WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, March 3, 2009

สมัชชาเสื้อแดง เพื่อสังคมใหม่

ที่มา Thai E-News


การเมืองใหม่ที่แท้จริง-ถึงเวลาแล้วที่มวลชนเสื้อแดง ต้องพูดถึงสังคมใหม่ ต้องเอาความฝันของพวกเราออกมาสู่สังคม เอาความปรารถนาที่ฝังอยู่ในจิตใจออกมาพัฒนาให้มันเป็นรูปธรรม ดั่งคำที่สมัชชาคนจนเคยพูดไว้ว่า “ประชาธิปไตยต้องกินได้"


โดย วัฒนะ วรรณ
ที่มา องค์กรเลี้ยวซ้าย
3 มีนาคม 2552

ถึงเวลาแล้วที่เรามวลชน “เสื้อแดง” จะยกระดับการต่อสู้ให้ไปไกลกว่าประชาธิปไตย ภายใต้รัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2540

เพราะครั้งนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างชนชั้น เป็นการต่อสู้ระหว่าง คนเสื้อแดง ที่เป็นชนชั้นล่าง เป็นชาวไร่ชาวนา เป็นผู้ใช้แรงงานในโรงงาน ในสำนักงานบริษัทต่างๆ เป็นคนหาเช้ากินค่ำ เป็นคนขับแท็กซี่ เป็นคนขับวินมอเตอร์ไซต์ เป็นคนที่เคยถูกละเลยมาในอดีต และที่สำคัญคือ เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ ที่สร้างสังคมให้เจริญมาโดยตลอด

กับพวกศักดินา อภิสิทธิ์ชน ชนชั้นสูง อำมาตยาธิปไตย ที่ร่ำรวย ผ่านการกดขี่ขูดรีด มาจากพวกเรา โดยที่ผ่านมาดูเหมือนว่าเราจะไม่ได้เป็นเจ้าของประเทศนี้อย่างแท้จริง และเมื่อมีวิกฤตคนที่เสียสละก็ยังต้องเป็นพวกเราอีก ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเดินหน้าต่อสู้เพื่อให้มาซึ่งเจ้าของประเทศโดยแท้จริง

ถึงเวลาแล้วที่มวลชนเสื้อแดง ต้องพูดถึงสังคมใหม่ ต้องเอาความฝันของพวกเราออกมาสู่สังคม เอาความปรารถนาที่ฝังอยู่ในจิตใจออกมาพัฒนาให้มันเป็นรูปธรรม ดั่งคำที่สมัชชาคนจนเคยพูดไว้ว่า “ประชาธิปไตยต้องกินได้

เราต้องกล้าที่จะเห็นสังคมใหม่ ที่ระบบเศรษฐกิจและการเมืองถูกออกแบบมาเพื่อความเท่าเทียมและความอยู่ดีกินดีของประชาชน แล้วสังคมใหม่จะมีหน้าตาอย่างไร องค์กรเลี้ยวซ้าย ของนำเสนอตุ๊กตาเพื่อเป็นข้อเสนอให้เราร่วมกันพัฒนาต่อ

ว่าด้วยรัฐสวัสดิการ “ครบวงจร ถ้วนหน้า ระบบเดียว”

ระบบรัฐสวัสดิการเป็นระบบที่เน้นความเท่าเทียม แทนการให้โอกาสที่เท่าเทียม เน้นเสรีภาพในสังคมให้ประชาชนปราศจากความกลัวและอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี

ซึ่งหมายความว่าไม่ใช่เด็กทุกคนมีโอกาสในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเท่าเทียมกัน แต่ระบบรัฐสวัสดิการเด็กๆทุกคนต้องได้เรียนหนังสือในสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพเท่าเทียมกัน ประชาชนทุกคนต้องได้รับการบริการขั้นพื้นฐานจากรัฐ เช่น ต้องมีงานทำ การรักษาพยาบาลฟรี ที่อยู่อาศัยที่มีมาตรฐานราคาถูก มีเงินเดือนสำหรับคนที่ทำงานไม่ได้ มีการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น ระบบขนส่งมวลชน สื่อ ศิลปวัฒนธรรม นักสังคมสงเคราะห์ เป็นต้น

ต้องเป็นระบบที่ครบวงจร นั่นหมายถึง ต้องทำหลายๆอย่างพร้อมกันถึงจะมีประสิทธิภาพ คือถ้ามีระบบเรียนฟรี ก็ต้องมีทุนการศึกษาในรูปตัวเงินให้เปล่า ต้องมีระบบขนส่งมวลชนที่ดี ที่เด็กจะสามารถเดินทางไปโรงเรียนได้สะดวกไม่เหนื่อยจนเกินไป ต้องมีที่พักที่มีคุณภาพที่อยู่ใกล้สถานศึกษาในกรณีที่ไม่ต้องการเดินทาง และต้องมีห้องพักที่มีมาตรฐาน ราคาถูก ที่เยาวชนจะมีพื้นที่ส่วนตัวในการอ่านหนังสือและพักผ่อน ไม่ใช่อยู่รวมกันภายในห้องเช่าราคาแพงเล็กๆที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

พ่อแม่ผู้ปกครองต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย ต้องมีงานทำที่ได้ค่าตอบแทนที่มากพอสำหรับเลี้ยงชีพ และพักผ่อน ภายใต้ชั่วโมงการทำงานที่น้อยที่สุด สภาพแวดล้อมภายในครอบครัวถึงจะดี

ต้องเป็นระบบถ้วนหน้า หมายถึงระบบรัฐสวัสดิการต้องครอบคลุมทุกคนในสังคม ไม่ต้องพิสูจน์ความจนเพื่อขอรับบริการจากรัฐ เช่นไม่ต้องมีช่องพิเศษที่แยกออกต่างหากสำหรับคนจนในการเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล เพราะมันไปทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยไม่ว่ามีเชื้อชาติใด สัญชาติใด และมีสถานทางกฎหมายอย่างไร ต้องสามารถใช้บริการสาธารณะของสังคมได้ โดยเท่าเทียมกัน

รัฐสวัสดิการต้องเป็นระบบเดียวกัน มีมาตรฐานเดียวกันที่ดีมีคุณภาพ หมายความว่า ระบบสวัสดิการที่มีอยู่ในสังคมไทยทุกระบบต้องรวมเป็นระบบเดียวกันเพื่อความมีประสิทธิภาพในการบริการ

การสร้างรัฐสวัสดิการได้ต้องมีการกระจายความร่ำรวยในสังคมผ่านการเก็บภาษีก้าวหน้า หมายความว่าจะต้องมีการเก็บภาษีที่ดิน ภาษีทรัพย์สิน ภาษีมรดก จากคนร่ำรวยในสังคม ที่ไม่มีวันใช้หมด

การเก็บภาษีแบบนี้จะต้องออกแบบเพื่อไม่ให้กระทบกับคนจน ต้องกำหนดอัตราขั้นต่ำที่ไม่กระทบกับคนจน เช่น ใครที่มีที่ดินขั้นต่ำ20ไร่ อาจจะไม่ต้องเสียภาษีหรือเสียภาษีในอัตราส่วนที่น้อย แต่ถ้ามีที่ดินเป็นร้อยไร่ พันไร่ หมื่นไร่ ต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงขึ้นตามลำดับ ซึ่งอาจจะมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เพราะคนเหล่านี้ร่ำรวยจากสังคมและการเก็บภาษีที่สูงก็ไม่กระทบกับคุณภาพชีวิตโดยรวมของคนรวยอยู่แล้ว

สังคมใหม่จะต้องมีระบบกระบวนการยุติธรรม ที่ตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความยุติธรรมจริง

ระบบกระบวนการยุติธรรมที่ตรวจสอบได้ วิพากษ์วิจารณ์ได้ จะเป็นระบบที่สร้างความยุติธรรมได้จริง ต้องใช้ระบบลูกขุน ที่สุ่มมาจากพลเมืองของชุมชน โดยให้ผู้พิพากษาเป็นเพียงผู้ชี้แนะข้อกฎหมายเท่านั้น

การคุมขังผู้ที่ทำผิดต้องเน้นไปเพื่อความปลอดภัยของสังคม ต้องไม่มุ่งเน้นไปเพื่อการแก้แค้น ดังนั้นจะต้องยกเลิกโทษประหารชีวิตเพราะมันเป็นระบบที่เน้นการแก้แค้นเป็นหลัก ไม่สามารถสร้างความปลอดภัยในสังคมได้จริง นอกจากนี้จะต้องเน้นระบบการลงโทษที่พร้อมให้โอกาสคนแก้ตัวได้ ระบบคุกที่มีอยู่ในปัจจุบันต้องมีการปรับปรุง ต้องเน้นให้ผู้ต้องขังมีความภูมิใจว่าเขามีประโยชน์กับสังคม

ตำรวจ ทหาร ต้องใกล้ชิดชุมชน

ตำรวจ ต้องสังกัดชุมชน ไม่ติดอาวุธ เพราะการที่จะดูแลสังคมให้ปลอดภัยชุมชนมีประสิทธิภาพมากที่สุด และกองทัพต้องลดขนาดให้เล็กลง ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เน้นทหารอาสาสมัคร เพราะในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาการปกป้องประเทศทหารอาสาสมัครมีบทบาทสำคัญ เช่นขบวนการเสรีไทย แต่ทหารอาชีพกลับมีประวัติศาสตร์ตรงข้ามคือถูกใช้เป็นเครื่องมือในการก่อรัฐประหาร เข่นฆ่าประชาชน และเป็นเผด็จการ

การบริหารหน่วยงานสาธารณะต้องใช้ระบบ “ไตรภาคี”

การบริหารหน่วยงานสาธารณะ เช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัย อนามัย โรงพยาบาล ระบบขนส่งมวลชน ประปา ไฟฟ้า ฯลฯ ต้องให้ชุมชนและคนที่ทำงานมีส่วนร่วมในการบริหารงาน ซึ่งระบบไตรภาคี จะประกอบด้วย ตัวแทนจากรัฐที่ได้รับการเลือกตั้ง ผู้แทนที่ได้รับการเลือกตั้งจากชุมชนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้แทนสหภาพแรงงานที่ทำงานในหน่วยงานนั้น เพื่อทำให้การบริหารงานตอบสนองความต้องการของสังคมมากที่สุด

ต้องสร้างสมัชชาเสื้อแดงเพื่อสังคมใหม่

ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงตุ๊กตา เพื่อชวนให้มิตรสหายเสื้อแดงทุกท่านได้ร่วมกันแลกเปลี่ยน ร่วมกันทำข้อเสนอ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการต่อสู้ต่อไป แต่การเสนอโดยปัจเจกหรือกลุ่มเล็กๆจะมีพลังน้อย

ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องสร้าง “สมัชชาเสื้อแดงเพื่อสังคมใหม่” เพื่อเป็นเวทีที่กลุ่มต่างๆจะได้มีโอกาสในการถกเถียงแลกเปลี่ยนกันได้อย่างเสรีและมีพลัง และองค์กรเลี้ยวซ้ายขอเป็นแนวร่วมกับทุกกลุ่มที่อยากเห็นสังคมใหม่ที่สร้างความเท่าเทียมได้อย่างแท้จริง