ทำในสิ่งที่พึงทำ เว้นในสิ่งที่พึงเว้น รู้จักตัดสินใจให้เข้ากับสถานการณ์”
หากเป็นไปตามคติของ “ลุงหมัก” นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ยกขึ้นมาเป็นธรรมะประจำใจในวันมาฆบูชา
ดูท่าว่า “มือที่มองไม่เห็น” จะไม่ใช่สิ่งที่พึงเว้นสำหรับนายกรัฐมนตรี
เพราะล่าสุด “ลุงหมัก” ก็ยังเดินหน้าไล่ล่า ล่าสุดยืนยันว่าได้เค้าแล้ว เอ่ยชื่อมาก็รู้จัก แต่ต้องดำเนินการตามกรรมวิธี
ต้องไม่ให้มีหน้าที่ทำ
ประเมินกันในชั้นนี้ “มือที่มองไม่เห็น” น่าจะเป็นแค่ระดับเครือข่ายซึ่งอยู่ในวิสัยที่อำนาจรัฐจะล้างบางได้ เพราะ “ลุงหมัก” เองก็บอกปัดแล้วว่า อย่าโยงไกลไปถึง “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ”
“ไม่ต้องถึงกับลงโทษ เพียงแต่ไม่ให้เขามีหน้าที่ทำเท่านั้นเอง” จากสัญญาณของนายกรัฐมนตรี เบื้องต้นจับตาให้ดีๆ เป้าของนายสมัครน่าจะพุ่งไปที่เครือข่ายของคณะยึดอำนาจที่ยังหลงเหลืออยู่ในตำแหน่งหลักๆ ยังมีอิทธิฤทธิ์ให้คุณให้โทษกับพรรคพลังประชาชนได้
ข้าราชการระดับสูงคนไหนจะโดนเด้งให้ฮือฮา “บิ๊ก” คนไหนจะโดนย้ายฟ้าผ่า
น่าจะได้คำตอบเร็วๆนี้
และในขณะที่ “ลุงหมัก” กำลังเปิดยุทธการไล่ล่า “มือที่มองไม่เห็น” ที่อ้างกันว่ามีเป้าหมายพยายามล้มพรรคพลังประชาชน จนป่านนี้ก็ยังพยายามล้มอยู่
มันก็โรมรันพันตูไปถึงชะตาของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่กำลังลุ้นระทึก ล่าสุดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เลื่อนวันลงมติคดีทุจริตเลือกตั้งจังหวัดเชียงราย ไปฟันธงกันในวันที่ 26 กุมภาพันธ์
หลังจากมีสัญญาณแว่วๆ จงใจปล่อยให้หลุดออกมาจากคณะอนุกรรมการ กกต.สรุปว่าคดีมีมูล เสนอ กกต.ใหญ่แจกใบแดงให้นายยงยุทธ
จุดพลุให้แตกตื่น
และก็เป็นอะไรที่สะท้อนถึงเกมประลองกำลังที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง เมื่อ “เจ๊สด” นาง สดศรี สัตยธรรม กกต. ออกมาโวยวาย ไล่บี้หาต้นตอคนปล่อยข่าว ตั้งท่าสอบไอ้โม่งในคณะอนุกรรมการฐานจงใจกดดัน กกต.ใหญ่
หักเหลี่ยมเฉือนคมกันเอง
ย้อนมาตรงนี้มันก็ยิ่งน่าสนใจกับคำถามของนักข่าวที่ว่า มือที่มองไม่เห็นจะเข้าครอบงำการทำงานของ กกต. “ลุงหมัก” รีบแสดงอาการปกป้องอย่างออกหน้าออกตา
“ไม่เลย ผมเป็นคนที่ป้องกัน กกต.ที่สุด เป็นคณะกรรมการที่ผมแน่ใจ การทำงานเรียบร้อย ควบคุมการเลือกตั้ง ผู้คนชมเชย ซึ่งผมยังถูกสอบอยู่ ไม่มีอะไรกังขาเลย จะพยายามใช้มือของ กกต. ผมก็พยายามป้องกัน”
“สมัคร” เล่นบทญาติดี แอ่นอกปกป้อง กกต.เต็มที่เลย
เอาเป็นว่า เท่าที่เช็กอัตราต่อรองล่าสุดในคดีของนายยงยุทธ ตัวเลขอยู่ที่ 3 ต่อ 2
โอกาส “แดง” ยังมากกว่า “ขาว” อยู่นิดๆ
แต่อย่างไรก็ตาม คิวของนายยงยุทธยังได้ยื้อกันอีกยาว เพราะกระบวนการไม่ได้จบที่ กกต. กว่าจะส่งต่อให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง และลึกไปกว่านั้นกว่าจะเลยเถิดไปถึงคดียุบพรรคพลังประชาชน
หนทางยังอีกยาวไกล
แต่ที่จะได้เสียวก่อนเลย คิวของพรรคชาติไทย ล่าสุดนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค เดินทางเข้าให้ปากคำต่อทีมสอบยุบพรรคเป็นปากสุดท้าย พร้อมๆกับค่ายมัชฌิมาธิปไตยที่ “เจ๊เป้า” นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เลขาธิการพรรค มีคิวเข้าชี้แจงในวันที่ 27 กุมภาพันธ์
และทั้งชาติไทยและมัชฌิมาฯก็ได้ลุ้นพร้อมกัน
เพราะนายบุญทัน ดอกไธสง ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณียุบพรรคของ กกต. ขีดเส้นเวลา จะสรุปสำนวนเสนอ กกต.ใหญ่ประมาณต้นเดือนมีนาคม
ชนิดที่เซียนไม่กล้าฟันธง หวยออกได้ทุกหน้า
และไม่แน่ใจว่า ข่าวไหนจะใหญ่กว่ากัน เพราะถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีการยืนยันกำหนดการ “ปิ๊กบ้าน” ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะบินกลับประเทศไทยต้นเดือนมีนาคม
มาได้จังหวะพอดี.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
คอลัมน์ ข่าวการเมือง(วิเคราะห์)