กกต.14 ก.ค.-“ประพันธ์ นัยโกวิท”ทราบข่าวรั่ว กกต.จะให้ใบแดง“วิฑูรย์ นามบุตร”ส.ส.ปชป. ระบุขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนหาหลักฐานเพิ่มเติม เชื่อมีการเผยแพร่เรื่องดังกล่าวจากบุคคลภายนอก ไม่ใช่ กกต. ยืนยันการพิจารณาเป็นไปตามข้อเท็จจริง ยึดความเป็นกลางและเป็นธรรม นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ทราบเรื่องข่าวรั่วที่ กกต.จะให้ใบแดงนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส. และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจะนำไปสู่การยุบพรรค โดยสำนวนดังกล่าวอยู่ในชั้นการสอบสวนของอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนที่ กกต.ให้ไปหาหลักฐานเพิ่มเติม และขอยืนยันว่า กกต.พิจารณาเรื่องร้องคัดค้านตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงเป็นหลัก ไม่ได้คำนึงถึงตัวบุคคลหรือพรรคการเมือง นายประพันธ์ ยังเชื่อว่าวิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่ได้เป็นผลมาจากรัฐธรรมนูญมาตรา 237 ในเรื่องการยุบพรรค เพราะกฎหมายที่เกี่ยวกับการยุบพรรคนั้น เป็นหลักการที่มีมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 2540 แล้ว เพียงแต่ในรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 237 วรรคสอง เป็นการเขียนให้ชัดเจนเท่านั้น และการจะยุบพรรคหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล ไม่ใช่ว่าจะต้องยุบทุกพรรค ทั้งนี้หากจะมีการแก้ไขรัฐธรมนูญในเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องของผู้ที่มีอำนาจ กกต.ทำตามกฎหมายเท่านั้น ด้านนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน เชื่อว่า เรื่องใบแดงนายวิฑูรย์ไม่ได้รั่วไปจาก กกต. แต่มองว่าเป็นบุคคลคนภายนอกนำข้อมูลจากภายในของ กกต.ไปพูด เพราะเรื่องดังกล่าวยังอยู่ในชั้นการสอบสวนของอนุกรรมการฯ และไม่ต้องการให้มองว่าการที่นายกรัฐมนตรีออกมาพูดเรื่องดังกล่าวเป็นการกดดัน กกต. ส่วนการประชุม กกต.ในวันนี้ (14 ก.ค.) คาดว่าประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง จะนำผลการพิจารณาของคณะทำงานร่วมระหว่าง กกต.กับอัยการสูงสุด ที่เสนอให้ส่งเรื่องยุบพรรคชาติไทยและมัชฌิมาธิปไตยให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายสมชัย กล่าวว่า การที่นายทะเบียนพรรคการเมืองจะนำเรื่องดังกล่าวขอมติจากที่ประชุม กกต.เพื่อความรอบคอบ และตามขั้นตอนสามารถเสนอขอมติจาก กกต.ใหม่ได้ แม้ว่าจะมีมติไปแล้วในก่อนหน้านี้.- สำนักข่าวไทย
“การที่นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่องดังกล่าวในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ก็ไม่ได้เป็นการกดดันการพิจารณาของ กกต. ที่ยึดความเป็นกลางและธรรม” นายประพันธ์ กล่าว
อัพเดตเมื่อ 2008-07-14 12:35:18