โพสต์ทูเดย์ — เที่ยงคืน 14 ม.ค. ปิดฉาก “ทีไอทีวี” หลังกฎหมายทีวีสาธารณะบังคับใช้ กรมประชาฯ เลิกผังเดิม รอคณะกรรมการฯ สานต่อ
นายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ (กปส.) กล่าวว่า ตั้งแต่เวลา 24.00 น. วันที่ 14 ม.ค. เป็นต้นไป จะยุติการออกอากาศ รายการเดิมทั้งหมดของสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ที่มีผลบังคับ
ทั้งนี้ ทางสถานีจะนำรายการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้า พี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ มาออกอากาศเป็นการชั่วคราว และรายการจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ มาออกอากาศแทน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจอมืด
สำหรับผังรายการหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารชั่วคราว โดยหลังจากคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.มีมติแต่งตั้งกรรมการนโยบายชั่วคราวจำนวน 5 คนแล้ว ทางกรมประชาสัมพันธ์จะ ส่งมอบการดำเนินงานทุกอย่างให้คณะกรรมการฯ ทันที
สำหรับเรื่องการรับพนักงาน ทีไอทีวีเดิมที่มีอยู่กว่า 800 คน ต้องขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารชั่วคราวว่าจะรับกลับมาทำงานหรือไม่
คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการเตรียมความพร้อมการเปลี่ยนผ่านสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีเป็นสถานีทีวีสาธารณะ กล่าวว่า จะนำรายชื่อ 5 คณะกรรมการนโยบายชั่วคราวเข้าเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (15 ม.ค. 2551) ภายหลัง พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงฯ มี ผลบังคับใช้ สำหรับพนักงานทีไอทีวีกว่า 800 คน ทางคณะกรรมการบริหารชั่วคราวจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะรับเข้าทำงานกับทีวีสาธารณะหรือไม่
“นี้เป็นแค่การเตรียมการเท่านั้น อย่าตีตนไปก่อนไข้” คุณหญิงทิพาวดี กล่าว
ด้านบรรยากาศที่สถานีทีไอทีวีหลังจากได้รับหนังสือแจ้งการงดออกอากาศจากกรมประชาสัมพันธ์ลงวันที่ 14 ม.ค. ให้งดออกอากาศเวลา 24.00 น. ของวันที่ 14 ม.ค. ภายในสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยมีพนักงานหลายร้อยคนเข้ามารวมตัวกันเพื่อ ดูทิศทางว่าจะเดินหน้าไปอย่างไร และบางส่วนเก็บข้าวของกลับบ้าน ทั้งนี้พนักงานได้ใช้รายการฮอตนิวส์ รายการข่าวภาคค่ำ ช่วงท้ายรายการประกาศอำลาผู้ชมรายการ
นายอัชา สุวรรณปากแพรก ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว ได้พยายาม มาคุยกับพนักงานทุกคนว่าให้ทุกคนมาทำงานตามปกติ โดยให้เหตุผลว่า จะยึดมั่นในสัญญาจ้างเดิม และได้นัดรวมตัวกันในวันที่ 15 ม.ค. นี้
ในวันนี้ พนักงานทีไอทีวีจะยื่นหนังสือถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นธรรม