ผู้สื่อข่าวรายงานมาเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ว่า พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ประธานกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังประชุมบอร์ดเสร็จแล้ว ว่า ตนได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นประธานบอร์ดทีโอทีแล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. นี้ ส่วนสาเหตุที่ไม่ใช่วันที่ 21 ก.พ. เพราะตรงกับวันมาฆบูชา ในการลาออกครั้งนี้มีบอร์ดลาออกด้วย 2 คน คือ ม.ล.อนุพร เกษมสันต์ ออกเพราะมีงานราชการรออยู่ และนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ที่ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภา โดยบอร์ดที่เหลืออีก 11 คนยังคงอยู่ในตำแหน่ง
เมื่อถามว่าการลาออกของประธานบอร์ดตามมารยาทแล้วบอร์ดที่เหลือต้องลาออกด้วยเช่นเดียวกับบอร์ด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (ทอท.) หรือไม่ พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า ต่างภูมิประเทศต่างวิธีการรบ การบริหารงานที่ต้องการทีมเวิร์กสำหรับวาระที่บ้านเมือง หรือ สถานการณ์มีความเข้มแข็งไม่มีภาวะอื่นแทรกซ้อน บอร์ดที่ยังคงอยู่อีก 11 คน เป็นผู้ที่เสียสละ ต้องทนอยู่กับแรงเสียดทานเพื่อทำงานต่อไปให้เกิดความต่อเนื่องไม่สะดุด โดยบอร์ดที่อยู่ต่อจะเป็นส่วนผสมกับคนใหม่ที่จะเข้ามาเป็นบอร์ด ซึ่งจะทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้น ไม่เหมือนบอร์ดชุดตนที่ต้องเข้ามาสะสางก่อนทำงาน ตนมั่นใจว่า รมว.ไอซีที จะหายใจได้ง่ายขึ้น เมื่อเรียกบอร์ดทีโอทีที่เหลือไปคุย บอร์ดที่อยู่จะทำให้การทำงานเดินต่อไปได้ การทำแบบนี้ตนต้องการที่จะเปลี่ยนใหม่ที่ใครจะไปจะมาการทำงานก็ต้องทำต่อไปได้ และทีโอทีคงเป็นองค์กรแรกที่บอร์ดเก่าอยู่ต่อเนื่องเพื่อทำงานร่วมกับบอร์ดใหม่ และเมื่อออกจากตำแหน่งแล้วตนจะเป็นผู้ประสาน ให้บอร์ดเก่าและบอร์ดใหม่ทำงานร่วมกันได้
สำหรับคนใหม่ที่จะเข้ามาเป็นบอร์ดจะเข้ามาโดยการสรรหา 3 คน โดยโครงการเด่นของทีโอทีในบอร์ดชุดนี้ที่ต้องสานต่อคือ แผนเทิร์น อะราวด์ (Turn Around) หรือแผนการดำเนินงานที่จะทำให้องค์กรเข้มแข็ง รวมทั้งปรับปรุงรายได้ของทีโอที
ด้าน พล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศ รองประธานบอร์ดทีโอทีที่ยังคงอยู่ในตำแหน่ง กล่าวว่า บอร์ดนัดประชุมครั้งต่อไปวันที่ 29 ก.พ. นี้ โดยบอร์ดที่เหลือจะเลือกประธานบอร์ดก่อนประชุม ส่วนที่ต้องทำงานร่วมกับนักการเมือง ตนเป็นข้าราชการประจำเจอเรื่องแบบนี้ประจำ จึงมองว่าการเมืองไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ เป็นเหมือนกับเหรียญสองหน้า อย่าไปตั้งใส่กันจึงทำงานร่วมกันได้ นักการเมืองมาจากประชาชนก็คงต้องทำประโยชน์ให้กับประชาชน ส่วนการที่ตนอยู่ต่อก็เพราะ พล.อ.สพรั่ง ขอร้องเพื่อไม่ให้การทำงานสะดุด
ขณะที่ นายชิต เหล่าวัฒนา บอร์ดทีโอที กล่าวว่า เมื่อรวบรวมการทำงานของบอร์ดชุดที่มี พล.อ.สพรั่ง เป็นประธาน พบว่า สามารถทำรายได้ให้กับทีโอทีเพิ่มขึ้นถึง 15% ไม่รวมรายได้จากค่าเชื่อมโยงโครงข่ายแบบแอคเซสชาร์จ หรือ เอซี ที่เอกชนผู้รับสัมปทานต้องจ่ายให้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าว และเรื่องอยู่ที่ศาลปกครองกลางไม่สามารถเร่งรัดอะไรได้และเมื่อคิดผลกำไร พบว่าสามารถให้โบนัสพนักงานได้ถึง 2.7%
นายมั่น พัธโนทัย รมว.ไอซีที กล่าวว่า ตนจะไม่แต่งตั้งอดีตกรรมการพรรคไทยรักไทยที่อยู่ในรายชื่อ 111 คน มาเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจในส่วนของไอซีที ในปัจจุบันบุคคลดังกล่าวอยู่ในพรรคเพื่อแผ่นดิน 3 คน แต่ถ้าหากมีการแต่งตั้งจากพรรคอื่นตนจะไม่ก้าวก่าย แต่ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีที่กำกับดูแลและต้องถูกอภิปรายในสภาอาจแสดงความเห็นในเรื่องนี้ถ้ามีการแต่งตั้งกันจริง.