WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, March 3, 2009

"โลเล"ตัวแม่

ที่มา ข่าวสด

เหล็กใน




หลังคำสั่งศาลปกครองไม่คุ้มครองชั่วคราว นักเรียนชั้น ม.6 จำนวนหนึ่งที่ยื่นฟ้องขอสิทธิ์เข้าสอบ "เอเน็ต"

นักเรียนกลุ่มนี้จึงจำต้องหาหนทางเพื่อเรียนต่อระดับอุดมศึกษาเอาเอง

แม้การสอบเอเน็ตจะไม่ใช่เพียงหนทางเดียวที่จะเข้ามหา วิทยาลัย แต่มันก็เป็นหนทางที่สะดวกที่สุด

เพราะหากหนทางอื่นๆ ทำได้ง่ายๆ ภาครัฐคงไม่จำเป็นต้องจัดสอบ เอเน็ตขึ้นมา

คำสั่งของศาลปกครองนั้นคงต้องละไว้

แต่สิ่งที่ต้องตำหนิคือผู้ใหญ่ในภาครัฐที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการศึกษาของเด็กๆ โดยเฉพาะคนต้นคิดเรื่องสอบพิสดารพันลึก และเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาราวกับเป็นของเล่น

เริ่มตั้งแต่สอบโอเน็ต เอเน็ต ใช้คะแนนจีพีเอ จีแพ็ก ฯลฯ

ปีแรกให้ใช้สัดส่วนเท่านั้น เท่านั้น

ปีต่อมาก็ปรับเปลี่ยนเกณฑ์อีก

สักพักนึกสนุกก็ยกเลิกคะแนนส่วนนั้น ส่วนนี้

และนี่ปีหน้าก็จะเปลี่ยนรูปแบบการสอบใหม่อีกแล้ว

หากไม่ใช่คนที่ว่างจัด ก็ต้องเป็นพวก "โลเล" ตัวแม่เลยเชียว

ถามจริงๆ เถอะ ไม่ได้คิดล่วงหน้าหรือไง ว่าควรจะใช้ระบบการสอบแบบไหนเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คิดถึงข้อดี ข้อเสียให้รอบด้าน

แล้วค่อยประกาศใช้อย่างเป็นทางการ

ถ้าแค่นี้ยังไม่มีปัญญาคิด ก็ขอย้ายไปทำหน้าที่อื่นดีกว่า

และพูดก็พูดเถอะตั้งแต่ปรับเปลี่ยนวิธีการสอบเข้าจากระบบ "เอ็น ทรานซ์" มาเป็นแบบใหม่ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เกิดปัญหาขึ้นได้ทุกปีเช่นกัน

ขณะระบบเอ็นทรานซ์แบบเก่าที่ใช้ต่อเนื่องกันมานานหลายสิบปี แทบไม่เคยเกิดปัญหาร้องเรียนเลยด้วยซ้ำ

ที่อ้างเรื่องแก้ปัญหาโรงเรียนกวดวิชา และต้องการให้นักเรียนตั้งใจเรียนในห้อง ถามจริงๆ เถอะ เคยประเมินผลที่ได้จากการสอบแบบใหม่นี้หรือไม่

เพราะนักเรียนยังไปเรียนกวดวิชาเหมือนเดิม แถมมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

ที่น่าแปลกพวกต้นคิดวิธีการสอบแบบใหม่ ที่ออกมาอ้างว่าจะทำให้ได้เด็กที่มีความสามารถมากขึ้น แต่ผลกลับเป็นว่ามีเด็กถูกรีไทร์ออกจากมหาวิทยาลัยมากกว่าเก่า!!!

ล่าสุดคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ออกมาระบุว่านิสิตที่เข้ามาเรียนตามเกณฑ์การสอบแบบใหม่ ถูกรีไทร์ ลาออก หรือขอพักการเรียนเกือบครึ่ง เนื่องจากเรียนไม่ไหว

ทำให้หลายมหาวิทยาลัยเริ่มไม่เชื่อความสามารถของเด็กที่ผ่านเกณฑ์การสอบแบบนี้เข้ามาเรียนต่อ

แม้ไม่พูดออกมาตรงๆ แต่มหาวิทยาลัยก็ใช้วิธีเพิ่มสัดส่วนการรับตรงมากขึ้น ซึ่งวิธีการคัดเลือกก็ใช้การสอบรูปแบบเดียวกับการเอ็นทรานซ์ในอดีตนั่นเอง

ถึงเวลาทบทวนกระบวนการสอบเข้าระดับอุดมศึกษาได้หรือยัง

หรือถ้าไม่ทบทวนก็ช่วยหาคนที่ "โลเล" น้อยกว่านี้มารับผิดชอบจะดีกว่าไหม!??