WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, March 5, 2009

แย้มไต๋ซักฟอกปูดทุจริต 2 รมต.

ที่มา เดลินิวส์

ขู่ยื่นถอดถอนมาร์ควอนแม้วอย่าทำร้ายชาติ

"เพื่อไทย"ไม่รับมุก"ป๋าเหนาะ"เสนอซักฟอกแบบไม่ลงมติ"เป็ดเหลิม"เดินหน้าลุยถอดถอน-ไม่ไว้วางใจ “มาร์ค+3 รมต.” ตาม แผน พร้อมปูดทุจริต 2 กระทรวงใหญ่ เดินเกมเช็ก บิล รมต.เพื่อนเนวิน ขู่แจ้งจับ “บิ๊กทำเนียบฯ” หากถอนฟ้องพันธมิตรฯ ด้าน “ปชป.” ดาหน้าไม่สน “ม็อบเสื้อแดง” ตามประกบ ลั่น รมต. ทนได้ทุกสถานการณ์ “มาร์ค” วอนอยู่ในกรอบ อย่าจุดชนวนปะทะ แถมดักคอ “ทักษิณ” อย่าใส่ร้ายประเทศ ส่วน “เงานายกฯ” แขวะแคมเปญ ส่งนักโทษกลับคุก “วิปรัฐบาล” คาดวันซักฟอก 26-27 มี.ค. นี้ ฝ่าย “เพื่อแผ่นดิน” สิโรราบรัฐบาลเบ็ดเสร็จ “เด็กประชา” ขู่งดออกเสียง รมต.บางคน ขณะที่ “เนวิน” ดึงอัยการเป็นโล่คดีกล้ายาง อ้างต่อหน้าศาลทำถูกกฎหมาย-สุจริต ใจ ส่วน “เทพเทือก” เผย “ฮิลลารี คลินตัน” มี คิวเยือนไทย ก.ค. นี้ ด้าน “ตู่เสื้อแดง” แย้มนัด ใส่แดงวันอาทิตย์ประท้วงรัฐบาล ฮึ่มรวมพลถล่ม “มาร์ค” ที่ลพบุรี

“มาร์ค”เมินเสื้อแดงไล่ “รมต.”

เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีพรรค เพื่อไทยจะให้ ส.ส. ลงพื้นที่ชี้แจงความล้มเหลวของรัฐบาล หลังจากนายกฯ มีนโยบายให้ ครม. ลงพื้นที่ 76 จังหวัดว่า ไม่มีปัญหา นักการเมืองไม่ว่าฝ่ายใดมีหน้าที่พบประชาชนอยู่แล้ว ส่วนที่จะมีการบอกถึงความล้มเหลวของรัฐบาลนั้นที่จริงแล้วรัฐบาลยังไม่ได้เริ่มทำ และตัวนโยบายก็ยังไม่ได้ไปลงในพื้นที่เลย ดังนั้นคงไม่ล้มเหลว

นายกฯ กล่าวว่า การที่นักการเมืองแข่งขันกันทำงานลงพื้นที่พบปะประชาชนเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว ขอให้เอาข้อเท็จจริงและข้อมูลที่แท้จริงลงไป ถือว่าเป็นอันใช้ได้ อย่าไปมองในแง่ของความขัดแย้ง ทั้งนี้ทุกคนมีสิทธิเคลื่อนไหวอยู่ ในกรอบของกฎหมาย แต่ขออย่าเผชิญหน้าหรือปะทะกัน ต่างคนต่างทำงานกันไปก็ไม่มีปัญหา เมื่อ ถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่าประชาชนจะเกิดความ สับสนระหว่างข้อมูลของรัฐบาลกับของฝ่ายค้าน นายกฯ กล่าวว่า ประชาชนได้รับข้อมูลจากหลายฝ่าย จะได้ใช้วิจารณญาณ ซึ่งเราต้องเชื่อวิจารณ ญาณของประชาชน

กรีด “แม้ว” อย่าให้ร้ายเมืองไทย

ส่วนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะโฟนอินแสดงปาฐกถาผ่านวิดีโอลิงก์มา ยังสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่ฮ่องกงอีกครั้งในวันที่ 12 มี.ค. นี้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็น เรื่องขององค์กรที่จัดงานนี้ เราไปแทรกแซงไม่ได้ และการแสดงความคิดเห็นนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ถ้ามีการให้ข้อมูลที่ผิด เราก็ต้องชี้แจง ทั้งนี้ ตนหวังว่าคนไทยด้วยกันอย่าใส่ร้ายหรือให้ร้ายต่อประเทศ

เมื่อถามว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่ารัฐบาลควรใช้สื่อเพื่อแย่งพื้นที่ข่าวมากกว่าที่จะให้นายกฯ ออกมาตอบโต้ นายกฯ กล่าวว่า เราทำงานเชิง รุกและพยายามประชาสัมพันธ์ให้ดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนรับรู้ในสิ่งที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ แต่เราต้องให้เกียรติกับสื่อมวลชน เพราะสื่อมวลชนมีอิสระและต้องเป็นผู้ใช้วิจารณญาณในการนำเสนอ ข่าวสารที่คิดว่าอยู่ในความสนใจและเป็นประโยชน์ ขณะเดียวกันประชาชนผู้รับสื่อก็มีวิจารณญาณเหมือนกัน

เผย ก.ค. นี้ “ฮิลลารี” เยือนไทย

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ ภายหลังนายเอริค จี.จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐ อเมริกาประจำประเทศไทยเข้าพบว่า ทูตอเมริกาแจ้งว่านางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ จะมาพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ในเดือน ก.ค. นี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือเป็นการการันตี ความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่สามารถพูดเช่นนั้นได้ แต่คิดว่าการที่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ จะเดินทางมาพบผู้บริหารประเทศไทยจะทำให้เข้าใจสถานการณ์ที่เป็นจริงมากขึ้น ขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เราได้เห็นมุมมองของชาวต่างประเทศที่มีต่อประเทศไทยได้ดีขึ้น

“เทือก”เย้ย“เพื่อไทย”โม้แหลก

นายสุเทพ กล่าวถึงมติพรรคเพื่อไทยที่ ให้เสนอชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส. พรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ แนบท้ายญัตติขอ เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 ว่า ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น รัฐบาลก็ต้อง พร้อมให้มีการตรวจสอบอยู่แล้ว ฉะนั้นรัฐมนตรีคนใดที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ต้องเตรียมตัวตอบ ข้อสงสัยและข้ออภิปรายของ ส.ส. อีกทั้งไม่มีการ ตั้งวอร์รูมใด ๆ เพราะรัฐมนตรีทุกคนช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุว่าการอภิปรายอาจถึง ขั้นทำให้รัฐบาลต้องยุบสภาภายใน 1-2 เดือนนั้น เป็นการพูดโฆษณาชวนเชื่อรัฐบาลไม่ได้ทำอะไรผิด ทำทุกอย่างเปิดเผยและโปร่งใส ประชาชนก็เห็นอยู่แล้ว ดังนั้นเราไม่ต้องกลัวอะไร

ต่อข้อถามว่า จะไปพูดคุยกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช และ พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่น ดิน ที่ไม่เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยในการเสนอชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นนายกฯ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าว ว่า ตนกับนายเสนาะและ พล.ต.อ.ประชา ไม่ได้คุย อะไรกันในตอนนี้

ปัดข่าว“รมต.”ซ้อมตอบคำถาม

เมื่อถามว่า มีการซักซ้อมเพื่อเตรียมรับมือการอภิปรายในการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิ ปัตย์ เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่มีการซักซ้อมอะไร แปลกใจที่เห็นเป็นข่าวนี้ สำหรับการประชุม ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเราเป็นรัฐบาล ก็มีวาระที่ ให้รัฐบาลไปชี้แจงถึงสิ่งที่ได้ทำงานให้ ส.ส. ได้รับทราบแล้วนำไปบอกกับประชาชน ขณะเดียวกันรัฐมนตรีแต่ละคนจะได้รับฟังความคิดเห็นจาก ส.ส. เพื่อนำมาปรับปรุงวิธีการทำงาน นี่เป็นวิธีปฏิบัติตามระบอบประชาธิปไตย เพราะฉะนั้น การเปิดโอกาสให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิ การ นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ และรัฐมนตรีคนอื่น ๆ ชี้แจงต่อที่ประชุม ส.ส.ของพรรคจึงเป็นเรื่องปกติ

ลั่นทนม็อบ “เสื้อแดง”โห่ไล่ได้

นายสุเทพ เปิดเผยถึงการลงพื้นที่พบประชาชนว่า ไม่ได้เตรียมอะไรเป็นพิเศษ ตนจะลงพื้นที่ จ.นครนายก เพราะอยากไปดูเรื่องน้ำ และ ดูการประชาสัมพันธ์โครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลได้ดำเนินการไปถึงไหน มีปัญหาอุปสรรคอย่างไร ส่วนกรณีกลุ่มเสื้อแดงประกาศว่าจะตามไปชุมนุมขับไล่รัฐบาลทุกที่นั้น ตราบใดที่ไม่ได้ทำอะไรผิด เรา ก็ไปทำอะไรเขาไม่ได้ ถ้าไปตรวจราชการแล้วเขายืนโห่ไล่เราบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา พวกตนทนได้อยู่แล้ว ซึ่งการลงพื้นที่ต่าง ๆ จะทำให้ข้าราช การในจังหวัดมีพลังขมีขมันมากขึ้นและมีกำลังใจมากขึ้น ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการสกัดกลุ่มเสื้อแดงที่จะเปิดเวทีตามพื้นที่ต่าง ๆ

รองนายกฯ ชี้แจงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ให้ตรวจ สอบการเสียภาษี เพราะไม่พบการนำรายได้จากฟาร์มหอยนางรม เป็นเงิน 4 แสนบาทมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาว่า ตน จ่ายภาษีครบถ้วนแต่ก็ต้องไปดูอีกครั้ง ตนแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินครบ แต่ส่วนใหญ่โอนให้บุตรชายหมดแล้ว เพียงแต่ไม่ได้โอนหลักประกัน หนี้เงินกู้ของตนไปให้เท่านั้น

“ป๊อก” ไม่เพิ่มกำลังดูแลนายกฯ

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า จะลงพื้นที่ใน 3 จังหวัดคือ อุดรธานี หนองคาย และระยอง โดยวันที่ 6 มี.ค. นี้ จะเดินทางไป จ.ระยอง เพื่อ ดูปัญหามลพิษที่เกิดจากโรงงานภายในนิคมอุตสาห กรรมมาบตาพุด โดยจะไปพบกับผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งตัวแทนองค์กรพัฒนา เอกชน และชาวบ้านโดยรอบ เพื่อสอบถามถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และดูว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จะเข้าไปช่วยเหลือเรื่องใดได้บ้าง ส่วนการเผชิญหน้ากับกลุ่มเสื้อแดงนั้น ตนเชื่อว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนทุกคนคงเข้าใจ แม้จะมีความคิดเห็นแตกต่างกันก็ ไม่เป็นไร

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์กรณีนายกฯ เตรียมลงพื้นที่ จ.ลพบุรี ในวันที่ 7 มี.ค. ว่า ไม่ได้มีการเตรียมการใด ๆ เป็น พิเศษ ใช้เจ้าหน้าที่ดูแลปกติ

จี้ส่งเบอร์โทรฯ “แม้ว”ให้ สตช.

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับ พ.ต.ท. ทักษิณ แต่ที่ต้องออกมาชี้แจงเพราะเห็นว่าหากปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เคลื่อนไหวโดยการบิดเบือนข้อเท็จจริงฝ่ายเดียวอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด รัฐบาลมั่นใจว่าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้โดยไม่จำเป็นต้องไปปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ ตาม ที่ลิ่วล้อระบุว่าจะให้หมายเลขโทรศัพท์ พ.ต.ท. ทักษิณ เพื่อให้คำปรึกษา รัฐบาลกลัวว่าถ้าทำตาม แนวทางที่รัฐบาลทักษิณ เคยกระทำมาก็จะต้องเป็น เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะนโยบายของรัฐบาลปัจจุบันทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนโดยแท้จริง ขอแนะนำ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ควรเอาเบอร์โทรศัพท์ไปมอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) หรือสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อจะได้ประสานงานนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาตามคำพิพากษาของศาลดีกว่า

ล้อแคมเปญส่งนักโทษกลับคุก

นายเทพไท กล่าวต่อว่า ที่พรรคเพื่อไทยจะจัดแคมเปญเตรียมการเลือกตั้งโดยชูประเด็นเอา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้าน เพื่อหวังในผลคะแนนนิยมจากคนรากหญ้า แสดงว่าพรรคเพื่อไทยไม่มี จุดขายเพื่อดึงคะแนนนิยมแล้วจึงจำเป็นต้องเอาตัว นักโทษชายหนีคดีมาเป็นพรีเซ็นเตอร์เรียกคะแนน นิยม และควรเปลี่ยนแคมเปญเป็นเอา พ.ต.ท. ทักษิณ กลับคุก จะสอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง มากกว่า

โฆษกส่วนตัวนายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม ไม่สนใจพูดคุยกับนายเสนาะ และ พล.ต.อ.ประชา เพราะรู้แก่ใจแล้วว่าไม่ สามารถโน้มน้าวให้หัวหน้าพรรคทั้ง 2 พรรคมาร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ ซึ่งการอภิปราย ดังกล่าวเป็นเพียงการสนองตัณหาทางการเมืองของ คนบางคนเท่านั้น แค่พรรคเพื่อไทยมีมติให้ ร.ต.อ. เฉลิม เป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม ดีใจเนื้อเต้น แสดงความดีใจออกหน้าออกตาอย่าง เห็นได้ชัด ทั้งที่ตำแหน่งดังกล่าวเป็นแค่ตำแหน่งกำมะลอ อุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อเป็นพิธีกรรมในภาวะ ที่พรรคเพื่อไทยขาดผู้นำ

วิป รบ. เล็งวันซักฟอกปลาย มี.ค.

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่า หากฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจมาในวันที่ 11 มี.ค. ก็ต้องให้เวลารัฐบาลเตรียมข้อมูลประมาณ 2 สัปดาห์ คาดว่าการอภิปรายน่าจะอยู่ที่สัปดาห์สุดท้ายของเดือน มี.ค. คือ ประมาณ วันที่ 25-27 มี.ค. แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ จะเดินทางไปต่างประเทศในวันที่ 25 มี.ค. ดังนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจเลื่อนไปเป็นวันที่ 26-27 มี.ค. ส่วนระยะเวลาในการอภิปรายยังไม่ได้กำหนดว่ากี่วัน คงต้องรอดูญัตติของฝ่ายค้านก่อนว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีกี่คน และ มีประเด็นอะไรบ้าง

ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า รัฐบาลไม่หวั่นไหวหากฝ่ายค้านจะนำเรื่องส่วนตัว เรื่องชู้สาว หรือเรื่องกิ๊ก มาอภิปราย เพราะรัฐบาลพร้อม ให้ฝ่ายค้านตรวจสอบอย่างเต็มที่ แต่รัฐมนตรีก็ไม่ควรประมาท และจะให้รัฐมนตรีทำความเข้าใจกับประชาชนทั้งก่อนและหลังการชี้แจง พร้อมทั้งจะให้ลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจกับประชาชนด้วย

“พผ.” 2 ก๊วนยกมือหนุนรัฐบาล

นพ.อลงกต มณีกาศ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อแผ่นดิน ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวว่า จากการหยั่งเสียง ส.ส.ของพรรคกว่า 20 คน แบ่งเป็นกลุ่มวังพญานาค โคราช และบ้านริมน้ำ ส่วนกลุ่มของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ว่าที่หัวหน้าพรรค มี 9 คน และ ส.ส.พรรคราษฎร 3 คนรวม 12 คนนั้น ทราบว่า ส.ส.กลุ่ม พล.ต.อ. ประชา จะยกมือสนับสนุนรัฐบาล โดยให้เหตุผลว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาลและถือเป็นมารยาททางการเมือง แต่อาจมีการสงวนท่าทีต่อรัฐมนตรีบาง คน โดยจะใช้วิธีงดออกเสียงแทนการโหวตไม่ไว้วางใจ

ที่อาคารเบญจมาศ พล.ต.อ.ประชา ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน แถลงภายหลังการประชุม ส.ส. กลุ่ม 12 ว่า ทางกลุ่มได้หารือกรณีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลมาแล้ว 2 ครั้ง และ ยังไม่มีข้อมูลว่ารัฐบาลบริหารงานผิดพลาดเสื่อมเสีย จึงควรให้โอกาสรัฐบาลทำงานไประยะหนึ่งก่อน ส่วนที่แกนนำพรรคเพื่อไทยนัดหารือในวันที่ 5 มี.ค. นั้น การพบกันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่เนื้อหาสาระเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้หารือกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช มาโดยตลอด

“เด็กประชา”แย้มงดออกเสียง

นพ.วัลลภ ไทยเหนือ ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า สมาชิกในกลุ่มได้พิจารณาแล้ว ยังไม่พบว่ารัฐบาลนี้ทุจริตคอร์รัป ชั่น จึงยังยืนยันว่าจะไม่ร่วมลงชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เช่นเดิม หากพรรคเพื่อไทยมาพบหรือนำข้อมูลมาหารือก็ยินดีที่จะพูดคุยด้วย ถ้ามีหลักฐานอื่นก็อาจจะต้องนำมาตัดสินใจกัน อีกครั้ง เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วน ม.ร.ว.กิติวัฒนา ไชยันต์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า พวกตนเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ จึงอยากให้โอกาสรัฐบาลที่คุยนักคุยหนาว่าสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ จึงให้เวลารัฐบาลบริหารงานไปอีกระยะหนึ่งก่อน ระยะเวลา 1-2 เดือนเรารอได้

นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ทางกลุ่มยินดีจะให้พรรคเพื่อไทยมาหารือ แต่ต้องมาที่อาคารเบญจมาศซึ่งเป็นที่ทำงานของพวกตนเท่านั้น ขณะที่ นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า พรรคเพื่อแผ่นดินเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หากจะไปลงชื่อกับฝ่ายค้านคงไม่เหมาะสม แต่ก็พร้อมรับฟังข้อมูลฝ่ายค้าน ถ้าเห็นว่ารัฐมนตรีคนใดทำงานไม่เข้าท่า ก็อาจงดออกเสียง แค่นี้รัฐบาลก็เหนื่อยแล้ว

“เหนาะ”จุดพลุอภิปรายทั่วไป

ที่บ้านพักเมืองทองธานี นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ให้สัมภาษณ์ว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาตนมองดูข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจยิ่งไร้สาระ โดยเฉพาะการนำเรื่องเก่า ๆ เช่น การรับเงินบริจาค 250 ล้านบาทเมื่อปี 2548 ปัญหา ส.ป.ก.4-01 ซึ่งเรื่องจบไปแล้ว 10 กว่าปี จะเอามาพูดเพื่อให้ได้อะไร ควรจะเอาปัญหาเฉพาะหน้าว่าใครคิดดี คิดไม่ดีกับประเทศมากกว่า และไม่จำเป็นต้องเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะยกมือในสภาก็เท่านั้น ทำไมไม่คิดอย่างสร้างสรรค์ ถ้าจะเอาความถูกต้องชอบธรรมก็ควรจะเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ให้ทุกฝ่ายได้พูด ทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล โดยรัฐบาลต้องใจกว้างเปิดให้มีการถ่ายทอดสดทั้งวิทยุและโทรทัศน์แบบเสรี ทุกเรื่องควรเอามาพูดในสภา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้อำนาจ 2 มาตรฐาน การแต่งตั้งองค์กรอิสระต่าง ๆ มีความถูกต้องหรือไม่ โดยให้ประชาชนและสื่อมวลชนเป็นผู้ตัดสินว่าใครพูดความจริง

ไม่กลัว“ปชป.”ปลุกผีอัลไพน์

ต่อข้อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยที่จะอภิปรายทั่วไป นายเสนาะจะร่วมอภิปรายหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า ถ้าเป็นการอภิปรายทั่วไป ตนก็ต้องพูด แต่จะเป็นการพูดแบบเตือนสติ ดังนั้นอย่าเอาอะไรมาขู่เด็ดขาด ตนขอฝากไปถึงนักกฎหมายคนหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ ที่บอกว่าจะนำเรื่องที่ดินอัลไพน์มาพูดนั้น ตนอยากให้ออกมาแฉเลย เพราะเรื่องนี้ตนได้พูดและชี้แจงในสภาไปแล้วและพร้อมชี้แจงรอบสอง ทั้งนี้แนวคิดเรื่องเปิดอภิปรายทั่วไป ตนได้ให้แนวทางกับประธานวิปฝ่ายค้านไปแล้ว ซึ่งนายวิทยาก็เห็นด้วยและจะไปบอกพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้พรรคเพื่อแผ่นดินในกลุ่มของ พล.ต.อ.ประชา ก็เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้

ส่วนที่นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่าการที่พรรคประชาราชไม่ร่วมอภิปราย เพราะมีวาระซ่อนเร้นที่จะเข้าร่วมรัฐบาล นายเสนาะ กล่าวว่า แค่คิดก็ผิดและบาปด้วย ตนไม่มีวาระซ่อนเร้น เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับข้อเสนอ พรรคประชาราชจะโหวตให้ใคร นายเสนาะ กล่าวว่า ไม่โหวต เพราะโหวตไปเสียมือ และมั่นใจว่าคุม ส.ส. 9 คนของพรรคได้ เพราะก่อนหน้านี้คุม ส.ส. เป็นร้อยไม่เคยมีการแตกแถว

“เพื่อไทย”ฉายเดี่ยวถอดนายกฯ

อีกด้านหนึ่ง ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะทำงานการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ที่ประชุมมีมติที่จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และ 3 รัฐมนตรี คือ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นายกษิต ภิรมย์ รมว. การต่างประเทศ และนายอิสสระ สมชัย รมว. การพัฒนาสังคมฯ ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นจะมีการหารือให้ได้ข้อสรุปอีกครั้งในวันที่ 10 มี.ค. จากนั้นจะยื่นญัตติและถอดถอนนายกฯ ต่อไป โดยในการประชุมครั้งนี้ได้มอบหมายให้คณะทำงาน 3 ชุด คือ ชุดถอดถอนนายกฯ ที่มีนายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร และคณะ เป็นผู้ยื่นถอดถอน

ส่วนคณะทำงานอีก 2 ชุด จะทำหน้าที่ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน เป็นผู้ยื่นญัตติ

เคารพแต่ไม่รับมุก “ป๋าเหนาะ”

“ผมขอให้รัฐบาลรักษาคำพูดที่จะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายอย่างเต็มที่ อย่าให้มีการประท้วงเป็นระยะ พวกผมจะอภิปรายอยู่ในกรอบ ไม่เยิ่นเย้อ กระชับ และครบถ้วน ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้วทั้งผู้อภิปราย และรายละเอียด แม้บางพรรคจะไม่มีชื่อร่วมยื่นญัตติ แต่หลังจากฟังการอภิปรายแล้วอาจจะยกมือให้กับฝ่ายเราก็ได้ ยอมรับว่าการแพ้ชนะในสภาในการอภิปรายคงไม่มี เพราะเขานับคะแนนไว้วางใจ ไม่ได้นับคะแนน ไม่ไว้วางใจ แล้วเราก็คงมีเสียง ส.ส. ไม่ถึง 300 กว่าเสียงแน่” ร.ต.อ.เฉลิม ระบุ

ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายเสนาะ เสนอให้เปิดอภิปรายทั่วไปแทนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ไม่ขอตอบโต้ แม้บางครั้งจะคิดอีกอย่าง แต่ก็ให้ความเคารพนายเสนาะ ทั้งนี้ในประเด็นของนายกฯ ขอปิดเป็นความลับ แต่รับรองได้ว่าจะมีเนื้อหาที่สมเกียรติแน่นอน และยืนยันว่าการที่เราละเว้นรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาล ก็ไม่ได้หวังว่าเขาจะกระโดดมาหาเรา หากหลังอภิปรายสมาชิกพรรคเห็นว่าใช้ไม่ได้ ตนก็พร้อมจะลาออกจากตำแหน่งประธาน ส.ส. ทันที

ปูด “สอศ.” ล็อกสเปกครุภัณฑ์

นายสุนัย จุลพงศกร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการให้ข้อมูลว่าจะมีการล็อกสเปกจัดซื้อครุภัณฑ์ในสำนักงานคณะกรรมการการอาชีว ศึกษา (สอศ.) ที่มีการกระจายงบ 700 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงบกลางไปยังวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั่วประเทศ โครงการละไม่ถึง 2 ล้านบาท เพื่อหลีกเลี่ยงการประมูลโดยเลขาธิการ สอศ. ได้ส่งหนังสือเลขที่ นส.ศธ. 0604/512 ลงวันที่ 19 ก.พ. ถึง ผอ.วิทยาลัยอาชีวศึกษาทุกแห่งให้ล็อกสเปกรายการที่เจาะจงลงไปชัดเจน ทั้งที่ บางวิทยาลัยไม่ได้ต้องการครุภัณฑ์ดังกล่าว

“คนวิ่งเต้นชื่อ นาย ป. เป็นพ่อค้า คอยวิ่งเต้นประสานวิทยาลัยต่าง ๆ แต่ละภาค เงิน 700 ล้านบาทเป็นเงินงบกลางที่ต้องไปกู้มาแจก แล้วมากินกันมูมมาม ใช้กันอีลุ่ยฉุยแฉกอย่างนี้ เอา 20 ล้านบาทไปวางดาวน์ไว้แล้วให้ลองคิดดู 20 เปอร์เซ็นต์ของ 700 ล้านบาทมันคือเท่าไหร่ ดังนั้นจึงขอให้กระทรวงศึกษาธิการไปแก้ปัญหา ถ้ายังคงปล่อยให้กระบวนการนี้เดินต่อไป ฝ่ายค้านก็คงต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องนี้ แม้ว่า น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศึกษาฯ จะดูแลกรมอาชีวศึกษา แต่ รมว.ศึกษาธิการ ก็ต้องรับผิดชอบ” ส.ส.เพื่อไทย ระบุ

แฉนำเข้าถั่วเหลืองโดนรีด 30 ล.

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า นักธุรกิจคนหนึ่งได้ร้องเรียนว่าจ่ายเงิน 30 ล้านบาทให้กับบางคนใน ครม. เพื่อแลกกับการเอื้อประโยชน์นำเข้ากากถั่วเหลือง ตนมีทั้งพยานบุคคลและเอกสารชัดเจนมาก โดยวันที่ 5 มี.ค. จะมอบข้อมูลให้คณะทำงานเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทย

ส.ส.สมุทรปราการ กล่าวถึงกรณีสถานทูตอังกฤษยืนยันไม่คืนวีซ่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า เท่าที่โทรศัพท์คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่ามีหลายประเทศ ที่ให้หนังสือเดินทางกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ตนไม่ได้สอบถามว่ามีประเทศอะไรบ้าง ส่วนกรณี ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรจะมายืนหน้าเรือนจำมากกว่าห้างแฮร์ร็อดส์นั้น ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ จะถ่ายรูปอีกครั้งจะมายืนหน้า ครม. ชุดต่อไปเพื่อแก้เศรษฐกิจ และตอนนี้ใกล้เวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาแล้ว ซึ่งพ.ต.ท. ทักษิณ บอกว่าจะกลับมาเร็ว ๆ นี้ในเวลาที่เหมาะสม

ยื่นสอบจริยธรรม “เด็กเนวิน”

ขณะเดียวกัน นายอธิวัฒน์ บุญชาติ แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ ยื่นหนังสือต่อนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ที่รัฐสภา เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรม คุณธรรม และจริยธรรม ของนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม สมัยที่เป็นนายกเทศมนตรีเทศ บาลนครขอนแก่น กรณีออกโฉนดที่ดินบริเวณป่าข้าวแป้ง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น จำนวน 11 ไร่ อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นายนวัธ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณะ แต่มีการร้องเรียนว่ามีการออกโฉนดสมัยที่รัฐมนตรีคนดังกล่าวดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรี ซึ่งพรรคจะตรวจสอบเรื่องนี้ และจะนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินคดี ทั้งนี้นายกฯ ได้ประกาศกฎเหล็ก 9 ข้อ ไม่ทราบว่ากรณีนี้จะนำมาปฏิบัติจริงหรือไม่ และถ้าตรวจสอบเรื่องนี้แล้วพบว่ามีข้อมูลเพียงพอที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ก็จะขอจองกฐินในฐานะที่เป็น ส.ส. ในพื้นที่

ขู่แจ้งจับ ขรก. ถอนฟ้อง “พธม.”

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลยุคป้ายสีและตัดตอน และเป็น “รัฐบาลปลากระป๋องเน่า ข้าวขึ้นรา ยาเป็นลม นมเป็นหนอน” เพราะไม่ว่ารัฐบาลชุดนี้จะแจกอะไร ทั้งปลากระป๋องและนม เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมักจะโทษรัฐบาลชุดก่อน ทั้ง ๆ ที่ปัญหามีเพียงแค่การบรรจุกล่องหรือขนส่งไม่เรียบร้อย อย่างไรก็ตามวันนี้พรรคฝ่ายค้านได้รวบรวมข้อมูลในเชิงลึกที่แสดงให้เห็นว่าปัญหานมบูดเกิดจากรัฐมนตรีและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปแบ่งผลประโยชน์มากเกินไป “เมื่อรวบรวมข้อมูลครบแล้วจะเปิดเผยเหมือนข้อมูลเกี่ยวกับปลากระป๋องเน่า แต่เชื่อว่าเรื่องนมสนุกและมันกว่าปลากระป๋อง เรื่องกิ๊ก หรือชู้รัฐมนตรีแน่นอน”

โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงกรณีสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) เตรียมถอนฟ้องแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในคดีละเมิดว่า หากนายลอยเลื่อน บุนนาค รองเลขาธิการนายกฯ สั่งให้ถอนฟ้องจริง ฝ่ายค้านอาจจะดำเนินคดีกับนายลอยเลื่อนว่าประพฤติมิชอบ และละเว้นตามมาตรา 157 นอกจากนี้ขอตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซงและสั่งการให้มีการถอนฟ้องคดีดังกล่าว

เสนอ“เพื่อไทย”อัปเปหิ“ปรพล”

นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า จะเสนอให้คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเร่งดำเนินการกับนายปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี พรรคเพื่อไทย ที่ไปร่วมทำกิจกรรมร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ทั้งที่ยังมีสถานะเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะปล่อยให้คาราคาซังอย่างนี้ไม่ได้ ต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่อันดับหนึ่ง ถ้าไม่มีมาตรการชัดเจน พรรคจะเสียหาย โดยพรรคอาจมีมติขับออกจากพรรคให้สมใจนายปรพล เพื่อจะได้คงสถานะ ส.ส. ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยก็ได้ อย่างไรก็ตามส่วนตัวไม่ห่วงว่าจะเป็นตัวอย่างให้ ส.ส. รายอื่นทำตาม ใครจะออกก็ออกไป เหลือเท่าไหร่ก็เท่านั้น จะได้ประกาศให้สังคมได้รับรู้กันไปเลยว่า ส.ส. เหล่านั้นมีพฤติกรรมเช่นไร จากนั้นพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าทำกิจกรรมการเมืองเพื่อเตรียมพร้อมเลือกตั้งต่อไป

โวยส่งทหารปูพรม “หนองคาย”

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายสมคิด บาลไธสง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ได้ขอหารือต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้พบว่ามีทหารจากหลายกองกำลังลงไปอยู่ในพื้นที่ทุกหมู่บ้านใน จ.หนองคาย ทำเสมือนกับว่าที่ จ.หนอง คาย มีสงคราม จึงอยากถามไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ว่าส่งทหารลงไปทำไม และต้องการจะทำอะไรกันแน่ ผู้สื่อข่าวรายงาน ด้วยว่า ก่อนหน้านั้นเคยมีกระแสข่าวว่ากองทัพบกมีงบลับในการให้ทหารลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับชาวบ้านให้สนับสนุนการทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดย จ.หนองคาย ถือเป็นพื้นที่สำคัญของพรรคเพื่อไทยจังหวัดหนึ่งที่สามารถกวาด ส.ส. เข้ามาได้ยกจังหวัด

แจง “แม้ว” ไม่ได้ปล่อยข่าววีซ่า

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยอมรับว่า สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศในเกาะฮ่องกง ได้เชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ปาฐกถาพิเศษเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจโลก ในวันที่ 12 มี.ค. จริง หลังจากที่ได้ขอเลื่อนกำหนดการเดิมซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ จะไปกล่าวด้วยตัวเองเมื่อวันที่ 2 มี.ค. ส่วนรูปแบบครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจกล่าวผ่านวิดีโอลิงค์มากกว่า เมื่อถามว่า ไม่เดินทางมาปาฐกถา เพราะเป็นห่วงเรื่องรัฐบาลไทยประสานขอส่งตัวกลับไทยหรือไม่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นห่วงเรื่องรัฐบาล และไม่ทราบว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร

ส่วนที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อ้างว่าทางการอังกฤษได้ออกวีซ่าพำนักอาศัยถาวรให้กับ พ.ต.ท. ทักษิณ นั้น นายพงศ์เทพ กล่าวว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่เคยยื่นขอเรสซิเดนท์วีซ่า และไม่เคยรับทราบเรื่องที่เป็นข่าว อยู่ดี ๆ ก็มีข่าวขึ้นมา

ใส่แดงวันอาทิตย์ไม่เอา “ปชป.”

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวว่า การจัดตั้งองค์กรของคนเสื้อแดงกำหนดมีขึ้นในทุกจังหวัด เพื่อสร้างกองทัพประชาธิปไตยสีแดง และจะยกระดับต่อสู้ขับไล่รัฐมนตรีในทุก ๆ พื้นที่ที่เดินทางไป ปรากฏการณ์ที่จะเห็นได้ชัดเจน คือ การขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ที่จะลงตรวจเยี่ยมพื้นที่ จ.ลพบุรี ในวันที่ 7 มี.ค. นี้ ส่วนการรณรงค์ให้สวมเสื้อสีแดงทุกวันอาทิตย์นั้น คงจะมีการหารือกันก่อนแจ้งเป็นทางการแก่สมาชิก แต่ทุกวันนี้คนเสื้อแดงก็สวมเสื้อสีแดงแทบทุกวันเป็นปกติอยู่แล้ว สำหรับแนวคิดดึงนักการเมืองสำคัญ เช่น นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย หรือนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีต รมว.ยุติธรรม มาร่วมนำทัพมวลชนคนเสื้อแดงนั้น คงจะเชิญมาร่วมเป็นบางครั้งบางคราวมากกว่า โดยจะพิจารณาจากความเหมาะสมเป็นครั้งคราวไป

ศาลไต่สวนคดีกล้ายางนัดแรก

วันเดียวกัน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายบุญรอด ตันประเสริฐ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เจ้าของสำนวนคดีหมายเลขดำที่ อม.4/2551 และองค์คณะได้ออกนั่งบัลลังก์ ไต่สวนคดีทุจริตจัดซื้อต้นกล้ายางพารา 90 ล้านต้นของกรมวิชาการเกษตร มูลค่า 1,440 ล้านบาท เป็นนัดแรก สำหรับคดีนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์แทนคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ยื่นฟ้องนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการ นโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) และพวก รวม 44 คน เป็นจำเลย ในความผิดความประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157, 341, ประกอบ มาตรา 83, 84, 86, 90 และ 91 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4, 9-13 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11

“เนวิน”อ้างอัยการยันไม่ผิด ก.ม.

ก่อนเริ่มการไต่สวนพยานโจทก์ กลุ่มจำเลยได้ส่งตัวแทนแถลงเปิดคดีด้วยวาจา โดยนายเนวิน ชิดชอบ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ จำเลยที่ 4 ได้แถลงเปิดคดี ยืนยันว่า โครงการดังกล่าวยกระดับรายได้และความมั่นคงให้เกษตรกรแถบภาคเหนือและภาคอีสาน เป็นนโยบายเพื่อแก้ไขความยากจนอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ตั้งแต่ฉบับที่ 1 จนถึงฉบับปัจจุบัน ซึ่งหลังจากเริ่มปลูกกล้ายางเมื่อปี 2547 เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวได้ภายในปี 2554 หากย้อนเวลากลับไปได้ก็ยืนยันว่าอนุมัติโครงการนี้เช่นเดิม ซึ่งการอนุมัติดำเนินโครงการได้ตัดสินใจด้วยเหตุผล และการพิจารณาสัญญาการจัดซื้อต้นกล้ายาง สำนักงานอัยการสูงสุดได้ตรวจพิจารณาแล้ว เห็นว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอน จึงได้ดำเนินโครงการโดยความเชื่ออย่างสุจริตใจ

จากนั้น นายบรรเจิด สิงคเนติ ประธานอนุกรรมการไต่สวน คตส. ได้ขึ้นเบิกความลำดับการตรวจสอบโครงการจนถึงเวลา 16.00 น. แต่ทนายฝ่ายจำเลยยังมีประเด็นซักถามอีก ศาลจึงนัดไต่สวนนายบรรเจิด พร้อมกับ น.ส.ผ่องเพ็ญ สัมมาพันธ์ ผอ.สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ในวันที่ 11 มี.ค. เวลา 09.30 น.

สหรัฐห่วงบ่อน้ำมัน “อ่าวไทย”

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ว่า นักธุรกิจสหรัฐได้สอบถามถึงความคืบหน้าการทำข้อตกลงในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา เนื่องจากการเข้าไปทำประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนต้องได้รับความยินยอมจากทั้ง 2 ฝ่าย เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีน้ำมันดิบมาก ถ้าทั้ง 2 ประเทศตกลงกันไม่ได้ หลายบริษัทที่เข้าไปสำรวจก็จะเปิดบ่อไม่ได้ ทางนักธุรกิจสหรัฐจึงอยากให้การทำข้อตกลงมีความคืบหน้าเพื่อให้สามารถเดินหน้าเปิดบ่อน้ำมันได้ ซึ่งนายกฯ ได้ชี้แจงว่าปัญหาในเรื่องดินแดนทั้ง 2 ประเทศ จะ นำเข้าพูดคุยในที่ประชุมคณะกรรมการชายแดน (เจบีซี) ซึ่งหวังว่าเจบีซีจะเริ่มเดินหน้าแก้ปัญหาดังกล่าวต่อไปได้

เหวี่ยงแหคุ้ยข้อมูลรมต.ยกเข่ง

รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากพรรคเพื่อไทย จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 4 คนแล้ว พรรคเพื่อไทยเตรียมอภิปรายเบื้องหลังการจัดตั้งรัฐบาลผ่านประเด็นเงิน 258 ล้านบาท และ 23 ล้านบาท โดยวางตัว ร.ต.อ.เฉลิม อภิปรายเพียงคนเดียว และเชื่อมั่นว่าจะสร้างแรงสะเทือนให้กับรัฐบาลได้ นอกจากนี้ได้มีการติดตามข้อมูลในกระทรวงต่าง ๆ กว่า 10 คน ได้แก่ นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ประเด็นโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม ประเด็นแทรกแซงการใช้งบก่อสร้างทางหลวงชนบท นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช. มหาดไทย ประเด็นการใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เกี่ยวกับราคาข้าว ข้าวโพด และการขึ้นราคาปุ๋ย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิ การ ประเด็นการจัดซื้อหนังสือเรียน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ประเด็นงบลับ 2 พันล้านบาท และมีชื่อนายวีระชัย วีระเมธีกุล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี กรณีบริจาค เงินจำนวน 80 ล้านบาท ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

ฉลุยวาระแรก พ.ร.บ.จัดสรรคลื่น

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงมติเห็นชอบรับหลักการร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม โดยใช้ร่างของ ครม. เป็นหลัก ด้วยคะแนน 263 ต่อ 1 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา จำนวน 45 คน

ในการพิจารณาเรื่องดังกล่าวมีผู้เสนอร่าง พ.ร.บ. เข้าสู่ที่ประชุมสภา รวม 3 ฉบับ โดย ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.เทคโนโลยีสารสน เทศและการสื่อสาร เป็นผู้นำเสนอหลักการของกฎหมายว่า อยากให้สมาชิกรับหลักการในวาระแรก เพื่อให้เกิดการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่เปลี่ยนแปลงให้มี กสทช. เพียงองค์กรเดียว จากเดิมที่รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ให้มีคณะกรรมการ 2 คณะ คือ กสช. และ กทช. เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ก็จะนำไปสู่การจัดสรรคลื่นความถี่ และจัดระเบียบคลื่นวิทยุต่าง ๆ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาวิทยุชุมชน

ทบ.แจ้งเคลื่อนรถถัง 5-10 มี.ค.

พ.อ.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกระ ทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีกลุ่มเสื้อแดงต่อต้านการลงพื้นที่ของ ครม. ว่า เป็นเรื่องของฝ่ายปกครองและตำรวจในแต่ละจังหวัดที่ต้องดูแลรักษาความปลอดภัย ส่วนทหารมีหน้าที่ป้องกันทรัพย์สินทางราชการเท่านั้น ซึ่งคงไม่มีการใช้กำลังทหารเป็นผู้ดูแลหลัก และเชื่อว่าคงไม่มีเหตุการณ์รุนแรง เพราะมีการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเคร่งครัดและเสมอภาค ซึ่งน่าจะเป็นการป้องปรามกลุ่มผู้ชุมนุมได้ ส่วนการโฟนอินของ พ.ต.ท. ทักษิณ ในจังหวัดต่าง ๆ นั้น คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกโดยกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์จะเคลื่อนย้ายรถถังและกำลังพลไปฝึกภาคสนามที่ จ.กาญจนบุรี วันที่ 5-10 มี.ค. โดยเคลื่อนพลในวันที่ 5 มี.ค. เวลา 04.00-14.00 น. โดยใช้เส้นทางถนนทหาร มุ่งสู่ถนนพหลโยธิน ปลายทางสถานที่ฝึก จ.กาญจนบุรี และจะเคลื่อนกลับในวันที่ 10 มี.ค. เวลา 12.00-22.00 น.

“วิชัย”ประเดิมเด้งผวจ.เชียงราย

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า นายวิชัย ศรีขวัญ รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในคำสั่งที่ 80/2552 ให้นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าฯ เชียงราย มาช่วยราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยให้รองผู้ว่าฯ เชียงราย อาวุโส อันดับ 1 รักษาราชการแทน

ข่าวแจ้งว่า การขอตัวนายไตรสิทธิ์มาช่วยราชการในครั้งนี้ เนื่องจากผู้ใต้บังคับบัญชาจำนวนมากได้ร้องเรียนเข้ามายังกระทรวงมหาด ไทยว่า ไม่สามารถทำงานร่วมกับนายไตรสิทธิ์ได้ ขณะเดียวกันนายไตรสิทธิ์ไม่สามารถแก้ปัญหาม็อบเสื้อแดงในจังหวัดได้ ทั้งนี้นายไตรสิทธิ์เพิ่งโยกย้ายจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยมาเป็นผู้ว่าฯ เชียงราย เมื่อเดือน เม.ย. 2551 ที่ผ่านมาด้วยการสนับสนุนของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน โดยนายไตรสิทธิ์จะเกษียณอายุราชการในปีนี้

ส.ส.หนีประชุมทำสภาล่มซ้ำซาก

ค่ำวันเดียวกัน ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงมติรับหลักการวาระแรกร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ... ที่ ครม. และสมาชิกเสนอรวม 3 ฉบับแล้ว จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณารับหลักการร่าง พ.ร.บ.เหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... แล้ว ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองการดำเนินงานของสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง พ.ศ. ... ที่ ครม. เป็นผู้เสนอ โดยสมาชิกได้อภิปรายอย่างกว้างขวางนานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ก่อนที่จะลงมติ นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภา คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้ขอตรวจสอบองค์ประชุม ปรากฏว่ามีสมาชิกอยู่ในห้องเพียง 220 คน ขาดไป 11 เสียง ทำให้นายสามารถสั่งเลื่อนการลงมติไปเป็นวันที่ 5 มี.ค. และสั่งปิดประชุมในเวลา 20.15 น.