รองโฆษก พลังประชาชน เผย คณะกรรมการเลือกตั้งสรุปคดี"รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์" แจกตั๋วหนัง มีทั้งพยานหลักฐาน พยานบุคคล รวมไปถึง วีซีดีที่บันทึกเหตุการณ์ เรียกร้องกกต.อย่านิ่งเฉย
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ในฐานะผู้ร่วมยื่นคำร้องคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) กลางสอบสวนกรณีนายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อาจทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด้วยการจัดมหรสพและแจกคูปอง ให้หัวคะแนนไปแจกให้ประชาชนในช่วงเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ซึ่งพรรคได้ติดตามความเคลื่อนไหวมาตลอด แต่ไม่เข้าใจว่าเหตุใด กกต.กลาง จึงยังไม่นำเข้าที่ประชุมพิจารณาเสียที
นายศุภชัยกล่าวว่า กรณีดังกล่าวนายวิฑูรย์ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งชัดเจน เข้าข่ายปราศรัยและจัดมหรสพ พร้อมแจกคูปองที่สามารถนำไปแลกตั๋วหนังได้ฟรี ซึ่งสิ่งที่พูดทั้งหมด มีทั้งพยานหลักฐาน พยานบุคคล รวมทั้งวีซีดีที่บันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย วันนี้ กกต.กลางอย่าให้ถูกกล่าวหาว่าทำอะไรอยู่ หรือเป็นการทำประโยชน์เพื่อให้พรรคการเมืองใดหรือไม่ ทั้งที่มีความผิดชัดเจน เรื่องนี้จะว่าไปแล้วก็ไม่แตกต่างจากกรณีที่ จ.เพชรบูรณ์ ที่มีการแจกเงิน 1.3 ล้านบาท ถูกจับได้คาหนังคาเขาแต่สุดท้ายได้แค่ใบเหลือง เพราะฉะนั้น กกต.ควรพิสูจน์ว่าที่เป็นองค์กรอิสระนั้นทำงานโดยอิสระจริงๆ
"ผมมองว่า หากเรื่องนี้ไม่แดงแล้ว ทั้งที่พยานหลักฐานชัดเจน ผมก็จะดูว่า กกต.มีพฤติการณ์ใดที่กระทำไปโดยชอบหรือไม่ หากไม่ชอบอาจใช่ช่องทางกฎหมายดำเนินการทางอาญาต่อไป และมีสิทธิ์ถูกยื่นถอดถอนได้"
นายศุภชัยกล่าวว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัครแสดงความมั่นใจว่ากรณีดังกล่าวพรรคประชาธิปัตย์จะถูกยุบพรรคแน่นอนนั้น เข้าใจว่านายสมัครคงมองในมุมมองที่เป็นนักกฎหมายเหมือนกัน
ด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาะปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัครบอกว่าเร็วๆ นี้พรรคประชาธิปัตย์จะรู้สึก เพราะอาจโดนใบแดงที่ จ.อุบลราชธานีว่า ถือว่าผิดสังเกต เพราะที่จ.อุบลราชธานี เคยมีการร้องเรียนการเลือกตั้งต่อกกต.อุบลราชธานี และมีการสรุปผลว่าไม่มีความผิด แต่ผ่านมา 3-4 เดือน มีความพยายามจากฝ่ายสืบสวนส่วนกลาง จะหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณา และมีความพยายามที่จะร้องเรียนเรื่องนี้ขึ้นมาอีก พยายามที่จะควานหาว่า ผู้สมัครของพรรคคนใดที่เป็นกรรมการบริหารพรรค และเข้าข่ายที่จะร้องเรียนการทุจริตการเลือกตั้ง เพื่อสอบสวนเอาผิดให้ได้
"ขอเรียนว่า เราไม่มีประสงค์จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อมิให้ถูกยุบพรรค หรือหนีความผิดถ้าเราถูกตัดสิน เราก็พร้อมยอมรับ จะไม่ร้องแรกแหกกระเชอได้ และจะไม่ประพฤติเหมือนกับที่รัฐบาลทำ อย่างไรก็ตามพรรคไม่วิตกกังวลเรื่องนี้เพราะเชื่อว่าไม่ได้ทำผิดอะไร" นายองอางกล่าว