ที่มา thaifreenews
โดย : เสียงประชาไทย
ทุกวันนี้
การเมืองในประเทศมีแต่คนที่มีจิตใจอคติต่อกันในทุกพื้นที่ผ่านกระบวนการความคิดและแสดงออกมาทางคำพูดและการกระทำ อย่างเช่น..
กรูถูก!! ***ผิด!!
คุณมันจะไปรู้เรื่องอะไร!!
พวกนี้มันก็แค่กุ๊ย โง่ เห็นแก่เงินทั้งนั้นละ!!!
พวกเรามาด้วยใจ พวกมันมาด้วยเงิน!!
พวกเอง!!มันก็เป็นปัญหาของสังคมแค่นั้นละ
ฯลฯ นี่เป็นตัวอย่างเล็กๆน้อยๆ
ผมเองก็ยอมรับครับ ว่ามีความคิดที่เป็นอคติอยู่ไม่น้อย
ผมมีอคติกับฝ่ายตรงข้ามกับคนเสื้อแดง
ผมมีอคติกับคนเสื้อแดงบางส่วน
ผมมีอคติกับเผด็จการทหาร เผด็จการอีแอบ
ผมมีอคติกับอำนาจนอกระบบ
ผมมีอคติกับสนธิ ม๊อบเสื้อเหลือง
ฯลฯ
สังคมประชาธิปไตยมันก็เป็นแบบนี้ละครับ
ในเมื่อเรามีสิทธิเท่าเทียมกัน เราก็สามารถที่จะมีอคติกับใครก็ได้แต่การมีอคติควรอยู่ในหลักของเหตุผล หลักของความจริงไม่ใช่ตะบี้ตะบันเถียงเขา ด่าเขาคิดว่าตัวเองถูกเสมอคนอื่นที่เห็นแตกต่างเขาผิดหมด พอเขาว่าให้ก็ด่ากลับ เล่นนอกเกมไม่ยอมรับความจริง ด่าเขา สบประมาทเขาอย่างนั้นอย่างนี้ทั้งๆที่ตัวเองผิดอยู่เต็มประตู
การมีอคติของประชาชนไทยทุกวันนี้มันจึงเกินเลย มากเกินความจำเป็น จนต้องมีการแบ่งข้าง แยกฝ่ายกันชัดเจน
ต่างคนต่างคิดว่าฝ่ายตนเองนี่ถูกเสมอ พร้อมทำลายอีกฝ่ายทุกเมื่อ
หากมองในแง่ดีมันก็เป็นสิ่งที่ดีที่ประชาชนทุกคนกล้าที่จะแสดงจุดยืนของตนเองอย่างชัดเจน ไม่คอยแต่เป็นอีแอบหลบมุมพอเห็นทีว่าฝ่ายไหนจะชนะก็เสนอหน้าออกมาเข้าข้าง
หากมองในแง่ร้ายมันก็เป็นสิ่งที่เกินไปหน่อย ประชาชนไทยทุกวันนี้รู้ดีถึงสิทธิของตนเองแต่ส่วนใหญ่กลับไม่รู้จักหน้าที่ของตนเอง ซะอย่างนั้น
สิทธิ หน้าที่เป็นของคู่กันในระบอบประชาธิปไตย
วันนี้แม้คุณมีสิทธิเต็มที่ในระบอบประชาธิปไตยก็ตามแต่คุณควรที่จะเข้าใจในหน้าที่ของตัวเองซะบ้าง ไม่ใช่กรูมีสิทธิอยากทำอะไรก็ทำ จนบางทีละเลยหน้าที่ตัวเองแบบหน้าด้านๆ
ตัวอย่างมีให้เห็นเยอะแยะครับ
อย่างเช่นทหารมีหน้าที่อะไร ?
แม้ทหารจะมีสิทธิตัวเองเต็มที่แต่ทำไมชอบลืมหน้าที่ของตนเองว่า ทหารคือรั้วของชาติ ไม่ใช่เครื่องมือสนองอำนาจของใครบางคน
แพทย์ พยาบาลมีหน้าที่อะไร ?
ในกรณี 7 ตุลา 51 แพทย์ พยาบาลบางคนกล้าที่จะออกมาแสดงสิทธิของตนเองว่าไม่รับรักษาตำรวจ แม้อ้างจะเป็นสิทธิแต่พวกเขากลับลืมหน้าที่และจรรยาบรรณของตนเอง มันควรแล้วหรือ
อีกหลายกรณีครับที่กระทำไปโดยอ้างสิทธิของตนเองแต่ดันไม่รู้หน้าที่ตัวเองเพราะในใจมีอคติแบบไร้เหตุผล
ทั้ง2ตัวอย่างที่ยกมาเป็นสายอาชีพที่ควรจะนึกถึงคำว่าหน้าที่มากกว่าสิทธิของตัวเองซึ่งกรณีที่ยกมาพูดเหล่านี้มันคงจะมีที่เดียวในโลกเพราะที่อื่นแม้เขาจะเข่นฆ่ากันยิ่งกว่านี้เขาก็ยังตระนักถึงหน้าที่ของตนเองเสมอ
การนำเสนอ และสื่อต่างๆของประเทศไทยมันจึงมีอคติแฝงด้วยเสมอ ไร้ซึ่งความเป็นกลาง ละเลยหน้าที่ตนเองกลับไปเอาคำว่า สิทธิ มาเป็นที่ตั้งเพราะสิทธิมันสามารถเข้ากันได้ดีกับคำว่าอคติโดยที่หากมีใครมาโต้แย้ง ก็พร้อมที่จะตอบกลับไปว่า
มันเป็นสิทธิของกรู!!!
ตามระบอบประชาธิปไตย แต่หัวสมองดันเป็นพวกเผด็จการอนุรักนิยม