ที่มา มติชนออนไลน์
" ... ผมเห็นว่ารัฐบาลได้อนุมัติมาตรการหลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจไปมากพอสมควร จึงอยากให้รมต.ได้มีส่วนร่วมในการติดตามมาตรการและปัญหาต่างๆ ทุกพื้นที่ที่อาจจะมีปัญหาอื่นๆ จึงให้รมต.ทุกคนลงพื้นที่คนละ 2 จังหวัด ให้ครอบคลุมทั้งประเทศ ส่วนจังหวัดที่เหลือก็จะมอบหมายรมต.บางคนไป ... "
หมายเหตุ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ถึงแนวคิดการให้ ครม.ลงพื้นที่ทั่วประเทศพบปะประชาชน เพื่อชี้แจงนโยบายของรัฐบาล
------------------------------ ผมเห็นว่ารัฐบาลได้อนุมัติมาตรการหลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจไปมากพอสมควร จึงอยากให้รัฐมนตรีได้มีส่วนร่วมในการติดตามมาตรการและปัญหาต่างๆ ทุกพื้นที่ที่อาจจะมีปัญหาอื่นๆ จึงได้ให้รัฐมนตรีทุกคนลงพื้นที่คนละ 2 จังหวัด ซึ่งจะทำให้ครอบคลุมทั้งประเทศ ส่วนจังหวัดที่เหลือก็จะมอบหมายรัฐมนตรีบางคนไป
โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่สุดสัปดาห์นี้ วันที่ 7-8 มีนาคม ซึ่งอาจจะได้ 36 จังหวัดที่ได้มีการติดตามงาน แต่ไม่ได้เน้นเรื่องการให้รัฐมนตรีไปแจกสิ่งของ เพราะจะเน้นเรื่องการติดตามนโยบาย โดยผมจะลงพื้นที่ จ.ลพบุรี วันที่ 7 มีนาคม เพื่อดูเรื่องผู้สูงอายุ ชุมชนพอเพียง รวมไปถึงงานสาธารณสุข เพราะเคยไปลงพื้นที่ จ.ลพบุรี ไว้ก่อนหน้านี้มาครั้งหนึ่งแล้ว
ผมจะพยายามให้รัฐมนตรีลงพื้นที่อย่างน้อย 2 ครั้งในเดือนนี้ โดยไม่มีการแบ่งว่าพรรคไหนลงพื้นที่ไหน ซึ่งจะแบ่งกันแบบสมัครใจว่าใครอยากลงพื้นที่ไหน เนื่องจากเสาร์-อาทิตย์นี้หลายคนกำลังจะลงพื้นที่ในฐานะ ส.ส.อยู่แล้ว จึงอาจจะเลือกจังหวัดที่ตัวเองเป็นเจ้าของพื้นที่ก่อน สำหรับผม เดือนนี้กำหนดการยังค่อนข้างแน่น
@ หากรัฐมนตรีลงพื้นที่แล้วเจอการขับไล่จากกลุ่มคนเสื้อแดงจะทำอย่างไร
เราก็คงเหมือนกับที่รัฐบาลพยายามปฏิบัติมาตลอด คือไม่ต้องการไปให้เกิดบรรยากาศการเผชิญหน้า แต่เคารพการใช้สิทธิ และขอให้แต่ละฝ่ายทำหน้าที่ และแสดงท่าทีของตัวเองไปแต่อยากให้เกิดการกระทบกระทั่ง แต่ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะที่ผ่านมารัฐมนตรีแต่ละคนลงพื้นที่ไปปฏิบัติงานมาแล้วพอสมควร
รัฐบาลหวังผลจากการลงพื้นที่ของ ครม.ครั้งนี้ เพียงการติดตามนโยบายและมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาการสื่อสารและติดตามนโยบายในภาพรวม อาจจะทำผ่านรายการโทรทัศน์หรือข่าวสารอย่างเดียว แต่ตรงนี้จะเป็นการสัมผัสกับผู้ปฏิบัติและประชาชนในพื้นที่
@ เป็นการสยบความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงด้วยหรือไม่
เป้าหมายหลักคือการทำความเข้าใจและชี้แจงสิ่งที่เราทำ รวมไปถึงการรับทราบปัญหาและอุปสรรคมากกว่า
@ การลงพื้นที่ครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์หวังผลในทางการเมืองอย่างไร
ทุกพรรคลงพื้นที่หมด ไม่ใช่เฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่จริงๆ โดยไม่ได้เอาเรื่องพรรคเข้ามาเกี่ยวข้อง ในหลายพื้นที่ก็อาจจะมีการประสานกับ ส.ส. แต่ก็จะเป็นการประสานกับทุกพรรค ผมไม่ได้คิดเรื่องคะแนนเสียง แต่คิดเรื่องประสิทธิภาพการทำงาน
@ ทำไมนายกฯถึงเลือกลงพื้นที่ลพบุรี
หากพูดตามภาษาการเมือง จ.ลพบุรี มี ส.ส. 4 คน 3 พรรค ทั้งพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะ จ.ลพบุรี เดินทางสะดวก สามารถเดินทางไปและกลับมาปฏิบัติภารกิจต่อได้ในช่วงบ่าย
@ เป็นการเบี่ยงเบนกระแสอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่
ไม่เกี่ยวอะไรกัน และการลงพื้นที่ครั้งนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดิสเครดิตฝ่ายค้าน เพราะเป็นเรื่องนโยบายรัฐบาล
@ การลงพื้นที่ช่วงนี้เกี่ยวข้องกับการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บนเวทีคนเสื้อแดงช่วงเดือนมีนาคมด้วยหรือไม่
ไม่เกี่ยว เพราะเวลาผมลงพื้นที่ผมก็ไปเอง ไม่ได้โฟนอิน
@ นายกรัฐมนตรีกล้าเดินทางไปลงพื้นที่ภาคอีสานหรือไม่
หากผมมีภารกิจก็ไป คือจริงๆ แล้วการลงพื้นที่หนักหน่อยคงต้องรอปิดสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพราะผมมีข้อจำกัดที่วันอังคาร พุธ พฤหัสบดี จะมีประชุมที่กรุงเทพฯตลอด และเนื่องจากผมเป็นประธานกรรมการในฐานะนายกฯเยอะมากก็พยายามจะประชุมวันจันทร์ให้หมด แม้แต่จะเดินทางไปต่างประเทศก็พยายามจะไปค้างคืนคืนเดียว ซึ่งในวันเสาร์และอาทิตย์ก็อาจจะติดการเดินทางกลับจากต่างประเทศ
ผมตั้งใจอยากจะไปทุกจังหวัด เท่าที่จะทำได้ ต้องค่อยๆ ทยอยไป แต่เป็นเพราะช่วงนี้ข้อจำกัดมาก ส่วนใหญ่จึงจะไปเฉพาะภาคกลาง จะสะดวกที่สุด ที่เลือกลพบุรี เพราะบังเอิญมีประเด็นที่เคยทำงานตรงนั้นกับมวลชน เรื่อง อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขมูลฐาน) และสาธารณสุข และนโยบายที่จะไปตามก็เป็นเรื่องนี้ จึงเลือกไปที่นั่น และจังหวัดที่ผมไปช่วงนี้ได้ก็ต้องใกล้ ไม่อย่างนั้นการเดินทางก็จะเป็นข้อจำกัด แต่เมื่อปิดสมัยประชุมแล้วจะมีกิจกรรมในต่างจังหวัดอย่างเต็มรูปแบบได้มากขึ้น
@ นอกจากลงพื้นที่ช่วงนี้แล้วจะมีการประชุม ครม.สัญจรบ้างหรือไม่
เรื่องนี้ผมก็ไม่ได้ปิดกั้น หากมีประเด็นและเหตุผลความจำเป็นก็ต้องพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง
@ ในการลงพื้นที่ จ.ลพบุรี จะต้องมีทหารไปคุ้มครองหรือไม่
ไม่จำเป็น การที่ผมไปพบกับประชาชนเอง เพราะทราบว่าประชาชนต้องได้รับความไม่สะดวกบางอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติเวลาที่ผมไปประชุมต่างประเทศก่อนหน้านี้เห็นว่าเมื่อมีงานในลักษณะการลงพื้นที่จะมีข้อจำกัดเรื่องการจอดรถ การสัญจรไปมาของประชาชนในเมือง จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าผมไปหาประชาชนที่หัวหินเลยในวันแรกที่เดินทางไปประชุมอาเซียนซัมมิท --------------- นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
"นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ ครม.ทั้ง 35 คน และรวมถึงตัวนายกฯเอง ลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เนื่องจากนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลได้ออกไปแล้วในระยะเวลาเกือบ 2 เดือน ดังนั้นขอให้รัฐมนตรีทุกคนลงพื้นที่เพื่อรับฟังและชี้แจง แนวทางนโยบายของรัฐบาลที่ประชาชนยังมีข้อสงสัย รวมถึงการไปรับฟังและแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะเรื่องปัญหาภัยแล้ง การรับฟังนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล อาทิ เรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โครงการเรียนฟรี เพื่อจะได้รับทราบปัญหา
โดยตัวนายกฯเองจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดลพบุรีในวันที่ 7 มีนาคมนี้อีกด้วย ทั้งนี้ นายกฯมอบหมายให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้คอยรับและรวบรวมการแสดงความจำนงการลงพื้นที่จาก ครม.แต่ละคน ว่าใครประสงค์จะลงพื้นที่ใดบ้างตามความสมัครใจ ซึ่งในวันที่ 7-8 มีนาคมนี้ คาดว่าจะมีรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่อย่างน้อยถึงราว 30 จังหวัด" -------------------------
2.นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.ชลบุรี
3.พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.กำแพงเพชร และพิจิตร
4.พล.อ.ประวิตร์ วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่
5.นายกรณ์ จาติกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ จ.สระบุรี และราชบุรี
6.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์
7.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ลงพื้นที่ จ.พัทลุง
8.นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ
9.นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช นครราชสีมา และขอนแก่น
10.นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น
11.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี
12.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี
13.นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด
14.นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒธรรม ลงพื้นที่ จ.ตราด
15.นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ จ.สระแก้ว
16.นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ จ.หนองคาย และยังแจ้งประสงค์ที่จะเดินทางไปยัง จ.ปัตตานี และยะลา ในสัปดาห์ต่อไป
17.นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ จ.ตาก และสุโขทัย
18.น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ จ.นนทบุรี
19. นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์
20.นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ จ.กระบี่
หมายเหตุ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ถึงแนวคิดการให้ ครม.ลงพื้นที่ทั่วประเทศพบปะประชาชน เพื่อชี้แจงนโยบายของรัฐบาล
------------------------------ ผมเห็นว่ารัฐบาลได้อนุมัติมาตรการหลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจไปมากพอสมควร จึงอยากให้รัฐมนตรีได้มีส่วนร่วมในการติดตามมาตรการและปัญหาต่างๆ ทุกพื้นที่ที่อาจจะมีปัญหาอื่นๆ จึงได้ให้รัฐมนตรีทุกคนลงพื้นที่คนละ 2 จังหวัด ซึ่งจะทำให้ครอบคลุมทั้งประเทศ ส่วนจังหวัดที่เหลือก็จะมอบหมายรัฐมนตรีบางคนไป
โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่สุดสัปดาห์นี้ วันที่ 7-8 มีนาคม ซึ่งอาจจะได้ 36 จังหวัดที่ได้มีการติดตามงาน แต่ไม่ได้เน้นเรื่องการให้รัฐมนตรีไปแจกสิ่งของ เพราะจะเน้นเรื่องการติดตามนโยบาย โดยผมจะลงพื้นที่ จ.ลพบุรี วันที่ 7 มีนาคม เพื่อดูเรื่องผู้สูงอายุ ชุมชนพอเพียง รวมไปถึงงานสาธารณสุข เพราะเคยไปลงพื้นที่ จ.ลพบุรี ไว้ก่อนหน้านี้มาครั้งหนึ่งแล้ว
ผมจะพยายามให้รัฐมนตรีลงพื้นที่อย่างน้อย 2 ครั้งในเดือนนี้ โดยไม่มีการแบ่งว่าพรรคไหนลงพื้นที่ไหน ซึ่งจะแบ่งกันแบบสมัครใจว่าใครอยากลงพื้นที่ไหน เนื่องจากเสาร์-อาทิตย์นี้หลายคนกำลังจะลงพื้นที่ในฐานะ ส.ส.อยู่แล้ว จึงอาจจะเลือกจังหวัดที่ตัวเองเป็นเจ้าของพื้นที่ก่อน สำหรับผม เดือนนี้กำหนดการยังค่อนข้างแน่น
@ หากรัฐมนตรีลงพื้นที่แล้วเจอการขับไล่จากกลุ่มคนเสื้อแดงจะทำอย่างไร
เราก็คงเหมือนกับที่รัฐบาลพยายามปฏิบัติมาตลอด คือไม่ต้องการไปให้เกิดบรรยากาศการเผชิญหน้า แต่เคารพการใช้สิทธิ และขอให้แต่ละฝ่ายทำหน้าที่ และแสดงท่าทีของตัวเองไปแต่อยากให้เกิดการกระทบกระทั่ง แต่ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะที่ผ่านมารัฐมนตรีแต่ละคนลงพื้นที่ไปปฏิบัติงานมาแล้วพอสมควร
รัฐบาลหวังผลจากการลงพื้นที่ของ ครม.ครั้งนี้ เพียงการติดตามนโยบายและมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาการสื่อสารและติดตามนโยบายในภาพรวม อาจจะทำผ่านรายการโทรทัศน์หรือข่าวสารอย่างเดียว แต่ตรงนี้จะเป็นการสัมผัสกับผู้ปฏิบัติและประชาชนในพื้นที่
@ เป็นการสยบความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงด้วยหรือไม่
เป้าหมายหลักคือการทำความเข้าใจและชี้แจงสิ่งที่เราทำ รวมไปถึงการรับทราบปัญหาและอุปสรรคมากกว่า
@ การลงพื้นที่ครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์หวังผลในทางการเมืองอย่างไร
ทุกพรรคลงพื้นที่หมด ไม่ใช่เฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่จริงๆ โดยไม่ได้เอาเรื่องพรรคเข้ามาเกี่ยวข้อง ในหลายพื้นที่ก็อาจจะมีการประสานกับ ส.ส. แต่ก็จะเป็นการประสานกับทุกพรรค ผมไม่ได้คิดเรื่องคะแนนเสียง แต่คิดเรื่องประสิทธิภาพการทำงาน
@ ทำไมนายกฯถึงเลือกลงพื้นที่ลพบุรี
หากพูดตามภาษาการเมือง จ.ลพบุรี มี ส.ส. 4 คน 3 พรรค ทั้งพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะ จ.ลพบุรี เดินทางสะดวก สามารถเดินทางไปและกลับมาปฏิบัติภารกิจต่อได้ในช่วงบ่าย
@ เป็นการเบี่ยงเบนกระแสอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่
ไม่เกี่ยวอะไรกัน และการลงพื้นที่ครั้งนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดิสเครดิตฝ่ายค้าน เพราะเป็นเรื่องนโยบายรัฐบาล
@ การลงพื้นที่ช่วงนี้เกี่ยวข้องกับการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บนเวทีคนเสื้อแดงช่วงเดือนมีนาคมด้วยหรือไม่
ไม่เกี่ยว เพราะเวลาผมลงพื้นที่ผมก็ไปเอง ไม่ได้โฟนอิน
@ นายกรัฐมนตรีกล้าเดินทางไปลงพื้นที่ภาคอีสานหรือไม่
หากผมมีภารกิจก็ไป คือจริงๆ แล้วการลงพื้นที่หนักหน่อยคงต้องรอปิดสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพราะผมมีข้อจำกัดที่วันอังคาร พุธ พฤหัสบดี จะมีประชุมที่กรุงเทพฯตลอด และเนื่องจากผมเป็นประธานกรรมการในฐานะนายกฯเยอะมากก็พยายามจะประชุมวันจันทร์ให้หมด แม้แต่จะเดินทางไปต่างประเทศก็พยายามจะไปค้างคืนคืนเดียว ซึ่งในวันเสาร์และอาทิตย์ก็อาจจะติดการเดินทางกลับจากต่างประเทศ
ผมตั้งใจอยากจะไปทุกจังหวัด เท่าที่จะทำได้ ต้องค่อยๆ ทยอยไป แต่เป็นเพราะช่วงนี้ข้อจำกัดมาก ส่วนใหญ่จึงจะไปเฉพาะภาคกลาง จะสะดวกที่สุด ที่เลือกลพบุรี เพราะบังเอิญมีประเด็นที่เคยทำงานตรงนั้นกับมวลชน เรื่อง อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขมูลฐาน) และสาธารณสุข และนโยบายที่จะไปตามก็เป็นเรื่องนี้ จึงเลือกไปที่นั่น และจังหวัดที่ผมไปช่วงนี้ได้ก็ต้องใกล้ ไม่อย่างนั้นการเดินทางก็จะเป็นข้อจำกัด แต่เมื่อปิดสมัยประชุมแล้วจะมีกิจกรรมในต่างจังหวัดอย่างเต็มรูปแบบได้มากขึ้น
@ นอกจากลงพื้นที่ช่วงนี้แล้วจะมีการประชุม ครม.สัญจรบ้างหรือไม่
เรื่องนี้ผมก็ไม่ได้ปิดกั้น หากมีประเด็นและเหตุผลความจำเป็นก็ต้องพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง
@ ในการลงพื้นที่ จ.ลพบุรี จะต้องมีทหารไปคุ้มครองหรือไม่
ไม่จำเป็น การที่ผมไปพบกับประชาชนเอง เพราะทราบว่าประชาชนต้องได้รับความไม่สะดวกบางอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติเวลาที่ผมไปประชุมต่างประเทศก่อนหน้านี้เห็นว่าเมื่อมีงานในลักษณะการลงพื้นที่จะมีข้อจำกัดเรื่องการจอดรถ การสัญจรไปมาของประชาชนในเมือง จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าผมไปหาประชาชนที่หัวหินเลยในวันแรกที่เดินทางไปประชุมอาเซียนซัมมิท --------------- นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
"นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ ครม.ทั้ง 35 คน และรวมถึงตัวนายกฯเอง ลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เนื่องจากนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลได้ออกไปแล้วในระยะเวลาเกือบ 2 เดือน ดังนั้นขอให้รัฐมนตรีทุกคนลงพื้นที่เพื่อรับฟังและชี้แจง แนวทางนโยบายของรัฐบาลที่ประชาชนยังมีข้อสงสัย รวมถึงการไปรับฟังและแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะเรื่องปัญหาภัยแล้ง การรับฟังนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล อาทิ เรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โครงการเรียนฟรี เพื่อจะได้รับทราบปัญหา
โดยตัวนายกฯเองจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดลพบุรีในวันที่ 7 มีนาคมนี้อีกด้วย ทั้งนี้ นายกฯมอบหมายให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้คอยรับและรวบรวมการแสดงความจำนงการลงพื้นที่จาก ครม.แต่ละคน ว่าใครประสงค์จะลงพื้นที่ใดบ้างตามความสมัครใจ ซึ่งในวันที่ 7-8 มีนาคมนี้ คาดว่าจะมีรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่อย่างน้อยถึงราว 30 จังหวัด" -------------------------
เปิดจังหวัดรัฐมนตรีพบรากหญ้า
1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.นครนายกฯ และสมุทรปราการ2.นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.ชลบุรี
3.พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.กำแพงเพชร และพิจิตร
4.พล.อ.ประวิตร์ วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่
5.นายกรณ์ จาติกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ จ.สระบุรี และราชบุรี
6.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์
7.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ลงพื้นที่ จ.พัทลุง
8.นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ
9.นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช นครราชสีมา และขอนแก่น
10.นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น
11.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี
12.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี
13.นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด
14.นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒธรรม ลงพื้นที่ จ.ตราด
15.นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ จ.สระแก้ว
16.นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ จ.หนองคาย และยังแจ้งประสงค์ที่จะเดินทางไปยัง จ.ปัตตานี และยะลา ในสัปดาห์ต่อไป
17.นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ จ.ตาก และสุโขทัย
18.น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ จ.นนทบุรี
19. นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์
20.นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ จ.กระบี่