WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, July 14, 2008

จัดงาน 100 ปี พระบรมรูปทรงม้า

คอลัมน์: สนทนาประสาสมัคร

รายการ “สนทนาประสาสมัคร” โดย นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2551 เวลา 08.30-09.30 น.

ความตอนหนึ่งว่า...ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ เพราะไม่ไว้วางใจสื่อมวลชน จึงขอพูดเพียง 7 วัน 1 ครั้งเท่านั้น ให้ประชาชนได้ฟังโดยตรง เพราะหนังสือพิมพ์ไม่มีหูรูด ต่อว่านายกรัฐมนตรีอย่างรุนแรง และได้ชี้แจงถึงกรณีที่วุฒิสมาชิก 77 คน ยื่นถอดถอนคณะรัฐมนตรี กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.

โดยการถามว่าเป็นการยุติธรรมหรือไม่ เพราะ ป.ป.ช. มีที่มาไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นองค์กรที่มีที่มาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหาร จึงเป็นแค่องค์กรอิสระที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐ ไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนทำหน้าที่ ทำไมถึงสามารถมีสิทธิที่จะชี้ผิดถูกรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างถูกต้อง และถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว ส่วนการยุบพรรคพลังประชาชนนั้น เห็นว่ามีเหตุมาจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 วรรคสอง ที่แสดงให้เห็นว่า ผู้ร่างมีแต่ความเกลียดชัง นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่า มีรัฐธรรมนูญอีกหลายมาตราที่มีปัญหา เช่น เรื่องที่มาของวุฒิสภา

ในการเปิดสภาสมัยหน้า รัฐบาลจะเสนอแก้รัฐธรรมนูญทันทีในการเปิดสภาฯ เพื่อแก้วิกฤติการเมือง เนื่องจากเป็นต้นตอของวิกฤติการเมืองปัจจุบัน เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นมรดกตกทอดมาจากคณะปฏิวัติ จึงไม่มีความเป็นประชาธิปไตย เพราะต้องการเล่นงานนักการเมือง โดยเฉพาะกรณีคดียุบพรรคและกรณีเขาพระวิหาร ที่สามารถเล่นงานพรรคการเมืองทั้งพรรค หรือคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ทั้งกล่าวด้วยว่า ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินของศาล แต่เมื่อรัฐธรรมนูญเป็นเช่นนี้ ศาลก็ต้องตัดสินไปตามนั้น ซึ่งปัญหาอยู่ที่คนเขียนรัฐธรรมนูญ

ส่วนกรณี นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา กรณีปราสาทเขาพระวิหารนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายนพดลไม่ได้ดำเนินการเพียงคนเดียว แต่เป็นการทำงานร่วมกันทั้งของเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ทหาร และฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างๆ แต่สุดท้าย นายนภดลโดนต่อว่าต่อขาน และถูกเล่นงานเป็นอย่างหนัก จึงย้อนถามว่า ถ้าหาก นายนิตย์ พิบูลสงคราม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร รมว.ต่างประเทศเงา ของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ดำเนินการ ผลจะเป็นเช่นนี้หรือไม่ พร้อมทั้งระบุว่า บุคคลในรัฐบาลชุดปัจจุบันทำอะไรก็เป็นสิ่งที่ผิดไปหมด แต่ถ้าเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ทำบ้าง ก็จะถือว่าเป็นสิ่งถูกต้องแล้วเช่นนั้นหรือ

โดยในการสอบสวนสินบนในช่วงที่นายสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. ตามที่ผู้บริหาร บริษัท นิชิมัตสึ คอนสตรัคชั่น จำกัด ของญี่ปุ่น ระบุเคยให้สินบนกับเจ้าหน้าที่ของไทย เพื่อแลกกับโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ และคลองลาดพร้าว ของกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2546 นั้น นายสมัครยืนยันว่า ขนาดชื่อของบริษัทยังไม่คุ้นเคย ทั้งหมดนี้มีเหตุมาจากการเกลียดชังอดีตนายกรัฐมนตรี ปรากฏว่าเขาไม่ตายแต่ยังกลับมาได้ ก็เลยจะเอาให้ตายทั้งหมด แล้วอย่างนี้จะยุติธรรมหรือไม่ ทั้งหมดนี้เขาจะต้องขึ้นศาลอยู่แล้ว ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีเองก็จะมีการแถลงเรื่องสำคัญในวันอังคารนี้ เวลา 13.30 น. ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ หลังการทำงานมา 5 เดือน ซึ่งยังไม่รู้ว่าวันจันทร์จะมีการสั่งยุติการดำเนินการหรือไม่ โดยจะเป็นการแถลงข่าวร่วมกับรัฐมนตรี เกี่ยวกับผลงาน 5 เดือนและแนวทางการทำงาน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังอ่านจดหมายที่ใช้ถ้อยคำตำหนิรุนแรงว่า เป็นสิ่งที่ต้องอดทน ทั้งยืนยันว่าจำเป็นที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ และขอท้าว่า หากในอีกไม่กี่วันข้างหน้า คณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ก็คงไม่เหลืออะไร โดยได้ขอร้องทุกข์ต่อประชาชนทั้งประเทศ และขออภัยต่อทางสถานทีโทรทัศน์เอ็นบีที ที่ล้ำเวลามานานกว่า 40 นาที แต่ก็ยังคงกล่าวต่อว่า ทั้งหมดเกิดจากการที่สื่อไม่ชอบรัฐบาล จึงแนะนำให้รักษาสุขภาพจิตด้วยการรับสื่อให้น้อยลง

ส่วนที่ นายเทพไท เสนพงศ์ พูดถึงตนว่า ตนพูดไม่ได้ เพราะท่อมันทับอก ก็ให้รอฟังคนที่เขาอยู่มานานว่าเป็นอย่างไร รอตอนจบว่าจะตายหรือไม่ ตนเลือกหนทางถูกต้องแล้วที่ไม่พูดกับสื่อมวลชน เพราะบางวันก็เอารูปนายกรัฐมนตรีมาแล้วเขียนว่า ไร้ยางอาย มีประเทศไหนเขาทำบ้าง ทำแบบไม่มีหูรูด ทำเหมือนนายกรัฐมนตรีเป็นสัตว์นรก มาจากไหน ตนขอไม่ไว้วางใจสื่อ ก็ไม่ให้สัมภาษณ์ 7 วัน เพื่อมาพูดวันอาทิตย์ให้ประชาชนฟังจากนายกรัฐมนตรีเอง คนพวกนี้ไม่ใช่เจ้าของประเทศ พูดไป 10 คน พวกนี้ออกถูก 1 หรือ 2 เวลาเขียนถึงนายกฯ หน้าตาเหมือนหมู เหมือนหมา ตนก็ต้องรอเพื่อจะพูดวันอาทิตย์ รอก่อนก็คงไม่ล่มสลายอะไร

ส่วนเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี จะมีการปรับแน่นอน เป็นการปรับครั้งใหญ่ เพื่อให้คนมีฝีมือเข้ามาทำงาน แต่ปัญหาสำคัญที่สุดคือ คนเก่งคนดีนั้นไม่อยากมาลงเรือลำนี้ กลัวล่ม เพราะมันอันตราย เนื่องจากในวันนี้คนที่เป็นรัฐมนตรีขาข้างหนึ่งยื่นเข้าไปในคุกแล้ว แต่นายกรัฐมนตรียืนยันว่า จะทำงานต่อไป โดยจะรอการตัดสินคดีการจำหน่ายสลากเลขท้าย 2 ตัว และ 3 ตัว หรือหวยบนดินของศาลในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ก่อน เพราะมีรัฐมนตรีเกี่ยวข้องถึง 3 คน

*วันสำคัญทางศาสนา
วันสำคัญทางศาสนาของเรา จริงๆ เราใช้ 5 วันเท่านั้น เราเรียกว่า วันพระพุทธเจ้า คือวันวิสาขบูชา ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน วันพระพุทธ วันเพ็ญกลางเดือน 6 และพอถึงวันเพ็ญกลางเดือน 8 วันอาสาฬหบูชา วันพระธรรมครับ วันนี้ก็เป็นวันปฐมเทศนา วันพระสงฆ์ก็วันมาฆบูชา วันอาสาฬหบูชาเป็นวันที่เขาเรียกว่า ปฐมเทศนา คือเทศนาครั้งแรกที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เทศนาเรื่องธัมมจักกัปปวัตนสูตร การเวียนว่าย ฉะนั้น เมื่อเวลาที่คนโบราณ ตอนยังไม่มีพุทธรูป ก็เอาหินมาสลักเป็นกงล้อธรรมจักร แปลว่า ปฐมเทศนาคือธัมมจักกัปปวัตนสูตร ก็ทำเป็นกงจักร 8 แฉก แล้วเอากวางมาวางหน้าธรรมจักร แปลว่า ปฐมเทศนาก็เกิดขึ้นที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เท่านั้นละครับ

จนกระทั่งพวกกรีซ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์เข้ามายึดครองอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย แคว้นคันธาระ จึงได้มาแนะนำให้สร้างพระพุทธรูป เมื่อสร้างพระพุทธรูปแล้ว ฝรั่งก็ไม่เชื่อ เพราะสร้างเป็นแบบฝรั่งคิด ออกมาหน้าตา พระรุ่นแรกหน้าตามีกล้ามเนื้อ และห่มผ้า แบบชนิดเหมือนกับเขาเรียกว่า ผ้าทอก้า เหมือนเอาผ้าปูที่นอนมาห่ม คือเขาอธิบายกันไม่ได้ หน้าตาต่างๆ บอกผมอย่างนี้ต้องขมวดเป็นอย่างนั้น ฝรั่งก็ไม่เชื่อ เส้นพระเกษาก็เป็นเส้นธรรมดา พระโอษฐ์จะกว้างอย่างไร ตามประสาคนมีบุญ เขาเรียกว่า พูดจากคัมภีร์มหาปุริส มาหาว่าลักษณะของมหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ทำไว้แล้ว

*จัดงานฉลองครบรอบ 100 ปี พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5
ปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ 100 ปี พระบรมราชอนุสาวรีย์ เราเรียกพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม ปีนี้ถือว่าเป็นปีสำคัญ จะมีฉลองกัน 9 วัน คงจะไม่เอิกเกริกมหรสพ รัชกาลที่ 5 เรียกว่า ท่านทรงแก้ปัญหาต่างๆ เพราะล่าอาณานิคม มีประเทศไทยประเทศเดียวที่ไม่ตกเป็นเมืองขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอัฟกานิสถาน ปากีสถาน บังกลาเทศ พม่า มลายู มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และขึ้นมาเกาะฟิลิปปินส์ มาถึงลาว เขมร เวียดนาม ตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตกหมด เหลือประเทศไทยนี่ละครับ ที่เขาจ้องกันอยู่ รัชกาลที่ 5 นี่ละครับ ที่ทรงมีวิเทโศบาย สายพระเนตรไกล รับสั่งว่า เราจะไม่เอาดาบไปสู้กับปืน แบบมหาราชาแห่งอินเดีย ทรงรับสั่งว่า วิธีแก้ปัญหาคือยอมรับความเจริญของโลกตะวันตก และก็เสด็จพระราชดำเนินยุโรป

*ไทยรับความเจริญของประเทศตะวันตก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงเรียนมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด รัชกาลที่ 7 เป็นนักเรียนนายร้อยแซนเฮิร์สต์ เวลาท่านจบ ท่านเป็นพลตรี กองทัพของอังกฤษ อย่างรัชกาลที่ 4 เปิดประเทศ รัชกาลที่ 5 ท่านเรียนหนังสือภาษาฝรั่งของท่าน ท่านก็ให้ลูกท่านไปเรียนยุโรป เรียนอะไร เอากลับมา รัชกาลที่ 6 เป็นผลิตผลที่ท่านได้มองสายพระเนตรไกล จนถึงรัชกาลที่ 8 รัชกาลปัจจุบัน เรื่องพรรค์อย่างนี้จะเห็นได้เลยว่า เราแก้ปัญหาไม่ตก เป็นเมืองขึ้นของใคร ด้วยวิธีการที่ว่ายอมรับความเจริญ ของที่เอากลับมาที่มองเห็น กิจการประปา อะไรที่ยุโรปมี เรามี ประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ รถไฟ รถราง รถยนต์ กิจการเรื่องศาล แม้กระทั่งเรื่องเครื่องแต่งตัว ระบบเหรียญตรา ระบบที่เขาทำสายสะพาย แต่ก่อนเสนาบดีกลาโหมนุ่งโจงกระเบน เสื้อไม่ใส่ มีเหรียญคล้องคออันหนึ่ง รัชกาลที่ 5 ก็ทรงเปลี่ยนแปลงให้มีเครื่องแต่งตัวมีกางเกง มีเสื้อ เสื้อคอปิด ปกติขาว คือท่านทรงกำหนดข้อความนี้เอง ฝรั่งเขาไม่มีละครับ แปลว่าท่านบอกว่า อันนี้ถือว่าทางราชการจดทะเบียน เรียกว่า Royal Pattern เป็นภาษาของรัชกาลที่ 5 แปลว่า ราชปะแตน เหมือนที่เรียกว่า Telegraph แต่ก่อนนี้ก็ว่า ตะแล้ปแก๊ป

รัชกาลที่ 5 ท่านจัดการเสร็จ ถ้าใครสนใจว่าอย่างไร อ่านพระราชนิพนธ์ไกลบ้าน จะได้รู้ว่าพระเจ้าอยู่หัวองค์นี้ของเรา พระองค์นี้เป็นอย่างไร หนังสือเล่มนี้จะเป็นหนังสือเล่มสำคัญ เรียกว่า 100 ปีพระราชานุสาวรีย์พระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น พระเกียรติคุณกว้างไกลครับ เพราะฉะนั้น เรื่องอย่างนี้ก็เป็นเรื่องของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน อนุสาวรีย์สำคัญใครๆ ก็รู้จัก พระบรมรูปทรงม้า จะฉลองครบ 100 ปี ปีนี้นะครับ

*การแก้ปัญหาน้ำมันแพง
เนื่องมาจากภาวะราคาน้ำมันดีเซลและเบนซินมีราคาแพง รัฐบาลจึงแก้ปัญหาด้วยการนำ E85 มาใช้ โดยดูต้นแบบจากบราซิล และจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 15 กรกฎาคม ส่วนตัวรถนั้นสามารถนำเข้าได้จากอเมริกาและยุโรป ส่วนญี่ปุ่นสามารถนำเข้าได้อีกประมาณ 1 ปีครึ่ง สำหรับราคาน้ำมัน E85 น่าจะอยู่ที่ 27-28 บาทต่อลิตร และมั่นใจว่าเอธานอลจะมีมากพอที่จะนำไปผลิต E85 ได้ เพราะมีบริษัทยื่นเรื่องเป็นผู้ผลิตมากกว่า 42 บริษัท และมีที่ผลิตได้แล้ว 12 บริษัท และก็ได้ติดต่อขอซื้อน้ำมันดีเซลจากประเทศรัสเซีย

โดยอยู่ระหว่างการเจรจาและตรวจสอบรายละเอียด รวมถึงคุณภาพของน้ำมัน ที่แม้จะมีความแตกต่างจากประเทศไทย เพราะเป็นคุณภาพเทียบเท่าน้ำมันดีเซลที่ใช้ในประเทศไทยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เพื่อขายให้เฉพาะสหกรณ์ โดยจะมีปั๊มจำหน่ายเพียง 200 แห่งทั่วประเทศเท่านั้น แต่ราคาถูกกว่าที่ใช้ในปัจจุบันถึงลิตรละ 8 บาท เชื่อว่าจะสามารถนำเข้ารอบแรกได้ภายใน 60 วัน และจะส่งเสริมให้มีการนำเข้าต่อเนื่อง เดือนละ 300,000 ตัน หรือร้อยละ 25 ของการใช้ในประเทศ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะใช้น้ำมันต้องเป็นสมาชิกของสหกรณ์เท่านั้น เพราะจะใช้งบประมาณของสหกรณ์ในการนำไปซื้อน้ำมัน มั่นใจจะสามารถรองรับการใช้ในส่วนของรถบรรทุกได้ และขอยืนยันด้วยว่า ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในการนำเข้าน้ำมันดีเซลในครั้งนี้ เพราะให้บริษัทเอกชนดำเนินการ ทำสัญญาแบบปีต่อปี

*พรรคร่วมรัฐบาลทำงานกันเป็นทีม
คุณเสนาะ เทียนทอง ท่านออกโทรทัศน์ ท่านบอกเลยว่า คุณสมัครเขาเป็นกัปตันถือหางเสือ อยู่ๆ จะให้เขากระโดดน้ำหนีไป ยุบสภา เขาไม่ทำหรอก เขาถือหางเสืออยู่ มันต้องช่วยกันประคับประคองให้ถึงฝั่ง ผมพูดกับสมาชิกพรรคพลังประชาชน ผมบอก แต่ละคนเหมือนไม้ไผ่คนละท่อน สุภาษิตเรียก ไม้ไผ่ท่อนเดียว ไม้ไผ่หักได้ครับ แต่ว่าถ้ามัดกันเป็นทั้งฟ่อน 236 เป็นฟ่อนเดียวกัน พอลงไปแล้วน้ำจะเชี่ยวกรากอย่างไร มันข้ามฟากได้ครับ มันถึงฝั่งได้

แต่ต้องมัดเป็นท่อนเดียวกัน ผมบอก ผมก็จะมัด ครม. ไว้ท่อนเดียวกัน พรรคการเมืองอีก 5 พรรค ผมก็ต้องผูกไว้ด้วยกัน ทำงานด้วยกัน ถ้าเขาจะแยกไป ก็ต้องสุดแท้แต่ แต่ระหว่างนี้ผมถือว่าผมทำงานให้คนทั้ง 5 พรรคทำงานร่วมกับผม ไม่เอาเปรียบ ไม่ไปหาความผิดพลาดไปป้ายอะไรเขา แต่ต้องทำงานอยู่ร่วมกันเป็นทีม และก็ทำกันมาดี 5 เดือนเท่านั้นละครับ มือใหม่หัดขับด้วย แต่บังเอิญเป็นนักการเมืองเก่า ค่อนชีวิตงานการเมือง เพราะฉะนั้น ผมจะทำหน้าที่ของผมต่อไป ใช้เวลาวันนี้มากเป็นพิเศษ แต่เอาเถอะครับ ไม่ได้พูดบ่อยละครับ 7 วันพูดที

ขออภัยบรรดาสื่อสารมวลชนทั้งหลาย ที่ผมไม่ได้พูดอธิบายความอย่างนี้กับท่าน เพราะพูดลงไป 10 ท่านลงดี 2 ท่านลงร้าย 8 มันพลิกผัน ขออนุญาตนะครับ ผมใช้สิทธิของผมที่ไม่ไว้วางใจในการเสนอข่าวของพวกท่าน ท่านก็ดูแล้วกัน ถ้าท่านดี ผมก็ต้องเปลี่ยนท่าทีของผมเหมือนกัน แต่ถ้าท่านยังเป็นกันอย่างนี้ นี่ไงครับ พาดหัวหนังสือพิมพ์ปกติตอนเช้าๆ รูปนายกรัฐมนตรียืนแล้วเขียนว่า “ไร้ยางอาย”

ผมแน่ใจว่าผมอ่านหนังสือพิมพ์ทั่วโลก ฉบับไหนที่ไหนก็อ่าน ในโลกนี้อ่านทั้งนั้น แต่ขณะนี้ไม่มีครับ มีอีกหลายอัน แต่ผมไม่ได้เอามา พอเจออันนี้ก็พับอันนี้มา ขออภัยท่านผู้ชมนะครับ อันนี้ต้องสัปดาห์หน้า เกินเวลามากเกินไป แล้วเขาจะว่าเอา แต่วันนี้ต้องเกินครับ บังเอิญเขาเป็นเทปรออยู่ ขอขอบพระคุณโทรทัศน์ NBT ที่อนุญาตให้ได้ใช้เวลาวันนี้ ขออภัยพวกศิลปากรที่เทปของท่านอาจจะสั้นไปหน่อย ที่เขาจะแสดง แต่ต่อไปนี้จะมีละครับ ท่านทั้งหลายที่รอ ต่อไปพอ 09.30 น. ปั๊บก็ได้ดูกันเลย ศิลปวัฒนธรรม วันนี้เวลาหมดนะครับ ต้องขอลาไปก่อนครับ วันอาทิตย์หน้า 08.30 น. พบกันใหม่นะครับ สวัสดีครับ