ที่มา ไทยรัฐ
วัดกันไปเลย เรตติ้งใครจะสูงกว่า
ระหว่างละครสั้น “คุณหนูลุยทุ่ง” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จัดคิวนำทีมรัฐมนตรีเดินสายโชว์ตัวทั่วประเทศ ตีปี๊บประชาสัมพันธ์ผลงานกับชาวบ้าน
ดึงคะแนนนิยมจากพ่อยกแม่ยก
กับละครชีวิตยาวๆ “จำเลยรักต่างแดน” อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เตรียมโปรแกรมส่งเสียงสดๆ “โฟนอิน” เข้างานวัดตามต่างจังหวัด ต่อสายตรงเวทีม็อบเสื้อแดงทุกพื้นที่
กระตุ้นอารมณ์คิดถึงกองเชียร์รากหญ้า
โดยเกมที่ตั้งใจเปิดมาแก้ลำกัน งานนี้ นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย
เด็กในคาถา “เนวิน ชิดชอบ” แบไต๋เลยว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาลได้กระตุกนายกฯอภิสิทธิ์ให้ลงพื้นที่รุกทางการเมือง
เพื่อเบนเป้าให้ประชาชนสนใจนโยบายรัฐบาล
เพราะขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินทุกพื้นที่ นายกฯอภิสิทธิ์และรัฐมนตรีจึงจำเป็นต้องลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างเร่งด่วนที่สุด
แค่เสียงยังมีฤทธิ์
รัฐบาล “อภิสิทธิ์” ซ่อนอาการผวาเงา “ทักษิณ” ไม่อยู่
และไม่รู้ว่าจะเบรกกระแสได้แค่ไหน กับลีลา “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง รีบตัดบทเมื่อถูกนักข่าวถามถึงความเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯ
“เอาเป็นว่า ตอนนี้เราหยุดคุยเรื่องคุณทักษิณสักพักดีมั้ย ผมคิดว่าเราอย่าไปให้ความสำคัญกับคุณทักษิณมากนักเลย”
แสร้งว่า เลิกเต้นตาม “ทักษิณ”
ไม่อยากได้ยินแม้กระทั่งคำถาม เลี่ยงพูดถึงเพื่อจะได้ไม่เป็นข่าว
แต่ที่เลี่ยงไม่ได้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ประกาศล่วงหน้า เจอที่ไหนไล่ที่นั่น ส่งซิกม็อบเสื้อแดงตามประกบนายกฯอภิสิทธิ์และทีมรัฐมนตรีทุกพื้นที่ที่ไป
ได้ทีสำแดงเดช เผาหัวก่อนดีเดย์ชุมนุมใหญ่ไล่รัฐบาล
และโดยอาการที่รู้ว่าหลบไม่พ้นเหมือนกัน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ออกตัว ไม่หนักใจถ้าจะมีการเกณฑ์คนเสื้อแดงตามประกบขับไล่ไปทุกที่
“เป็นเรื่องของรัฐมนตรีแต่ละคนต้องเตรียมตัวแขวนหลวงพ่อโกย หรือเสือเผ่นกันเอง”
แกล้งพูดทีเล่น แต่แหยงจริง
การเมืองกำลังเร้ากับเกมชิงกระแส แต่อีกด้านก็น่าเอะใจกับรายการชิงจังหวะทิ้งทวนของนายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านกิจกรรมการมีส่วนร่วม ที่พูดเปิดอกในงานอำลาเกษียณวาระตามรัฐธรรมนูญ เพราะมีอายุครบ 70 ปี
“ผมยอมรับว่า กกต.ชุดนี้เป็นของปลอม เพราะตั้งโดย คมช. ไม่ได้ถูกตั้งมาตามรัฐธรรมนูญหรือได้รับการโปรดเกล้าฯ”
พูดเป็นนัย อยากเห็นตุลาการกลับเข้ากรมกอง ชีวิตการเป็นศาลกับการอยู่ข้างนอกไม่เหมือนกัน หากออกมามากๆกลัวจะเหลิง เพราะการเมืองต้องเจอหลายประเภท
ลึกๆไม่แน่ใจว่า นายสุเมธต้องการสื่ออะไร กระทบชิ่งใคร
แต่ที่แน่ๆ โดยระเบิดตูมใหญ่ที่ทิ้งทวนทุบเครดิตกันเอง มันทำให้ 4 เสือที่เหลือทรงตัวลำบาก กับสถานภาพ “กกต.ของปลอม”
และโดยช็อตที่ต้องแกะรอยกันให้ดี กับคิวที่นายสุเมธทิ้งทุ่นไว้ว่า อาจมีปัญหาข้อกฎหมาย เมื่อพ้นจากตำแหน่งแล้วใครจะเป็นผู้ทำหน้าที่สรรหา เพราะตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 231 ระบุถึงการสรรหา กกต. ว่ามี 2 ส่วน คือ มาจากส่วนของคณะกรรมการสรรหา 3 คน และส่วนของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 2 คน
แต่เมื่อครั้งที่นายสุเมธได้รับแต่งตั้งมาจากคำสั่งของ คมช. ทำให้ ไม่สามารถระบุได้ว่า โควตาของนายสุเมธมาจากส่วนใดที่รัฐธรรมนูญกำหนด และใครจะเป็นผู้คัดเลือก
ถ้าจะใช้มาตรา 7 ที่บอกว่า หากไม่มีบทบัญญัติใด ให้ดำเนินการตามประเพณี ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่เคยมีประเพณีมาก่อน เชื่อว่า ถึงที่สุดแล้วอาจต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ
โดยปมกฎหมายที่ลักลั่น ที่แน่ๆ เมื่อนายสุเมธต้องพ้นวาระไป จะทำให้เหลือแค่ 4 เสือ กกต.ไม่ครบองค์คณะ อาจมีปัญหาต่อการจัดเลือกตั้ง
ส่อเค้าวุ่นแน่ ถ้าเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง
นี่แหละ อาจเป็นช่องให้พวกหัวหมอลากไปติดปมการเมือง ล็อกจัดเลือกตั้งใหม่ไม่ได้
เข้าทางเกมยื้ออำนาจ.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน