เรื่องราวของเหตุการณ์ วันมหาวิปโยค 6 ตุลา ขยายวงเป็น 14 ตุลา ขยายวงเป็นพฤษภาทมิฬ ไม่ว่าจะย้อนหลังไปสู่เหตุการณ์ในอดีตหรือที่ขุดคุ้ยประวัติศาสตร์ ที่คนไทยต้องมาห้ำหั่นกันเอง พูดได้ว่า เกิดจาก น้ำผึ้งหยดเดียว ทั้งนั้น
และถ้ามองให้เห็นถึงแก่นแท้ของปัญหา ต้นตอของวิกฤติทุกครั้ง ต้องตั้งคำถามว่า การเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ผมเชื่อว่า ลำพังคนไทยด้วยกันน่าจะคุยกันรู้เรื่อง ยกเว้นแต่จะมีคนตอกลิ่ม
การเมืองจะชั่วจะเลวแค่ไหนผมไม่รู้ แต่ถึงขนาดใช้มนุษย์เป็นเหยื่อ ให้ซากของมนุษย์ปีนป่ายขึ้นมาเพื่อให้บรรลุถึง อำนาจวาสนา ผมบอกตรงๆว่ารับไม่ได้
จะเล่นการเมืองอย่างไรก็เล่นกันไปเถอะ จะทำเป็นตัวตลกของสังคมให้ชาวบ้านเอาไปนินทาหรือล้อเลียน ก็เป็นอีกเรื่อง แต่อนาคตของประเทศชาติและประชาชนไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
อย่าลืมว่าในวิกฤติแต่ละครั้งจะแบ่งคนออกเป็นสองประเภทคือ ผู้แพ้และผู้ชนะ ผู้แพ้กลายเป็นกบฏ กลายเป็นสีดำของสังคม ผู้ชนะก็เป็นพระเอกเป็นฮีโร่ ได้รับการยกย่อง แล้วอะไรคือความถูกต้อง
แต่ที่ไม่เคยชนะเลยมีแต่แพ้ตลอดกาลก็คือ ประชาชน ตายไปไม่รู้กี่ศพ กับวิกฤติการเมืองแต่ละครั้ง โล่ก็ไม่มีให้ อนุสาวรีย์ก็ไม่เคยปรากฏ
ตกเป็นเหยื่อของการแย่งชิงอำนาจทั้งปีทั้งชาติ
แม้แต่ วิกฤติการเมืองที่เพิ่งจะผ่านมา นี่ก็เถอะ คนที่ประกาศจะร่วมสุขร่วมทุกข์กับประชาชนที่ท้องสนามหลวง บัดนี้เขาเหล่านั้นก็มีความสุขจริงๆกับลาภยศสรรเสริญที่ได้รับ
ประชาชนที่นั่งอยู่ข้างล่างเวที ก็ยังต้องหาข้าวสารกรอกหม้อ เหมือนเดิม เจ็บแล้วไม่รู้จักจำ ไม่รู้กี่ยุคกี่สมัยมาแล้ว ที่ประชาชนเป็นเหยื่อล่อ เป็นตัวประกัน เป็นทุกอย่างที่การเมืองอยากให้เป็น
มาวันนี้ เกมชิงอำนาจยกใหม่ กำลังจะดึงเหตุการณ์ในอดีตมาเป็นชนวนอีกแล้ว คิดจะขุดซากศพวีรชนมาเป็นเกมทำลายล้างกันทางการเมือง มันน่าอับอายที่สุด
แล้วที่มันน่าอายไปกว่านั้นก็คือการนำเรื่องในอดีตที่ คนไทย ต้องเข่นฆ่ากันเอง มาตอกย้ำความเจ็บปวดของผู้ที่สูญเสียและตอกย้ำถึงความถดถอยในสายตาชาวโลก
จะชำระสะสางประวัติศาสตร์อะไรกัน ก็ขอให้เป็นแค่ประวัติศาสตร์ อย่าได้นำประวัติศาสตร์มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ที่ผมไม่เข้าใจอย่างมากก็คือ นายกฯสมัคร สุนทรเวช หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกับสื่อมวลชนต่างประเทศทำไม
แล้วผมอยากจะแกล้งไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องหยิบเรื่องนี้มาเป็นประเด็นสมัยที่ คุณสมัครมาเป็นนายกฯ การเมืองเผลอเปิดช่องเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
ฝ่ายที่จ้องอยู่แล้วได้จังหวะตั้งแต่ยกแรก เปิดแผลขุดอดีตที่เจ็บปวด จับจุดอ่อน รุกฆาตทันที บวกกับความขี้เหร่ บวกกับคลื่นใต้น้ำจากพวกเดียวกัน บวกกับคดีความที่ยังคาราคาซัง
กลัวว่าจะพาประเทศวอดวายไปด้วย.
หมัดเหล็ก
คอลัมน์ คาบลูกคาบดอก