WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, February 23, 2008

สว.ลากตั้ง กาฝากระบอบประชาธิปไตย มะเร็งร้ายของระบบ

ผมเห็นรายชื่อของ สมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการสรรหา และได้รับการรับรองโดย กกต. แล้วครับ ก็ตามที่คาด แทบทั้งหมดเป็นข้าราชการเกษียณ มีพวกสื่อมวลชน สายหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และสายพันธมิตรเพื่อรัฐประหาร เสริมเข้ามาด้วย รวมทั้งมี สนช. หรือสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ได้รับการแต่งตั้งโดย คณะรัฐประหารเข้ามาด้วย ก็ชัดเจนว่า สว.ลากตั้งพวกนี้เป็น ผู้แทนของใคร

ปัญหาไม่ใช่วุฒิสมาชิกชุดนี้มี ความรู้ความสามารถอย่างไร มีคุณสมบัติอย่างไร หรือปลอดจากพรรคการเมืองแค่ไหน

ปัญหาคือ วุฒิสมาชิกชุดนี้ "ไม่ใช่ตัวแทนของปวงชนชาวไทย" แม้ว่าจะเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญว่า วุฒิสมาชิกทุกคนคือ "ผู้แทนของปวงชนชาวไทย" แต่ข้อเท็จจริงแล้วพวกเขาไม่ใช่ พวกเขาไม่ได้มีอะไรเชื่อมโยงกับประชาชน พวกเขาเป็นแค่ "กาฝาก" ที่เข้ามาในระบบ และยังเป็น "มะเร็งร้ายของระบอบประชาธิปไตย" อีกด้วย

โดยทางทฤษฎีที่ใช้กันทั่วโลกของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยแล้ว ฝ่ายนิติบัญญัติ คือ "ตัวแทนของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง" ที่เข้ามาทำหน้าที่ในสภา ไม่ว่าจะเป็นสภาสูงหรือสภาล่างก็ตาม แต่เมื่อ สว.ลากตั้ง ชุดนี้ถูกเลือกขึ้นมา โดยตัวแทนของระบบราชการ พวกเขาจึงเป็นได้เพียงแค่ ตัวแทนของระบอบอำมาตยาธิปไตยเท่านั้น

สว.ลากตั้งกลุ่มนี้ไม่มีสิทธิอ้างประชาชนแต่อย่างใดทั้งสิ้น พวกเขาไม่มีความชอบธรรมที่จะอ้างอย่างนั้น เพราะพวกเขาไม่ใช่คนของประชาชน ไม่ใช่คนของชาวบ้าน ที่มาของคนเหล่านี้ มาจากการใช้อำนาจของ "คณะรัฐประหาร" ใช้อิทธิพลของกลุ่มชนชั้นนำ กลุ่มอภิสิทธิ์ชนใส่เนื้อหาเหล่านี้เข้าไปในรัฐธรรมนูญ แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะผ่านการลงประชามติของประชาชน แต่ประชาชนก็เหมือนตกอยู่ในสภาพโดนมัดมือชก และประชาชนส่วนใหญ่ต้องการหนีให้พ้นจากสภาพที่ประเทศต้องตกอยู่ใต้การปกครองของคณะรัฐประหารไปก่อน จึงจำใจต้องรับ รัฐธรรมนูญปี 2550 นี้

เมื่อที่มาของ สว.ลากตั้งชุดนี้ ไม่สง่างาม ต่อให้มีคุณสมบัติดีเด่นอย่างไร สว.ลากตั้งนี้ก็ไม่มีความชอบธรรมใดๆ ที่จะได้รับความเคารพและยอมรับนับถือ จากสังคมว่าเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทยแต่อย่างใดทั้งสิ้น

สำหรับผมแล้ว ผมจะไม่ยกมือไหว้คนเหล่านี้ เพราะถือว่าพวกนี้เป็นแค่ “ผู้แทนหรือนอมินีของกลุ่มอำมาตย์” ก็แค่นั้นเอง ไม่มีคุณสมบัติอันใดที่ผมจะมือไหว้ คนที่ไม่ใช่ผู้แทนของปวงชน

เมื่อ สว. เหล่านี้ เป็นแค่ตัวแทนของกลุ่มอำมาตย์ พวกเขาก็ต้องปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มอำมาตย์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แม้คนเหล่านี้จะอ้างว่าทำเพื่อชาติ แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว “ประเทศชาติไม่ได้มีตัวตนอิสระที่แยกออกไปจากประชาชน” ประเทศชาติคือ การรวมตัวของประชาชนรายบุคคล รายครอบครัว แล้วกลายเป็นชาติ ผลประโยชน์ของชาติ คือ ผลประโยชน์ของประชาชนรายบุคคล แล้ว Sum รวมกันเป็นผลประโยชน์ของชาติ ผลประโยชน์ของคนกลุ่มใหญ่ เช่นชาวรากหญ้า จึงเป็นผลประโยชน์ส่วนใหญ่ของชาติ เพราะเมื่อนำมา Sum รวมกัน ก็จะกลายเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุด

ประเทศชาติจึงไม่ใช่ “สิ่งที่เป็นนามธรรม” ไม่ใช่สถาบันใดๆ ไม่ใช่ กลุ่มอภิสิทธิ์ชนใด ๆ แต่มันคือ การรวมกันของประชาชนทุกคนในประเทศนี้

เมื่อ สว.ลากตั้งชุดนี้เป็นแค่ตัวแทนของประชาชนกลุ่มเล็กๆ ไม่ถึง 10 คน จึงไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศแต่อย่างใดทั้งสิ้น

พวกอำมาตย์ทั้งหลาย ที่จริงก็เป็นแค่กลุ่มผลประโยชน์กลุ่มหนึ่งในสังคมเท่านั้น มีจำนวนไม่มากนัก เป็นประชาชนกลุ่มเล็กๆ ที่ไม่ได้สร้างผลผลิตอันใดให้แก่สังคม นอกจากเป็นกาฝากเกาะกินสังคมเท่านั้น คนกลุ่มนี้พยายามใช้อิทธิพลของตน โฆษณาชวนเชื่อ ให้คนเชื่อว่า “นักการเมืองเป็นคนเลว” เป็นพวกที่สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ ดังนั้น ประเทศนี้ควรปกครองด้วยกลุ่มอำมาตย์เท่านั้น และ สว.ที่มาจากการเลือกตั้ง ก็เป็นเครือญาตินักการเมือง มีสายสัมพันธ์กับนักการเมือง

กลายเป็นว่าการมีสายสัมพันธ์กับพรรคการเมือง กับนักการเมืองเป็นสิ่งที่เลวไป ในสายตาของพวกชนกลุ่มน้อยเหล่านี้

หากพูดให้ถึงที่สุดก็คือ หากการมีสายสัมพันธ์กับพรรคการเมือง นักการเมือง ที่เป็นตัวแทนของประชาชน เป็นสิ่งที่เลวแล้ว ก็ต้องพูดให้จบต่อไปว่าว่า การมีสายสัมพันธ์กับ “ประชาชน” กลายเป็นสิ่งที่เลว” หรือ การมีสายสัมพันธ์กับประชาชนกลุ่มใหญ่ของประเทศ กลายเป็นสิ่งที่เลว สู้มีสายสัมพันธ์กับ “ประชาชนกลุ่มเล็กๆ แบบพวกอำมาตย์” ไม่ได้ จึงจะเป็นสิ่งดี มันกลายเป็นตรรกะที่แปลกประหลาด เห็นแก่ตัว เป็นเหตุผลที่ในหมู่ชนที่เจริญแล้ว ไม่สามารถจะยอมรับได้ทั้งสิ้น และไม่ได้มีมาตรฐานทาง คุณธรรม จริยธรรม ใดๆ รองรับทั้งสิ้น

ผมไม่สนใจว่า สว.ที่ประชาชนเลือกขึ้น จะมีสายสัมพันธ์เครือญาติกับนักการเมืองอย่างไร จะเป็นลูกนักการเมือง เป็นเมียนักการเมือง หรืออะไรก็ได้ แต่เมื่อประชาชนเลือกคนเหล่านี้ขึ้นมา “ด้วยมือของพวกเขาเอง” สว.ที่มีจากการเลือกตั้งเหล่านี้จึงเป็น “ตัวแทนของปวงชนชาวไทย” อย่างสมบูรณ์ มีความชอบธรรมอย่างสมบูรณ์ มีเกียรติและศักดิ์ศรีในฐานะผู้แทนของปวงชนชาวไทยอย่างสมบูรณ์

เมื่อพวกเขามีที่มาจาก ปวงชนชาวไทย สว.ที่มาจากเลือกตั้ง จึงมีแนวโน้มที่จะปกป้องผลประโยชน์ของ “ประชาชนที่เลือกพวกเขาขึ้นมา” และนั่นคือ “ผลประโยชน์ของชาติไทยนั้นเอง เพราะประชาชนก็คือชาติ

ผมไม่คิดว่า สว.ที่มาจากเลือกตั้ง จะสามารถทำอะไรที่ขัดแย้งกับความต้องการประชาชนที่เลือกเขาขึ้นมาได้ เพราะหากทำอย่างนั้น ก็เท่ากับเป็นการทำลายอาชีพของตนเอง ไม่มีมนุษย์คนใดที่ยังมีสติสัมปชัญญะ มีเหตุมีผล จะทำลายอาชีพของตนเองหรอกครับ

การทำหน้าที่ของ สว.เลือกตั้ง อาจไม่เป็นที่ชอบใจของประชาชนบางกลุ่ม เช่น คนกรุงเทพฯ ที่เป็นพวกอภิสิทธิ์ชน เป็นพวกคนชั้นสูง หรือพวกอำมาตย์ทั้งหลาย แต่คนเหล่านี้ก็เป็นแค่ประชาชนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น ก็ไม่ควรจะมีเสียงที่ดังกว่าประชาชนกลุ่มอื่นๆ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

ผมไม่ให้เกียรติ แก่ สว.ลากตั้งเหล่านี้ครับ เป็นพวกที่ผมไม่ยกมือไหว้อย่างเด็ดขาด และผมก็ขอเชิญชวนให้ “ประชาคมที่รักประชาธิปไตยทั้งหลาย” ไม่ให้เกียรติแก่ สว.ลากตั้งเหล่านี้ ไม่ต้องไปนับถือ หรือยกมือไว้แต่อย่างใด เพราะพวกเขาคือ กาฝากของระบอบประชาธิปไตย พวกเขาคือมะเร็งร้ายของระบอบ พวกเขาเป็นแค่ตัวแทนของกลุ่มอภิสิทธิ์ชน เป็นตัวแทนของคนหยิบมือเดียว

เมื่อที่มาไม่ถูกต้อง การดำรงอยู่ก็ย่อมไม่ถูกต้อง กลายเป็นส่วนเกินของสังคม เป็นส่วนเกินของระบอบไป

-------------------------

บทความ โดย ลูกชาวนาไทย

กลุ่มสื่อประชาชน โดยประชาชน...เพื่อประชาชน

จาก hi-thaksin