WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, March 4, 2009

สุเมธ อุปนิสากร กามิกาเซของอมาตยาธิปไตย

ที่มา thaifreenews

บทความ โดย ปูนนก

เมื่อพูดถึง กามิกาเซ คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักแม้จะไม่ใช่คนญี่ปุ่นก็ตาม กามิกาเซ เป็นภาษาญี่ปุ่น หมายถึง ลมแห่งเทพเจ้า ซึ่งชาวญีุ่ปุ่นเชื่อว่าเทพเจ้่าเป็นผู้นำพามาเพื่อชัยชนะในสงครามสมัยรบกับมองโกล และในสงครามโลกครั้งที่สอง ฝูงบินรบของญี่ปุ่นก็บินโจมตีแบบฆ่าตัวตายต่อกองทัพอเมริกัน ก็ใช้ชื่อว่า กองบินกามิกาเซ เช่นกัน

กรณีการกล่าวอำลาการทำงานของนายสุเมธ อุปนิสากร ก็เช่นเดียวกัน คงจะมีเพียงนายสุเมธ เพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะทราบว่าเหตุใดเขาจึงพูดอย่างเปิดอกในวันอำลาตำแหน่ง กกต. ในประโยคที่ว่า ผมยอมรับว่า กกต.ชุดนี้เป็นของปลอม เพราะตั้งโดย คมช. ไม่ได้ถูกตั้งมาตามรัฐธรรมนูญหรือได้รับการโปรดเกล้าฯ

ถ้าดูอย่างผิวเผินก็อาจจะมองได้ว่า นายสุเมธ ต้องการให้สังคมได้รับความชัดเจนและเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า กกต. นั้นไม่่มีความชอบธรรมในการทำงาน และตัวนายสุเมธ เองก็ไม่เห็นด้วยในกรณีนี้.... แต่ไม่ว่าจะอย่างไรแม้นายสุเมธ จะเห็นด้วยกับการแต่งตั้ง กกต. โดยอำนาจของ คมช. หรือไม่ก็ตาม แต่เขาก็ได้ยอมรับตำแหน่งนี้และทำงานมากว่า 2 ปี โดยไม่เคยพูดถึงประเด็นนี้มาก่อนแต่อย่างใด

คงยากที่จะกล่าวได้ว่านายสุเมธ อุปนิสากร จะเห็นด้วยกับแต่งตั้ง กกต. ว่าเป็นของแท้หรือของปลอมหรือไม่ ??.... แต่ตัวนายสุเมธ เองก็ยอมรับกับการแต่งตั้งนั้นและอยู่ในตำแหน่งมาจนครบวาระที่กฎหมายกำหนดไว้ และที่สำคัญยังได้เป็นคณะกรรมการในการพิจารณาตัดสินคดีความทางการเมืองหลายต่อหลายเรื่องที่มีความสำคัญไม่น้อย

มีความประจวบเหมาะที่น่าจะพิจารณาอยู่หลายประเด็นด้วยกันคือ ประการแรก สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองของกลุ่มชนสองฝ่ายคือ ฝ่ายนิยมอมาตย์ (เสื้อเหลือง) และฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตย (เสื้อแดง) ได้ก้าวมาสู่จุดที่กระแสเรียกร้องประชาธิปไตยกำลังแพร่ขยายไปทั่วทั้งประเทศ ประการที่สอง แรงบีบคั้นทางการเมืองเรื่องความไม่เป็นประชาธิปไตยของชาติจากประเทศมหาอำนาจกำลังพุ่งสู่รัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง ประการที่สาม ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังรุมเร้าในทุก ๆ ด้านของประเทศ และประการสุดท้าย รัฐบาลนายกอภิสิทธิ์ กำลังประสบกับปัญหาทางการเมืองเรื่องความชอบธรรม และการบริหารประเทศ ซึ่งอนาคตในการคงอยู่ของรัฐบาล เทพประทาน คงจะอยู่ได้อีกไม่นานนัก

พูดง่าย ๆ ก็คือ รัฐบาลของอภิสิิทธิ์ ผู้ได้รับอำนาจมาจากเผด็จการอมาตย์ กำลังอยู่ในระยะที่จะถึงทางตันและกำลังจะต้องสิ้นสุดลงในไม่ช้า และถ้าเมื่อใดรัฐบาลเทพประทานต้องสิ้นสุดลง ฝ่ายเผด็จการก็จะต้องสูญเสียอำนาจในทางการเมืองลงอย่างไม่ต้องสงสัย และโอกาสที่จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้กลับมามีอำนาจในการปกครองประเทศอีกโดยการเลือกตั้งคงเป็นไปได้ยาก และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่พวกเผด็จการอมาตย์ จะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้โดยเด็ดขาด

ไม่ว่าจะอย่างไรนายสุเมธ อุปนิสากร ก็ได้ยอมรับเป็นผู้ร่วมมือกับอำนาจเผด็จการในการไล่ล่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้นการยอมประกาศว่า กกต. ชุดนี้เป็นของปลอม ก็เป็นเพียงการ วางระเบิดทางการเมือง โดยใช้ตนเองเป็นผู้ผูกระเบิดนั้นเหมือนปฏิบัติการ กามิกาเซ นั่นเอง...คำพูดของนายสุเมธ ทำให้เกิดสุญญากาศทางอำนาจในการจัดการเรื่องการเมือง ในเมื่อ กกต. มีที่มาไม่ถูกต้อง และไม่สามารถหากฎหมายใดมารองรับในการมีอยู่ของ กกต.ได้ และถ้าเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง จะต้องให้มีการเลือกตั้งขึ้นใหม่ในเร็ว ๆ นี้ กกต. ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยจากประชาชน โดยคำกล่าวของ นายสุเมธ เอง ก็จะไม่มีความชอบธรรมเพียงพอที่จะเป็นผู้จัดการเลือกตั้งในครั้งนี้ได้ ประชาชนผู้เบื่อหน่ายกับสถานการณ์การเมืองและภาวะเศรษฐกิจที่รุมเร้ารอบด้าน ก็จะไม่มีทางออกนอกจากจะต้องยอมรับการเกิดขึ้นของ รัฐบาลแห่งชาติ หรือรัฐบาลสมานฉันท์ หรืออะไรก็ตามที่มีความหมายเดียวกัน ที่จะมีมาถึงโดย ผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ

เผด็จการอมาตย์ไม่เคยเปลี่ยนเป้าหมายหรือความตั้งใจที่จะต้องให้ประเทศไทยมี รัฐบาลแห่งชาติหรือที่เรียกว่าการเมืองใหม่ โดยไม่ผ่านการเลือกตั้งของประชาชน เพราะพวกเขารู้อยู่ว่าประชาชนไม่สามารถยอมรับอำนาจการปกครองโดยเผด็จการอมาตย์ได้อีกต่อไป แต่ที่ยัีงไม่เกิดการแตกหักหรือเกิดการปะทะด้วยกำลังกันระหว่างประชาชนสองฝ่ายก็เพราะว่า ประชาชนไทยที่ถูกโฆษณาชวนเชื่อมานานหลายสิบปี ยังคงมีความรักและศรัทธาใน ตัวบุคคล บางคน ในโครงสร้างของระบอบเผด็จการอมาตย์อยู่อย่างเหนียวแน่น

วิธี กามิกาเซ ของนายสุเมธ ในครั้งนี้ส่งผลให้เกิดแรงกระเพื่อมอย่างรุนแรงในเรื่องความชอบธรรมในการทำงานของ กกต. เกิดความกระอักกระอ่วนในการพิจารณาอรรถคดีทางการเมืองใด ๆ นับจากนี้ต่อไป หรือแม้กระทั่งที่ผ่านมาแล้ว และไม่เพียงแค่การพิจารณาอรรถคดีเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงอำนาจหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นอนาคตอันใกล้นี้ด้วย

นี่คือ แผนการ อันแยบยลที่ฝ่ายอมาตย์จะสร้างความชอบธรรมในการที่จะให้เกิด รัฐบาลแห่งชาติ ขึ้นในประเทศนี้ และเ็ป็นที่แน่นอนว่าพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลายคงจะไม่อาจยอมรับการครอบครองอำนาจอย่างไม่ชอบธรรมในลักษณะนั้นได้อีกต่อไปอย่างแน่นอน

ขณะนี้สนธิ ลิ้มทองกุล กำลังปลุกระดมกับคนไทยทั้งชาติให้มีจินตนาการณ์ถึงความเป็นศัตรูกันระหว่างชนไทยกับชนชาติพม่าในอดีต โดยอ้างว่าตนเองเป็น "ทหารเอกของพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชผู้กู้ชาติ" มาปลุกระดม และกล่าวหาโดยใช้จินตนาการณ์ร่วมว่า พวกเสื้อแดงเป็นพม่า กลับชาติมาเกิด นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นมาเมื่อ 400 ปีล่วงมาแล้ว การปลุกระดมลักษณะที่เอาอดีตมาเป็นเครื่องมือนี้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเผด็จการอมาตย์หมดทางที่จะหาเหตุที่เป็นปัจจุบันมากล่าวโจมตี ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยได้อีกต่อไป... ขณะเดียวกันก็กำลังยุยงให้คนไทย เกลียดชัึงและเข้าห้ำหั่นกัน โดยปราศจากเหตุผล เพื่อนำให้สถานการณ์ของประเทศเข้าสู่สภาวะความรุนแรง และในที่สุดก็เรียกร้องให้เกิดรัํฐบาลแห่งชาติ

พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน ประเทศไทยของเรานี้กำลังจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ แต่การเปลี่ยนผ่านนี้จะต้องผ่านความเจ็บปวดและทุกข์ยาก... ประชาธิปไตยไม่เคยได้รับมาโดยการร้องขอจากเผด็จการ สิ่งที่เกิดขึ้นมาในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมานี้ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าเผด็จการอมาตย์ ไม่เคยรักหรือเ็ห็นแก่ประชาชนในชาติเลยแม้แต่น้อย พวกเขามองประชาชนในชาตินี้เป็นเพียง ไพร่, พลเมือง ของประเทศนี้เท่านั้น และ ไพร่ ก็มีหน้าที่เพียงกระทำทุกสิ่งที่ผู้ปกครองต้องการ และยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกอมาตย์จะยื่นให้โดยไม่มีข้อต่อรอง

ถึงเวลาแล้วที่คนไทยทุก ๆ คนต้อง ตัดสินใจ ที่จะเลือกว่า จะอยู่ในประเทศนี้โดยมีสามารถที่จะเป็นผู้เลือกการปกครองตนเองได้โดยอิสระ หรือจะเลือกว่า จะอยู่ในประเทศนี้อย่างเป็นผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครองที่เผด็จการหยิบยื่นให้ตลอดไป ไม่มีใครเลือกแทนท่านได้ นอกจากจิตสำนึกในความเป็นอิสระและผู้รักประชาธิปไตยในตัวของท่านเท่านั้นที่จะบอกท่าน....

และเมื่อจิตสำนึกเหล่านั้นได้บอกกับท่านในจิตใจของท่านแล้ว ท่านจะรู้ได้เองว่าท่านควรจะกระทำสิ่งใดสำหรับประเทศไทยที่ท่านรักนี้

ปูนนก