น่าจะเรียกว่า "ควันหลง" ดีกว่าครับ...เพราะคงเป็นมรดกสุดท้ายสำหรับชาว คมช.ที่ยังตกค้าง อยู่ก็คือ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกลาโหมและยังรั้งเก้าอี้ประธานบอร์ดทีโอที อีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ลาออกจากประธานบอร์ด ทอท.ไปแล้ว
จริงๆตำแหน่งประธานบอร์ดก็ควรจะลาออกให้หมด เหมือนกับบรรดา คมช.ทั้งหลายเมื่อมีรัฐบาลใหม่ก็ลาออกกลับเข้ากรมกอง
เหลือค้างอยู่เพียงคนเดียว...นี่แหละ
ทั้งนี้ พล.อ.สพรั่งอ้างว่ายังมีภารกิจค้างคาอยู่โดยเฉพาะที่ห่วงก็คือเรื่องทุจริตคอรัปชัน เพราะหากตนเองไม่ได้ควบคุมก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปแก้ไข เหตุผลนี้คงจะไม่จริงกระมังเพราะประเทศนี้คงหาคนที่มีความสามารถเข้าไปทำหน้าที่ได้
ที่เอาเรื่องนี้มาพูดก็เพราะตัว พล.อ.สพรั่งเองนั่นแหละ ที่ออกมาเปิดเผยว่าโดน "เพื่อนอำมหิต" ทำแสบจนชื่อเสียงเสียหายยับเยิน เมื่อมีการไปเรียกรับเงินบริษัทที่ทำการค้าในสนามบินสุวรรณภูมิและนำชื่อไปแอบอ้าง
ก่อนหน้านี้ในยุค คมช.นั้นที่ปรากฏเป็นข่าวก็คือบอร์ด ทอท.สั่งลุยทุจริตสนามบินสุวรรณภูมิเรียกว่าเอาจริงเอาจังตามเหตุผล 4 ข้อในการยึดอำนาจ เรียกว่าเข้ากันเป๊ะเลย แต่ปรากฏว่าแทนที่จะไปปราบปรามกลับไปทำพิกล
ตี "เมืองขึ้น" เสียเอง
ว่ากันว่าในตอนนั้นถึงกับมีข่าวว่าจะเอา "เม็ดเงิน" ก้อนนี้ไปตั้งพรรคการเมืองว่ากันว่าตัวเลขไม่ใช่น้อย แต่ปรากฏว่ามีการฮึดสู้กันเลยได้ไปแค่ติดปลายนวมเท่านั้น
จริงๆแล้วเรื่องนี้หาก พล.อ.สพรั่งออกมาแฉเสียแต่ตอนนั้นน่าจะเสริมความเป็นวีรบุรุษได้อีกโข แต่ทำไมจึงเก็บเรื่องเงียบเป็นเป่าสาก ไม่พูดออกมาสักแอะ
นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องหึ่งๆที่องค์การโทรศัพท์อีก ไม่รู้เพื่อนอำมหิตเข้าไปเกี่ยวด้วยหรือเปล่า
มาวันนี้ พล.อ.สพรั่งออกมารับความจริงว่า ที่ปรากฏเป็นข่าวต่างๆนั้นเป็นเรื่องจริง มีการเรียกตบทรัพย์กันจริง แต่ตนเองไม่ได้ เกี่ยวข้อง ไม่รู้เรื่องด้วย
แน่นอนว่าเรื่องนี้ใน คมช.เองก็คงจะรู้และถือว่าเป็นความเสียหายต่อภาพลักษณ์ และคงจะเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ พล.อ.สพรั่งพลาดเก้าอี้ ผบ.ทบ.นอกเหนือจากความห้าวที่จะไปก่อปัญหาทางการเมืองได้และดูเหมือนว่าทำให้ พล.อ.สพรั่งต้องยอมจำนน
ไม่กล้าฮึดฮัดหรือแสดงอิทธิฤทธิ์
ทั้งๆที่จริงแล้วเชื่อว่าตำแหน่ง ผบ.ทบ.คือเป้าหมายของชีวิตในฐานะทหารอาชีพและร่วมปฏิบัติการยึดอำนาจกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิวัติที่กบดานเงียบ ไม่ยอมโผล่หน้า
ออกสู่สังคมเมื่อประกาศ "สมานฉันท์" กับอดีตนายกฯทักษิณไปแล้ว
การตัดสินใจรับตำแหน่งประธานบอร์ด ทอท.และทีโอทีนั้นมีเสียงติติงแล้วว่าอย่า แต่ก็คงจะถูกเพื่อนยกยอปอปั้นก็เลยกระโดดเข้าใส่ สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีผลงานเด่นชัด อุปโลกน์ให้เป็นหัวหน้าใหญ่เพลิดเพลินเจริญใจกันระยะหนึ่ง
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เลยเกิดปัญหาเพราะแทนที่จะไปจัดการทุจริต หรืออะไรต่อมิอะไรที่ไม่ดีไม่งามกลับเป็นรอยด่างขึ้นมาอีก
เหนืออื่นใดหากจะให้แน่ไปกว่านั้น ควรจะเผยชื่อเพื่อนอำมหิตออกมาว่าเป็นใครน่าจะดีกว่านี้ หรือพอจะเรียกเกียรติภูมิให้คืนกลับมาได้ เพราะอย่างไรเสียก็รู้อยู่เต็มอกว่าเป็นใคร จึงน่าจะแสดงความเป็นวีรบุรุษอีกสักครั้ง
ดีกว่าออกมาพูดแล้วไม่เปิดเผยตัว...
เพราะนั่นไม่ใช่หนทางแก้ปัญหาโดยเฉพาะเรื่องทุจริตคอรัปชันซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ และมีการโจมตีกลุ่มอำนาจเก่ามาตลอด
จากนี้ไปคงไม่มีใครขอใช้บริการ "ท่านวีรบุรุษ" อีกต่อไปแล้ว.
"สายล่อฟ้า"