คนเขียนหนังสือ...ก็ต้องมีคนอ่าน คนอ่าน
หนังสือก็ต้องเขียนหนังสือ
แต่ละวัน...มีจดหมายทั้งเห็นด้วยหรือไม่เห็น
ด้วย...เข้ามาทุกวัน....แต่กับข้อเขียนเรื่อง “คัมภีร์
ปฏิวัติ”
เขาถามมาว่า เขียนขึ้นมาทำไม...
ก็ต้องตอบว่า....ประเทศนั้นเป็นส่วนสำคัญ
ที่สุด เพราะประเทศ...ที่แปลว่า “บ้านเมืองหรือ
แว่นแคว้น” นั้น คือ ถิ่นที่อยู่ของเผ่าพันธุ์
หลายๆ เผ่าพันธุ์หรือหลายร้อยหลายพัน
เผ่าพันธุ์ไม่มีประเทศอยู่....บางเผ่าพันธุ์เคยมี
ประเทศแล้วสูญเสียไป กลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่มี
ประเทศ
ประเทศสำคัญขนาดนั้น...สำคัญกว่าผู้
ปกครองประเทศ
ก่อน 19 กันยายน 49 เรามีรัฐบาล
ปกครองประเทศที่มาจากการเลือกตั้ง...หลัง 19
กันยายน เรามีรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจ
ของกองทัพ...หลังวันที่ 23 ธันวาคม 50 รัฐบาล
จากการเลือกตั้งกลับมา...
แต่พ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย...ความฉิบหาย
วอดวายของประเทศในระหว่างวันเวลาดังกล่าว...
มันไม่มีบทเรียนไว้สอนใครทั้งสิ้น...
ประชาชน...ผนึกกำลังกันแน่นหนา...แสดง
ประชามติ...ยืนยันการต่อต้านการยึดอำนาจ...
ปฏิเสธแนวร่วมเผด็จการสารพัดพรรค ปักหลัก
ช่วยให้พรรคพลังประชาชนกลับมาสู่อำนาจ
ครั้งใหม่...
แต่พรรคพลังประชาชน...ให้ความเคารพต่อ
ประชาชนที่เลือกเขามาหรือไม่...พรรคปฏิเสธ
ผู้สนับสนุนพรรค...ปล่อยปละให้สิ่งโสโครกสกปรก
เน่าเหม็น...เข้ามาเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดิน
พรรคตัดประชาชนทิ้งไป
เรา...เขียนเรื่องคัมภีร์ปฏิวัติ...เพื่อบอกกล่าว
กับ “นักการเมือง” ที่กำลังเหลิงอยู่กับอำนาจใน
วันนี้...ได้รับรู้ว่า...ถ้า “ทหาร” ฉลาดกว่านี้...พวกท่าน
ที่กำลังเสพสมอยู่กับอาจมแห่งอำนาจกันอย่าง
ตะกรุมตะกรามนั้น...อาจจะสูญเสียอำนาจไป
ยาวนานหรือตลอดกาลก็ได้...
เขาถามมาว่า “ถ้าทหารปฏิวัติแล้วยึด
ครองแม่งตั้งแต่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ.
แถมมีปืนอยู่ในมือ ประเทศชาติไม่ยิ่งฉิบหาย
กว่านี้หรือ”
เราถามว่า...ถ้า...นักการเมืองได้อำนาจแล้วใช้
อำนาจกันอย่างเมามัว มีแต่คนชั่วคนเลวปกครอง
ประเทศแล้ว ประเทศชาติจะไม่ฉิบหายหรือ...
ครับ...เขียนขึ้นมาเพื่อจะเตือนว่า...ประเทศ
จะเปลี่ยนผู้นำชั่วด้วยตัวของมันเอง...ไม่ว่าผู้นำนั้น
มันมาจากประชาธิปไตยหรือเผด็จการ
พญาไม้
พญาไม้ทูเดย์ - พญาไม้ทูเดย์
หนังสือก็ต้องเขียนหนังสือ
แต่ละวัน...มีจดหมายทั้งเห็นด้วยหรือไม่เห็น
ด้วย...เข้ามาทุกวัน....แต่กับข้อเขียนเรื่อง “คัมภีร์
ปฏิวัติ”
เขาถามมาว่า เขียนขึ้นมาทำไม...
ก็ต้องตอบว่า....ประเทศนั้นเป็นส่วนสำคัญ
ที่สุด เพราะประเทศ...ที่แปลว่า “บ้านเมืองหรือ
แว่นแคว้น” นั้น คือ ถิ่นที่อยู่ของเผ่าพันธุ์
หลายๆ เผ่าพันธุ์หรือหลายร้อยหลายพัน
เผ่าพันธุ์ไม่มีประเทศอยู่....บางเผ่าพันธุ์เคยมี
ประเทศแล้วสูญเสียไป กลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่มี
ประเทศ
ประเทศสำคัญขนาดนั้น...สำคัญกว่าผู้
ปกครองประเทศ
ก่อน 19 กันยายน 49 เรามีรัฐบาล
ปกครองประเทศที่มาจากการเลือกตั้ง...หลัง 19
กันยายน เรามีรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจ
ของกองทัพ...หลังวันที่ 23 ธันวาคม 50 รัฐบาล
จากการเลือกตั้งกลับมา...
แต่พ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย...ความฉิบหาย
วอดวายของประเทศในระหว่างวันเวลาดังกล่าว...
มันไม่มีบทเรียนไว้สอนใครทั้งสิ้น...
ประชาชน...ผนึกกำลังกันแน่นหนา...แสดง
ประชามติ...ยืนยันการต่อต้านการยึดอำนาจ...
ปฏิเสธแนวร่วมเผด็จการสารพัดพรรค ปักหลัก
ช่วยให้พรรคพลังประชาชนกลับมาสู่อำนาจ
ครั้งใหม่...
แต่พรรคพลังประชาชน...ให้ความเคารพต่อ
ประชาชนที่เลือกเขามาหรือไม่...พรรคปฏิเสธ
ผู้สนับสนุนพรรค...ปล่อยปละให้สิ่งโสโครกสกปรก
เน่าเหม็น...เข้ามาเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดิน
พรรคตัดประชาชนทิ้งไป
เรา...เขียนเรื่องคัมภีร์ปฏิวัติ...เพื่อบอกกล่าว
กับ “นักการเมือง” ที่กำลังเหลิงอยู่กับอำนาจใน
วันนี้...ได้รับรู้ว่า...ถ้า “ทหาร” ฉลาดกว่านี้...พวกท่าน
ที่กำลังเสพสมอยู่กับอาจมแห่งอำนาจกันอย่าง
ตะกรุมตะกรามนั้น...อาจจะสูญเสียอำนาจไป
ยาวนานหรือตลอดกาลก็ได้...
เขาถามมาว่า “ถ้าทหารปฏิวัติแล้วยึด
ครองแม่งตั้งแต่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ.
แถมมีปืนอยู่ในมือ ประเทศชาติไม่ยิ่งฉิบหาย
กว่านี้หรือ”
เราถามว่า...ถ้า...นักการเมืองได้อำนาจแล้วใช้
อำนาจกันอย่างเมามัว มีแต่คนชั่วคนเลวปกครอง
ประเทศแล้ว ประเทศชาติจะไม่ฉิบหายหรือ...
ครับ...เขียนขึ้นมาเพื่อจะเตือนว่า...ประเทศ
จะเปลี่ยนผู้นำชั่วด้วยตัวของมันเอง...ไม่ว่าผู้นำนั้น
มันมาจากประชาธิปไตยหรือเผด็จการ
พญาไม้