WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, February 23, 2008

พ่อครัว ในคราบนายกฯ

เครียด!!! กันมาทั้งอาทิตย์กับการแถลงนโยบายแผนงานของรัฐบาลต่อรัฐสภา บวกด้วยการถกเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตายเกี่ยวกับคดีสังหารหมู่ 6 ต.ค.19“บางกอกทูเดย์”...ฉบับนี้จึงขอพาไปสัมผัสเรื่องราวชีวิตส่วนตัวบางส่วนของ ด.ช.สมัคร สุนทรเวช หรือปัจจุบัน คือ นายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช ซึ่งเนื้อหาที่หยิบยกมาอาจเป็นเรื่องราวของจุดเริ่มต้นรายการ ชิมไป บ่นไป รวมไปถึงฉายาพ่อครัวในคราบนายกรัฐมนตรี และคนปากกับใจตรงกัน

นายกรัฐมนตรีเขียนเรื่องราวชีวิตในวัย 7 ขวบ เกี่ยวกับการทำอาหารไว้ในหนังสือ สมัคร 60 ชื่อตอน วัยเรียนรู้ บางกอกทูเดย์จึงขอหยิบยกเรื่องราวที่นายกฯ เล่าเกี่ยวกับการทำอาหารมาให้ผู้อ่านได้รับรู้ร่วมกัน เผื่อจะกลายเป็นเรื่องเล่าปนความรู้ที่คลายเครียดได้ในสุดสัปดาห์นี้นายกฯ เขียนไว้ว่าภายหลังที่คุณแม่ออกไปทำงานนอกบ้าน ลูกทุกคนจึงต้องแบ่งงานกันทำ พี่สาวผมดูแลเรื่องซักผ้า รีดผ้า พี่ชายผมรับผิดชอบเรื่องตักน้ำตักท่าจากก๊อกประปาหน้าบ้าน ซึ่งเวลานั้นถ้าจ้างก็หาบละ 5 สตางค์เท่านั้น แต่ถ้าจดไว้ทั้งเดือนมันก็มาก จึงลงทุนซื้อปี๊บซื้อตาขอซื้อไม้คานมาให้ลูกชายหาบน้ำเข้าบ้านเอง ผมรับหน้าที่จ่ายกับข้าวทำกับข้าว และน้องชายอีก 2 คนก็ช่วยทำความสะอาดบ้าน และคอยรับใช้ทั่วไป ครอบครัวของผมใช้ระบบนี้กันมาตลอด จนกระทั่งโตเรียนหนังสือจบกันแล้ว

ผมเริ่มจ่ายกับข้าวทำกับข้าวเองตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ก็มาเริ่มต้นกันตรงปลายปี พ.ศ.2485 ตอนที่ครอบครัวผมย้ายมาอยู่แถวบ้านหม้อนี่แหละครับผมยังจำวันที่ผมไปจ่ายกับข้าวด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกได้จนทุกวันนี้ค่ากับข้าวเวลานั้น ขนาดจ่ายมาสำหรับทำกินกัน 7 คนพ่อ แม่ ลูก ราคา 45 สตางค์เท่านั้นวันนั้นผมกำเงิน 45 สตางค์ ไปเดินจ่ายกับข้าวที่ตลาดบ้านหม้อด้วยตัวเองคนเดียว ซื้อหาเสร็จแล้วกลับเข้ามาบ้านผมก็ลงมือทำของผมเอง ทำกับข้าวเสร็จแล้วสักพัก ก็มีเพื่อนบ้านเปิดประตูเข้ามาแวะถาม ว่าทำกับข้าวเสร็จหรือยัง วันนี้แกงอะไร? ผมบอกว่าเสร็จแล้ว วันนี้แกงต้มส้มปลาทู

ถามว่าใส่อะไรมั่ง? ผมก็จาระไนเครื่องปรุงพร้อมวิธีทำตั้งแต่โขลกกะปิ หัวหอมพริกไทย ละลายน้ำแกง ไปจนกระทั่งปรุงรสเปรี้ยวเค็มหวาน ใส่ของใส่ต้นหอมเสร็จเรียบร้อย คนถามเข้ามาขอชิม ชมว่ารสชาติใช้ได้ แล้วก็ถามว่าปลาทูน่ะทำยังไง? ผมก็บอกว่าล้างน้ำให้สะอาด แล้วก็เอาใส่หม้อตอนที่น้ำแกงกำลังเดือดจะได้ไม่มีกลิ่นคาว ถามว่าควักไส้ก่อนหรือเปล่า? ผมก็เลยมาสอบตกเอาตรงนี้เอง เพราะเอาปลาทูสดมาทำกับข้าวโดยไม่ควักไส้ควักพุงออกเสียก่อน เรื่องนี้แม่ครัวข้างบ้านเก็บเอาไปเล่าให้ใครต่อใครฟังเป็นที่สนุกสนานกันอยู่นานนับจากวันนั้น ผมก็ได้บทเรียนเรื่องกับข้าวกับปลาวันละอย่างสองอย่างเรื่อยมา ทั้งวิธีปรุง วิธีจัดให้มันเข้ารสเข้าสำรับกัน รวมทั้งเคล็ดเล็กเคล็ดน้อยในการทำกับข้าว ตั้งแต่

ถ้าหุงข้าวให้รีบคีบเอาถ่านไฟแดงๆ ในเตาเปิดฝาหม้อข้าวตอนเช็ดน้ำดงแล้ว เอาถ่านใส่หม้อปิดฝาทิ้งไว้สักพักกลิ่นเหม็นไหม้ในข้าวจะหายไปจะต้ม จะเคี่ยวอะไรให้เปื่อย ให้เอาช้อนกระเบื้องใส่เข้าไปก้นหม้อสักคัน (เพื่อให้น้ำในหม้อมันกระจายอยู่ภายใน แทนที่จะเดือดพลุ่งกระจายความร้อนออกไปจากหม้อเสียหมด)จะจัดผักสดจิ้มหลนจิ้มกะปิคั่ว ต้องจัดต้นหอม หั่นแตงกวายังไงมันจึงจะดูน่ากินแกงส้มให้อร่อยต้องกินวันรุ่งขึ้น แกงอะไรควรจะรสอะไรนำรสอะไรตาม กับข้าวอะไรควรจะต้องมีอะไรเป็นเครื่องเคียงเครื่องประกอบ ผมก็ค่อยรู้เล็กรู้น้อย ค่อยหักค่อยทำเรื่อยไป

ตั้งแต่เจียวไข่จนกระทั่งแกงบวน และเมื่ออยู่กับข้าวกับปลามากเข้านานเข้าในวันหลังๆ จนกระทั่งวันนี้ไม่ว่าจะไปกินอะไรที่ไหน พอเอาแกงราดข้าวตักเข้าปากก็จะบอกได้ทันทีว่าอร่อยดี หรือว่ายังไม่ค่อยเข้าทีเพราะรสอ่อนนั่น แก่นี่ หรือข้าวในจานวันนี้ใส่น้ำมากหรือน้อยไปเวลาหุงเรื่องพรรค์อย่างนี้ คนที่แก่มารยาทเขามักจะไม่ค่อยพูด ค่อยบอกกัน เพราะถือว่าเขาหามาให้กินก็ดีถมไปแล้วแต่สำหรับผมนั้นมักจะบอกออกไปทันที เพราะอยากจะให้คนที่เขามีหน้าที่จัดทำเขามีโอกาสได้รู้ ได้แก้ไขให้มันดีขึ้นในคราวหน้าผมเป็นคนประเภทอยากจะให้เขาทำดี แล้วก็ชอบใช้วิธีบอกวิธีวิจารณ์กันตรงๆ อย่างนี้ คนที่ไม่ชอบก็ต้องมีเป็นธรรมดาพ่อครัวในคราบนายกฯ ของใครหลายคน เด็ดสะระตี่มั้ยล่ะ!!!