ผมไม่แน่ใจอายุของรัฐบาล”
กับลูกเก๋าของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ดึงเกมกั๊กบนเวทีถามตอบในงานวันนักข่าวประจำปี 2552 ไม่ไหลตามน้ำกับคำถามที่พิธีกรแย็บเรื่องระยะเวลาที่จะทำให้การเมืองนิ่ง ภายในวาระของรัฐบาลที่เหลืออีก 3 ปี
ไม่เผลองับเหยื่อง่ายๆ
ในอารมณ์ของเซียนเชี่ยวกรากยี่ห้อประชาธิปัตย์ “อภิสิทธิ์” ไม่พลาดพูดมัดคอตัวเอง คุยโวให้โดนหมั่นไส้ ล่อเป้าแรงเสียดทานโดยไม่จำเป็น
แต่อีกมุมหนึ่ง ก็น่าจะเป็นอาการเผื่อใจกับสถานการณ์ที่รู้กันอยู่เต็มอกว่า รัฐบาลจะต้องเจอกับด่านหินโหดที่รออยู่ข้างหน้า โดยเฉพาะหลุมดำเศรษฐกิจ
จุดสลบของประชาธิปัตย์
ยากเกินกำลังที่ “เด็กสองคน” จะแบกประเทศไทยฝ่าวิกฤติที่ลามทั่วโลก
เอาเป็นว่า ถ้าหมดแรงอัดฉีดเงิน 2,000 บาทช่วยคนมีรายได้น้อย กับเบี้ยยังชีพ 500 บาทช่วยคนชรา กระแสซาเมื่อไหร่
กระตุ้นหัวใจแล้วไม่ฟื้น ก็ตัวใครตัวมัน
ที่แน่ๆโดยอาการขยับของพวกจมูกไว เหมือนจะอ่านสถานการณ์ว่าจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่
ในไม่ช้านี้ เริ่มมีคิวปล่อยกระแส
“ปั่นหุ้น” ป้อมค่ายการเมืองใหม่
ทางหนึ่งกับการแพลมชื่อกลุ่ม “รักษ์เมืองไทย” ที่โยงใยสายสัมพันธ์เบื้องหลัง ทั้งชื่อของ “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล และมือเศรษฐกิจ กับ “เซนต์คาเบรียลคอนเนกชั่น” ที่มีชื่อของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม โยงไปถึง พล.อ.วินัย ภัททิยกุล อดีตเลขาธิการ คมช.
ต่อภาพทหารกับชนชั้นนำ
กลิ่นอายของพรรคอำมาตย์
แต่ที่มาแรงไม่กลัวแหกโค้ง สัญญาณคลื่นความถี่ทะลุทะลวงมาเลย กับอาการขยับของนายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำม็อบพันธมิตรฯโยนหินถามทางดังๆ
มีความเป็นไปได้สูงที่กลุ่มพันธมิตรฯจะจัดตั้งพรรคการเมือง เพื่อขับเคลื่อนอุดมการณ์ทางการเมืองใหม่
นัยว่า พรรคการเมืองในปัจจุบันไม่มีศักยภาพมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงการเมืองได้ แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังมีข้อจำกัดมาก เทียบกับการชุมนุมของม็อบพันธมิตรฯกว่า 190 วัน สามารถสร้างคุณูปการมากกว่าพรรคการเมืองซะอีก
ตีปี๊บอวดอ้างสรรพคุณเสร็จสรรพ แล้ว “สุริยะใส” ก็รวบรัดตัดความเลยว่า เราคุยกันแล้ว มีหลายเสียงที่บอกว่าพันธมิตรฯต้องตั้งพรรคให้เร็วที่สุด
เพื่อรองรับวิกฤติที่เกิดจากรัฐบาลผสมบริหารประเทศไม่ได้
ดูท่าแล้ว เอาแน่
และก็เป็นอะไรที่เสียงขานรับเซ็งแซ่เลยเหมือนกัน
นายกฯอภิสิทธิ์ เชียร์สุดตัว ถือเป็นเรื่องดีที่กลุ่มพันธมิตรฯจะตั้งพรรคการเมือง เพราะถือเป็นทางเลือกให้ประชาชน
แต่ก็ออกลูกชิ่ง ไม่ทราบว่า เหตุผลที่จะตั้งพรรคการเมืองเป็นเพราะผิดหวังจากพรรคประชาธิปัตย์ หรือเพราะเห็นว่า ตนเองขาดความกล้าหาญหรือไม่ แต่เห็นว่า อาจเข้าใจไม่ตรงกัน
“อภิสิทธิ์” ไม่หวั่น แม้พรรคพันธมิตรฯจะมาแย่งฐานเสียงเดียวกัน
แต่ที่เชียร์ลั่นเลย เสียงยินดีต้อนรับดังอื้ออึงมาจากเครือข่าย “ทักษิณ” ทั้งพรรคเพื่อไทย และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
เรียงหน้ากวักมือเรียกกันสลอน
ยุส่งให้ม็อบพันธมิตรฯตั้งพรรคการเมืองสู้กันในสนามเลือกตั้ง
เพราะนี่คือโอกาสดีที่จะลากเอาเหล่าศาสดาการเมืองใหม่ ลงมาคลุกฝุ่นบนโลกแห่งความเป็นจริง ไอ้ที่ขึ้นเวทีด่าคนอื่นปาวๆ เวลาโดนด่ามั่ง ทนได้แค่ไหน
ที่แน่ๆจะได้วัดกันไปเลย พันธมิตรฯที่ว่า แนวร่วมเต็มบ้านเต็มเมือง
เสียงดี มีคะแนนจริงหรือปลอม.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน