WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, March 5, 2009

ฉุนคดีพธม.ไม่คืบ แต่ออกหมายจับ"เสื้อแเดง" ระดมรับนายกฯ "สุเทพ"ขู่เล่น"ผู้ว่าฯ-บิ๊กตร."คุมม็อบไม่อยู่

ที่มา มติชนออนไลน์

ศาลออกหมายจับ 6 นปช.ทำร้ายทหาร แกนนำ นปช.ฉุนตำรวจ ซัดคดี พธม.กว่า 100 ไม่คืบ ระดมพลเสื้อแดงรับ "มาร์ค" ที่ลพบุรี ไม่หวั่นพื้นที่ทหาร "สุเทพ"ลั่นคอยดูกันอะไรจะเกิดขึ้น ขู่เล่นงาน "ผู้ว่าฯ-บิ๊ก ตร." คุมม็อบไม่อยู่ ผบ.ตร.สั่ง "ผบช.-ผู้การจังหวัด" ถ้าวุ่นต้องรับผิดชอบ

เสื้อแดงรับ"มาร์ค"ทัวร์ลพบุรี


นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เตรียมพร้อมระดมกลุ่มคนเสื้อแดงต้อนรับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่จะลงพื้นที่พบประชาชนในจังหวัด จ.ลพบุรี วันที่ 7 มีนาคม โดยให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 5 มีนาคมว่า คนเสื้อแดงเตรียมการต้อนรับนายอภิสิทธิ์อย่างเต็มที่ ทั้ง 5 จุดทั่วจังหวัด และระดมจากจังหวัดใกล้เคียง เช่น จ.สิงห์บุรี และพระนครศรีอยุธยา ไปร่วม ส่วนที่ จ.ลพบุรี เป็นพื้นที่ทหาร ก็ไม่ได้กังวลเพราะเสื้อแดงส่วนใหญ่เป็นนายทหารมีตำแหน่งสูง แม้ขณะนี้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะสั่งให้อารักขานายกฯอย่างเต็มที่ คงไม่ต้องห่วง เพราะไม่ได้มุ่งร้าย


นายจตุพร กล่าวอีกว่า ส่วนการสัญจรคนเสื้อแดง จะเริ่มที่ จ.ขอนแก่น วันที่ 8 มีนาคม ที่บริเวณศูนย์ราชการ ตั้งแต่เวลา 12.00-17.30 น. โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโฟนอิน เวลา 18.30 น. และมีความพยายามของผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ที่จะขัดขวางการชุมนุมครั้งนี้ โดยเงื่อนไขเดิม 4 ข้อที่คนเสื้อแดงยื่นให้รัฐบาลแต่ไม่ได้รับการตอบรับ ดังนั้น ต้องยกระดับชุมนุมเป็นการขับไล่รัฐบาลแทน


เย้ย "สุเทพ" หงอไม่โต้ "สนธิ"


"แม้นายกฯจะบอกว่าการดำเนินคดีกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกำลังดำเนินการอยู่ แต่ความเป็นจริงยังไม่มีการดำเนินการ ซึ่งตรงกันข้ามกับกรณีคนเสื้อแดงไปทำร้ายร่างกายทหาร แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กลับใช้เวลาออกหมายจับเพียง 7 วัน ผมอยากถามว่า ตร.ใช้ส้นตีนคิดหรือ ต้องการย่ำยีจิตใจคนเสื้อแดง ทั้งที่คดีของพันธมิตร 100 กว่าคดีไม่ดำเนินการอะไรเลย"


นายจตุพร กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีการตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตร แทนที่จะเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แบบแอบๆ ซ่อนๆ และที่ผ่านมานายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร ก็เคยลำเลิกว่านายสุเทพขึ้นวอได้เพราะพันธมิตร แต่นายสุเทพก็ไม่ตอบโต้อะไร ต่อจากนี้ตนจะขอเป็นผู้ชมที่ดียืนยันว่าคนเสื้อแดงจะไม่ตั้งพรรคการเมืองแต่จะปูระดับประชาธิปไตยไปเรื่อยๆ


ขณะที่นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การขับไล่นายกฯของคนเสื้อแดงไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ในฐานะ ส.ส.ในพื้นที่ก็ต้องลงพื้นที่ไปดูเหตุการณ์และคาดว่าไม่มีอะไรรุนแรง ยืนยันว่าเป็นเรื่องของภาคประชาชนไม่มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง


ปชป.ปัดหาเสียงคุยอยู่ครบเทอม


ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกลุ่มเสื้อแดงจะไปชุมนุมที่ จ.ลพบุรี ว่า ถ้าไปแสดงออกก็ไม่เป็นไร ตนไปทำงาน ไม่ไปทะเลาะเบาะแว้งกับใคร มีหน้าที่ทำงานให้กับประชาชน และเจ้าหน้าที่คงดูแลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนจำเป็นต้องพึ่งกำลังรักษาความปลอดภัยหรือไม่นั้น คิดว่าไม่มีอะไร ทางพื้นที่ทราบแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนกังวลจะเป็นการเพิ่มความขัดแย้งให้ในพื้นที่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ผมไม่เคยขัดแย้งกับใคร"


นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ไม่ได้เป็นการหาเสียงล่วงหน้า เพราะการเลือกตั้งไม่ได้เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ เนื่องจากรัฐบาลจะอยู่ครบเทอม การลงพื้นที่ทั่วประเทศครั้งนี้เป็นแนวคิดของนายกรัฐมนตรีต้องการให้รัฐมนตรีทุกคนไปสัมผัสปัญหาด้วยตัวเอง ไม่ได้เลือกปฏิบัติเหมือนสมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เลือกสัญจรบางจังหวัดที่เป็นฐานเสียงพรรคตัวเอง


แฉแผน 3 เกลอจ้องล้มรัฐบาล


นายเทพไทกล่าวว่า การที่มีแกนนำ นปช.โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 เกลอหัวกลม ปลุกระดมคนเสื้อแดงผ่านสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น ให้ต่อต้านการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีถึง 5 ทีม ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสมเป็นการแบ่งแยกประชาชน จึงไม่อยากให้เอาประชาชนมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อคนเพียงคนเดียว เชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะภูมิใจที่มีคนระดับเสนาบดีไปเยี่ยมเยียนพื้นที่ เหมือนสุภาษิตที่ว่า ช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง ความรุ่งเรืองจะบังเกิด


"การที่รัฐบาลส่งรัฐมนตรีลงพื้นที่พบประชาชนโดยตรงจะทำให้คนเหล่านี้กลัวจะเสียมวลชนที่จะสนับสนุนตนเองจึงจำเป็นต้องมี 1.ขบวนการปลุกระดมมวลชนต่อต้านรัฐบาล 2.การสร้างกระแสทักษิณผ่านกลุ่ม นปช.และคนเสื้อแดง และ 3.การประโคมข่าวเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทั้งหมดเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อล้มรัฐบาลอย่างเป็นกระบวนการ มีขั้นมีตอนแบ่งหน้าที่ทำกันเป็นระบบ แต่รัฐบาลไม่หวั่นไหว" นายเทพไทกล่าว


ด้านน พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ในฐานะรองโฆษก ปชป. กล่าวว่า ในที่ประชุม ส.ส.พรรคเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ย้ำให้ ส.ส.พรรคทุกคนลงพื้นที่ร่วมกับรัฐมนตรี เพื่อช่วยติดตามผลการดำเนินงานนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และการทำงานของส่วนราชการในพื้นที่ต่างๆ ด้วย เฉลี่ยแล้วรัฐมนตรี 1 คนจะรับผิดชอบ 2-3 จังหวัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ


สุเทพขู่ฟัน "ผู้ว่าฯ-ตร." คุมม็อบไม่ได้


ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมขับไล่นายกฯระหว่างลงพื้นที่ จ.ลพบุรี ว่า ไว้ค่อยดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น ส่วนพื้นที่ จ.เชียงใหม่และอุดรธานี คงไม่มีการเปิดทางให้รัฐมนตรีเดินทางไปอย่างสะดวก เพราะการชุมนุมประท้วงก็เป็นสิทธิ เพียงแต่ถ้าทำผิดกฎหมายผู้ว่าฯและผู้บังคับการตำรวจจังหวัดนั้นๆ ต้องดูแล ถ้าไม่ดูแล ตนก็จะดูแลคนเหล่านั้นต่อไป


ส่วนที่เคยระบุว่าผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ รู้เห็นกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องนี้ดำเนินการไปบ้างแล้ว และเห็นว่าผู้การบางจังหวัดที่หย่อนยานก็ย้ายไปทำงานประจำแล้ว ส่วนตัวผู้ว่าฯก็ต้องดูว่ากระทรวงมหาดไทยจะทำอย่างไรต่อไป ทั้งนี้ ไม่ใช่เชือดไก่ให้ลิงดู แต่คนที่กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชนต้องทำหน้าที่ หากไม่ทำหน้าที่ก็ต้องให้คนอื่นไปทำแทน


ปัดส่ง"ประวิตร"ไปเชียงใหม่ยั่วยุ


เมื่อถามว่า การให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งใกล้ชิดกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จะเป็นการยั่วยุเกิดเผชิญหน้าหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น ทั้งนี้ การลงพื้นที่ทุกจังหวัดรัฐมนตรีแต่ละคนจะเป็นคนเลือกเอง แม้บางพื้นที่จะเสี่ยงก็ต้องไปทำทั่วประเทศ พื้นที่ไหนส่อจะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ก็ต้องคุมกันให้ได้ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าต้องการไปกล่อมประชาชนให้ลืม พ.ต.ท.ทักษิณนั้น เป็นการกล่าวหาที่ไร้สาระ


ผบ.ตร.สั่ง "ผบก.-ผบช." คุมเข้ม


ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร ในฐานะโฆษก ตร. แถลงถึงการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีตามจังหวัดต่างๆ เริ่มตั้งแต่วันที่ 7-8 มีนาคม ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กำชับทุกหน่วยอีกครั้ง ให้วางแผน กำหนดมาตรการและแนวทางปฏิบัติหากเกิดเหตุวุ่นวายในพื้นที่โดยให้ระดับผู้บัญชาการภาค และผู้บังคับการจังหวัดที่รับผิดชอบดูแลและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งประสานกองบัญชาการตำรวจสันติบาลในด้านการข่าวติดตามประเมินสถานการณ์ พร้อมทำแผนเผชิญเหตุเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบ และรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีและคณะ ที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจโดยยึดตามแผนรักษาความสงบเรียบร้อยของ ตร.หรือ กรกฎ 48 พร้อมประสานกับหน่วยงานในพื้นที่ทั้งฝ่ายปกครอง และทหาร เพื่อขอความสนับสนุนในการเตรียมพร้อมเผชิญเหตุทุกด้าน และทำความเข้าใจกลุ่มบุคคลที่จะออกมาเคลื่อนไหวให้เป็นไปตามกรอบกฎหมาย


"ตร.ยังเตรียมกำลังสนับสนุนจากกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กองพลาธิการและสรรพาวุธ นครบาล ซึ่งเป็นหน่วยเฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาวุธและตรวจสอบวัตถุระเบิดเพื่อป้องกันเหตุรุนแรงเนื่องจากเคยมีสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน ขณะสันติบาลที่มีหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญ ก็ต้องเพิ่มความเอาใจใส่ในทุกจุด ตั้งแต่ที่พัก ที่ทำงาน ตลอดจนเส้นทางของคณะนายกรัฐมนตรี"


สกัดวุ่นวายไม่ได้ต้องรับผิดชอบ


พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวต่อว่า ผู้บัญชาการ และผู้บังคับการจังหวัดต้องดูแลพื้นที่สืบสวนหาข่าวและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด หากมีข่าวที่เกรงว่าจะเกิดความวุ่นวายหรือเกี่ยวกับรัฐมนตรีคนไหนก็ต้องแจ้งรัฐมนตรีเพื่อประกอบการพิจารณา และวางแผนการทำงาน ผู้การจังหวัดต้องติดตามความเคลื่อนไหวในพื้นที่โดยตลอด ก็จะรู้ว่ากลุ่มไหนจะเคลื่อนไหวบ้าง เมื่อรู้ก็ต้องประสานกับแกนนำ ต้องพยายามป้องกันเหตุวุ่นวาย หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ให้สงบได้ผู้การก็ต้องรับผิดชอบ แต่หากตำรวจมั่นใจว่าได้ทำตามหน้าที่กฎระเบียบของกฎหมาย ก็จะได้รับความคุ้มครอง แต่ถ้าทำไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินการทางวินัย


ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ยังไม่มีการร้องขอทหารให้ไปช่วยแต่อย่างใด คิดว่าไม่น่าจะเกินความสามารถตำรวจ


ดูข้อกม."ส.ส.พท."พบแม้วผิดหรือไม่


พล.ต.ท.วัชรพล ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร.ให้พิจารณาดำเนินคดีกับกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในความผิดฐานซ่อนเร้นหรือโดยช่วยเหลือจำเลย ด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 ว่า มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปดูว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายตามที่มีการร้องมาหรือไม่ เพราะเมื่อมีผู้ร้องมาตำรวจก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน


"เรื่องการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินคดีนั้น ข้อเท็จจริง พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้อยู่ในประเทศ ตำรวจไม่มีอำนาจใดตามกฎหมายในการเข้าไปสืบสวนจับกุม และ พ.ต.ท.ทักษิณไปหลายประเทศไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน ตำรวจเมื่อได้ข้อมูลอะไรมาก็ประสานข้อมูลกับสำนักงานอัยการสูงสุดและกระทรวงต่างประเทศ ใช้ พ.ร.บ.ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาดำเนินคดี" โฆษก ตร.กล่าว


ศาลอนุมัติจับ6นปช.ทำร้ายทหาร


วันเดียวกัน เวลา 10.00 น. ที่ห้องพิจารณา 807 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เข้าไต่สวนเพิ่มเติมกับศาล ภายหลังยื่นคำร้องขออนุมัติออกหมายจับกลุ่ม นปช.หรือเสื้อแดง 7 คน ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดและหน่วงเหนี่ยวกักขัง กรณีรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยนำส่งภาพถ่ายผู้ต้องสงสัยขณะก่อเหตุ ภาพถ่ายบาดแผลของผู้บาดเจ็บ ใบรับรองแพทย์ และเอกสารคำให้การของผู้บาดเจ็บเสนอต่อศาล


เวลา 14.00 น. ศาลจึงมีคำสั่งอนุมัติหมายจับเลขที่ 583-588 โดยพิจารณาแล้ว เห็นว่ามีพยานหลักฐานพอสมควรทำให้เชื่อได้ว่าผู้ต้องหา น่าจะได้ร่วมกันทำความผิดอาญาตามคำร้อง จึงมีคำสั่งออกหมายจับ 6 คน ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน ยังไม่ปรากฏหลักฐานพอสมควรให้เชื่อได้ว่าร่วมกระทำผิด สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับประกอบด้วย นางนฤมล หรือจ๋า วรุณรุ่งโรจน์ นายกิตติศักดิ์ จีนขจร นายยักษ์ (ไม่ทราบชื่อและสกุลจริง) และชายไทยตามภาพถ่ายอายุ 30, 37 และ 20 ปี


พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวว่า ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหารวม 6 คน ทราบชื่อและสกุลจริง 2 คน ทราบเฉพาะชื่อเล่น 1 คน และชายตามภาพถ่าย 3 คน ขณะนี้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) จัดชุดติดตามจับกุมแล้ว ซึ่งข้อหาดังกล่าวมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท เพราะฉะนั้นจะให้โอกาสติดต่อเข้ามอบตัว


พธม.โคราชใช้สนามกีฬาจัด7มี.ค.


ที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกลุ่มพันธมิตรโคราชกำหนดจัดคอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 5 ในวันที่ 7 มีนาคม โดยขอใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีนครราชสีมา (มทส.) เนื่องจากมีพื้นที่กว้างขวาง และดูแลรักษาปลอดภัยได้ทั่วถึง แต่ทางอธิการบดี มทส.ไม่อนุญาตต้องไปยืมพื้นที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 จัดแทน เนื่องจากทาง มทส.ยึดนโยบายให้เสรีภาพทางวิชาการโดยไม่ผูกติดกับการเมือง อีกทั้งมีลักษณะเป็นมหาวิทยาลัยอยู่ประจำ ไม่อนุญาตให้มีกิจกรรมขนาดใหญ่ระหว่างที่มีการเรียนการสอน และช่วงระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคม มีกำหนดการปรึกษาหารือทางวิชาการระหว่างสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีและสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา รวมทั้งไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลป้องกันความปลอดภัยบุคคลและทรัพย์สิน


เสื้อแดงพะเยาตามไล่รมต.สำนักฯ


ที่ จ.พะเยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเสื้อแดงจังหวัดพะเยาและเชียงราย รวมตัวประท้วงขับไล่นายวีระชัย วีรเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มาตรวจเยี่ยมปัญหาภัยแล้งและเปิดงานบวงสรวงพ่อขุนงำเมือง ที่จังหวัดพะเยา ตลอดทั้งวัน เริ่มจากรวมตัวแต่บริเวณสี่แยกแม่ต่ำ อ.เมือง กว่า 100 คน เคลื่อนไปบริเวณสี่แยกประตูเหล็ก เวลา 13.00 น. แต่ถูกตำรวจภูธร สภ.เมืองพะเยา และ ตชด.32 ประมาณ 50 นาย นำแผงเหล็กกั้นไม่ให้เคลื่อนไหวต่อไป ปรากฏว่าตลอดทั้งวันจึงไม่สามารถเข้าถึงคณะของนายวีระชัยได้ เนื่องจากตำรวจพาเดินทางลัดเลาะเลี่ยงกลุ่มเสื้อแดงตลอดเวลา ประกอบกับผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่ จ.พะเยา จึงไม่ทราบเส้นทางชัดเจน ทำให้ต่างฝ่ายสวนทางกัน จนกระทั่งเวลา 16.00 น. กลุ่มเสื้อแดงจึงสลายตัว


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จ.เชียงราย ที่ร่วมมาประท้วงครั้งนี้ ได้ฝ่าฝืนเข้าไปรวมพลังบริเวณริมกว๊านพะเยา ทำให้ตำรวจ สภ.เมืองพะเยาเขียนใบสั่งและตั้งข้อหาผู้ขับขี่รถของกลุ่มเสื้อแดงที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญาณจราจร สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างมาก พากันไปชุมนุมที่หน้า สภ.เมืองพะเยา จนกลุ่มสื้อแดงในพื้นที่ต้องเจรจากับตำรวจเพื่อขอใบขับขี่คืนและยอมเสียค่าปรับ 400 บาท ก่อนจะแยกย้ายไปขับไล่นายวีรชัยต่อ


"สุเทพ"ยันไร้ใบสั่งเด้งผู้ว่าฯเชียงราย


วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธไม่ทราบสาเหตุการโยกย้าย นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้มาช่วยราชการประจำกระทรวงมหาดไทย (มท.) เกี่ยวกับเรื่องคุมกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ว่า ต้องไปถามกระทรวงมหาดไทย แม้ดูแลกระทรวงมหาดไทยก็จริง แต่ไม่มีสิทธิไปยุ่งเกี่ยวกับการแต่งตั้งข้าราชการ ส่วนจะเป็นเพราะนายไตรสิทธิ์ได้รับการสนับสนุนจากนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนหรือไม่นั้น นายสุเทพกล่าวว่า "คงต้องไปถามคนออกคำสั่ง เพราะทั้งรัฐมนตรี และปลัดกระทรวงยังไม่เคยมาปรึกษา และไม่มีใบสั่งจากการเมือง"


ปลัดมท.เผยเหตุย้ายถูกร้องเรียน


นายวิชัย ศรีขวัญ รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการย้ายนายไตรสิทธิ์ ว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง หรือความขัดแย้งในพื้นที่ อีกทั้งฝ่ายการเมืองก็ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นการร้องเรียนเรื่องการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น ซึ่งก่อนที่จะมีคำสั่ง ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว ส่วนการตรวจสอบข้อเท็จจริงคาดว่าจะใช้เวลา 2 สัปดาห์


นายมณเฑียร ทองนิตย์ รองผู้ว่าฯเชียงราย ซึ่งรักษาราชการแทน กล่าวว่า ส่วนตัวทราบเรื่องร้องเรียนมาบ้างแล้ว เป็นการออกใบปลิวโจมตี 2-3 ฉบับ แต่ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร เท่าที่ทำงานกับนายไตรสิทธิ์ที่ผ่านมา เป็นคนตั้งใจทำงาน จะเกษียณอายุราชการตุลาคมนี้แล้ว แต่ลักษณะการทำงานอาจจะไม่ถูกใจบางคนเป็นเรื่องธรรมดา ยืนยันไม่ลำบากใจที่ต้องรักษาราชการแทน เพราะอีกไม่นานน่าจะมีการแต่งตั้งใหม่


ผู้ว่าฯมึนไม่ยังไม่รู้สาเหตุเข้ากรุ


ขณะที่นายไตรสิทธิ์กล่าวว่า เมื่อเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ตนก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง เพราะเป็นข้าราชการระดับ 10 ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นข้าราชการระดับ 11 ก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบวินัย ส่วนเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ นายไตรสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่ตนเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ขอพาดพิงใคร พร้อมที่จะทำตามหน้าที่ทุกอย่าง ส่วนคำสั่งย้ายไม่ทราบสาเหตุเกิดจากอะไร


เมื่อถามว่า เป็นเพราะสนิทสนมกับนายยงยุทธ ติยะไพรัช หรือไม่ นายไตรสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบ รู้แต่ว่าได้มาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดที่นี่ ซึ่งเป็นจังหวัดภูมิลำเนาของตนเอง เพราะการได้รับการโปรดเกล้าฯมา ที่ผ่านมาทำงานให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ และสุจริต