็นด้วยให้เปลี่ยนกติกาเลือกตั้งจากระบบแบ่งเขตเรียงเบอร์ กลับไปใช้ระบบเขตเดียวเบอร์เดียว
เพราะระบบเขตเดียวเบอร์เดียวจะ ทำให้พรรคขนาดกลางขนาดเล็กมีโอกาสได้ ส.ส.มากกว่าเดิม
แต่ "แม่ลูกจันทร์" ไม่เห็นด้วยที่พรรคร่วมฯฉวยโอกาสตอนที่รัฐบาลมีปัญหามากดดันพรรค ประชาธิปัตย์ต้องแก้รัฐธรรมนูญทันที
มีแต่ประโยชน์ตัวเองทั้งนั้น ประโยชน์ชาวบ้านไม่ได้เคยห่วงใย.
"แม่ลูกจันทร์"
เพื่อไทย
Friday, April 23, 2010
กดดันกันเอง
ย่อมเป็นที่ทราบดีว่า "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" กับ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" คือสองผู้ยิ่งใหญ่ที่กุมอำนาจการเมืองไทยในปัจจุบัน