WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, February 19, 2008

จุดไฟเผาหนูอย่างสมัคร เรื่อง 6 ตุลาคม ระวังไฟไหม้ถึงพญาอินทรีย์ ด้วยเด้อ

ผมเห็นนักอุดมการณ์จอมปลอม คนเดือนตุลาหลายคนที่ผมสิ้นความนับถือไปหมดแล้ว หลังเหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 ที่คนเหล่านี้วิ่งลงไปหลบใต้ท็อปบูตหมด

ตอนนี้ พอพรรคพลังประชาชน ไล่ท็อปบูตออกไปได้ พวกนักประชาธิปไตยจอมปลอมเหล่านี้ ก็ลุกขึ้นมาแสดงเสรีภาพกันใหญ่ ทั้งที่หนึ่งปีที่ผ่านมา หัวหดกันไปหมด

ตอนนี้ กำลังจุดไฟ เรื่อง 6 ตุลาคม ขึ้นมา เพื่อเผาสมัคร สุนทรเวช ในเรื่องนี้ให้ได้ ซึ่งที่จริงผมไม่คาดว่าจะจุดติดได้เท่าใดนัก เพราะประชาชนสิ้นศรัทธาในคนส่วนนี้จำนวนมากแล้วนั้นเอง

ผมไม่ใช่คนเดือนตุลาคม เพราะช่วงนั้นผมยังเป็นเด็กประถมบ้านนอกอยู่ ยังขี่ควายเลี้ยงควายให้พ่อแม่ผมอยู่ในท้องนา แต่ผมก็สามารถรับรู้อารมณ์ ของ เด็กชั้นประถมในบ้านนอกได้ ในตอนนั้นผมไม่รู้ว่า การจราจล ไล่ถนอมประภาสก่อนหน้านั้นคืออะไร (ตอนนั้นผมอยู่ ป.5) แต่ตอนนั้นผมก็ดีใจมาก เพราะทำให้โรงเรียนประถมของเด็กบ้านนอกอย่างผมหยุดเรียนไปสามเดือน หยุดเรียนไปสามเดือนสำหรับเด็กผู้ชายมันก็สนุกซิครับ ได้ไปยิงนก ด้วยหนังสติกส์สนุกสนาน

ตอนเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ขึ้น ผมจำได้ว่าสองสามวันหลังจากนั้น ครูก็มาเกณฑ์เด็กทั้งชั้นเรียนมาร้องเพลง "หนักแผ่นดิน" ก็ร้องซ้ำกันจนร้องได้แหละครับ ยอมรับว่าสมัยนั้น พวกผมกลัวคอมมิวนิสต์มาก และรู้สึกดีใจที่มีการปราบคอมมิวนิสต์ได้ ในความคิดของเด็กบ้านนอกระดับประถมอย่างผมย่อมไม่เข้าใจว่า คอมมิวนิสต์คืออะไร แต่สังคมบ้านนอกกลัวคอมมิวนิสต์มาก เพราะคิดว่าจะมายึดไร่ ยึดนา ล้มพระศาสนา เผาวัดเผาวาเป็นต้น

สมัยนั้นพ่อผมชอบอ่านหนังสือพิมพ์ เวลาไปร้านตัดผม หรือไปตลาด ก็จะไปนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ในร้านกาแฟ ก็ได้ยินข่าวความวุ่นวาย มีกระทิงแดงขว้างระเบิดบ้าง อะไรบ้าง สุดท้ายทหารก็ทำรัฐประหาร

ผมไม่รู้ว่านายสมัคร สมัยนั้นมีบทบาทอย่างไรในสมัย 6 ตุลาคม แต่หลังจากที่โตมาแล้ว ผมก็อ่านประวัติศาสตร์บ้าง ก็ทราบว่านายสมัคร ก็มีบทบาท เหมือนก่อนการปฎิวัติ 19 กันยายน 2549 คือ เป็นนักจัดรายการวิทยุ และจัดอยู่ที่สถานีวิทยุยานเกราะ สมัยนั้นนายสมัครคงด่านักศึกษาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ก็คงอินเทรนด์ตามสมัยนั้นแหละครับ เพราะสมัยนั้นคนกลัวคอมมิวนิสต์กันทั้งบ้านทั้งเมือง รวมทั้งผมด้วย จะด้วยใครโฆษณาชวนเชื่อหรือเปล่า ผมก็ไม่ทราบ แต่มันเป็นทั้งสังคมนั้นแหละ

และตอนนั้นชาวบ้านเขารำคาญขบวนการนักศึกษากันมาก เพราะเดินขบวนไม่เว้นแต่ละวัน นั้นเป็นความรู้สึกของชาวบ้านนะครับ

นายสมัครก็คงกลัวคอมมิวนิสต์ เหมือนคนโลกเสรีทั้งหลายกลัวกัน และยิ่งตอนนั้น ทฤษฎีโดมิโนกำลังดัง ประเทศอินโดจีนทั้งหลายกลายเป็นคอมมิวนิสต์ไปหมดแล้ว และคนก็เชื่อว่าประเทศไทยจะเป็นคอมมิวนิสต์ตามไปด้วย ชาวบ้านก็กลัวกันมาก ผมเป็นเด็กตอนนั้นผมยังกลัวเลย

สมัครจัดรายการวิทยุยานเกราะด่านักศึกษาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ด่าว่าสร้างความวุ่นวายให้แก่บ้านเมือง ผมเข้าใจว่าไม่เกินความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่ในสมัยนั้นที่ไม่ชอบคอมมิวนิสต์ และนักศึกษาตอนนั้นก็โดนขบวนการคอมมิวนิสค์แทรกแซง แม้ว่าจะไม่ทั้งหมด แต่ก็ไม่ค่อยมีใครไว้ใจเท่าใดแล้ว การชุมนุมที่ธรรมศาสตร์ก็เลยกลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ฝ่ายขวาได้โอกาสตีกลับ ก็เลยล้อมปราบเสียเลย นั้นคือ "ผลต่อเนื่องของการต่อสู้กันทางการเมือง" มันก็เหมือนความขัดแย้งทางการเมืองต่างๆ ในยุคอื่นๆ ของไทย ที่คนแพ้ก็มักโดนฆ่าตายเสมอ

ก่อนรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 สมัครก็ทำหน้าที่เดิมที่ตัวเองถนัดคือ จัดรายการวิทยุโทรทัศน์ถล่ม กลุ่มพันธิมิตรทั้งหลาย ที่สมัครเห็นว่าก่อความวุ่นวายให้แก่บ้านเมือง ผิดกันแต่ว่าตอนนี้ผมโตแล้ว และผมก็อยู่ต่างประเทศ กว่าจะฟังรายการของโทรทัศน์อินเตอร์เน็ต MV ได้ก็ต้องเปิดอินเตอร์เน็ตฟังเอา

6 ตุลาคม 2519 มีคนเข้าร่วมหลายฝ่าย และผมคิดว่านายสมัครไม่ใช่ตัวสำคัญในการกำจัดขบวนการนักศึกษาแน่นอน สมัครก็สำคัญแค่เหมือน ก่อนรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เท่านั้น คือไม่ได้อยู่ในศูนย์กลางของกลุ่มอำนาจของทั้งสองฝ่าย แต่เป็นคนที่มาภายหลัง เพราะมีอุดมการณ์ตรงกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในขณะนั้น นั่นเอง

หากจะจุดไฟเผาสมัคร และต้องการชำระประวัติศาสตร์ 6 ตุลาคม 2519 ผมว่าเรื่องนี้ คนที่เกี่ยวข้องจำนวนมากยังมีชีวิต แม้แต่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หรือ สูงยิ่งขึ้นไปกว่านั้น น่าจะเป็นพวกที่ต้องรับผิดชอบกับการสังหารหมู่มากกว่านายสมัครแน่นอน

เพราะหากคิดว่านายสมัครผิด ผม "เด็กชายลูกชาวนาไทย" สมัยตอนอยู่ ป. 7 ก็ต้องผิด เพราะตอนนั้น ผมก็ร้องเพลงหนักแผ่นดิน และเกลียดนักศึกษามาก เพราะคิดว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ผมว่าผมมีความผิดไม่ต่ำกว่านายสมัครนะครับ

และแน่นอนผมว่า หากไล่ขึ้นไปจริงๆ นายสมัคร สุนทรเวช อาจเป็นแค่เบี้ย แต่ยังมีม้า มีโคน และมีขุน ซึ่งวันที่ 19 กันยายน 2549 ที่มีการทำรัฐประหาร คนเหล่านี้ยืนอยู่คนละฟากกับนายสมัคร

แต่ม้า โคน ขุนพวกนี้ รัฐประหาร วันที่ วันที่ 19 กันยายน 2549 ยืนอยู่ข้างเดียวกับ พวกคนเดือนตุลาคม ทั้งหลายที่อุดมการณ์หายหมด หันไปสยบใต้ท้อปบูต และยืนอยู่ตรงข้ามกับประชาชน

ผมว่าสมัคร สุนทรเวช เสียอีกที่ยืนข้างประชาชนตลอดมา วันนั้นเขายืนตรงข้ามกับคอมมิวนิสต์ แต่วันนี้เขายืนตรงข้ามกับพวกอำมาตยาธิปไตย

สำหรับผมที่ไม่ใช่คนเดือนตุลาคม ผมคิดว่านายสมัครไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ก็เหมือนกับนายลูกชาวนาไทย ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร

ผมไม่ทราบว่าวันที่ 6 ตุลาคม 2519 นักศึกษาในธรรมศาสตร์เป็นคอมมิวนิสต์หรือไม่ แต่สำหรับอารมณ์ความรู้สึกของคนที่พัฒนาต่อเนื่องกันมาจากสถานการณ์โลกยุคสงครามเย็น การล่มของประเทศอินโดจีนต่อลัทธิคอมมิวนิสต์เหล่านี้ทั้งหลาย ทำให้คนยุคนั้นส่วนใหญ่เข้าใจว่านักศึกษาวันนั้นเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งเราไม่อาจไปด่าประชาชนทั้งหลายได้ เพราะทุกคนก็เข้าใจสถานการณ์ต่างๆ ในมุมที่ตนมองอยู่เท่านั้น ทุกคนก็ตกอยู่ใต้กระแสโฆษณาชวนเชื่อไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่งเท่านั้น

ระวัง จุดไฟเผาไล่นายสมัครในเรื่องนี้ มันจะลามไปไห้มพญาอินทรีย์ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหลายรวมทั้งกลุ่มอำมาตย์ทั้งหลาย ที่เป็น “คนลงมือตัวจริง” ในวันนั้นด้วยเด้อ

จาก กลุ่มสื่อประชาชน