น่าจะเป็นเรื่องที่ดีในท่ามกลางกระแสเรียกร้องที่ว่านักวิชาการหายไปไหน ทำไมไม่ออกมาช่วยชี้แนะ หรือหาทางออกให้กับบ้านเมืองที่กำลังประสบปัญหาการเมือง เศรษฐกิจและสังคมในขณะนี้ เห็นมีแต่พวกนักวิชาเกินกระโดดเข้าไปร่วมฝ่ายร่วมสีจนไม่สามารถรักษาสถานะเอาไว้ได้
ครับ...กำลังพูดถึงกลุ่ม “รักษ์เมืองไทย” ที่ประกาศตัวว่าเป็น “นักคิดอิสระ” ที่รวบรวมบรรดานักวิชาการและนักการเมืองบางส่วนระดับ “ด็อกเตอร์” 8 คน ซึ่งตั้งปณิธานว่าจะช่วยกันระดมสมองเพื่อหาทางออก และเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาของประเทศคู่ขนานไปกับการบริหารของรัฐบาล
โดยเน้นไปที่ปัญหาเศรษฐกิจเป็นด้านหนัก และก็คงจะมีปัญหาการเมืองที่ไม่สามารถแยกส่วนกันได้ เพื่อนำเสนอ
ต่อสังคม ทั้งรัฐบาลฝ่ายค้าน ภาคธุรกิจทั้งของรัฐและเอกชน ประชาชน
ซึ่งจริงๆแล้วน่าจะเกี่ยวโยงกับรัฐบาลโดยตรง เพราะมีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาเช่นกัน ฝ่ายค้านก็น่าจะได้ประโยชน์ จากข้อมูล หากเห็นว่ารัฐบาลแก้ไขอย่างผิดทิศผิดทางก็สามารถนำข้อมูล หรือข้อเสนอแนะที่ดีกว่าเพื่อผลักดันให้รัฐบาลแก้ไข
ภาคธุรกิจโดยเฉพาะเอกชนก็เช่นกัน หากไม่คิดในแง่ประโยชน์ถ่ายเดียว แต่คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม เพื่อความอยู่รอดทั้งระบบก็จะได้ประโยชน์ และเป็นทางออกที่ทุกฝ่ายจะได้รับ
กลุ่ม “รักษ์เมืองไทย” นั้นประกอบไปด้วย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าฯแบงก์ชาติ และอดีตรัฐมนตรีคลังในรัฐบาล คมช.เป็นหัวหน้าทีม ที่ผ่านมาก็ได้แสดงความเห็นด้านเศรษฐกิจมาโดยตลอด คือมีทั้งเห็นด้วยกับรัฐบาล หรือค้านแนวคิด
แต่ดูเหมือนว่าน้ำหนัก และการยอมรับยังมีน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
นอกจากนั้น ก็มี ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ นักวิชาการผู้นำเสนอทฤษฎี 2 นคราประชาธิปไตยว่าด้วยการเมืองในลักษณะที่เรียกว่า สังคมเมืองกับชนบท คนต่างจังหวัดตั้งรัฐบาล แต่คนเมืองล้มรัฐบาล ผ่านสนามการเมืองมาด้วยความผิดหวังท้อแท้
ดร.ประวิช รัตนเพียร ความจริงน่าจะเรียกว่าเป็นนักการเมืองมากกว่านักวิชาการ สังกัดพรรคการเมืองมาหลายพรรค แต่ก็ไม่สามารถยืนอยู่ได้อย่างองอาจ จนกระทั่งดูเหมือนจะรามือไปแล้ว และเคยเป็นผู้แทนการค้าไทยด้วย
ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีนิด้า ที่ผ่านเส้นทางการเมืองมาตั้งแต่ 14 ตุลาฯ แสดงความเห็นทางการเมืองที่แหลมคมมาตลอด โดยเฉพาะในยุคแยกสีแบ่งค่าย
ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เป็นนักการเมืองเต็มตัว ระดับที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยให้ความเอ็นดูเป็นพิเศษ เพราะโชว์ฝีมือในฐานะรัฐมนตรีการท่องเที่ยวฯ ล่าสุดยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานบอร์ดการท่องเที่ยว ท่ามกลางความฉงนว่าเมื่อถูกเว้นวรรคการเมือง 5 ปี แต่เหตุไฉนจึงดำรงตำแหน่งนี้ได้
ดร.สุวิทย์ เมษิณทรีย์ อยู่ในทีมของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ถูกเว้นวรรคการเมือง มีฝีมือในด้านเศรษฐกิจที่ไม่ธรรมดา ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีพาณิชย์ นางพรทิวา นาคาศัย นัยว่าความสัมพันธ์ของ ดร.สมคิดกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งอยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทย
จึงต้องเข้ามาทำหน้าที่สำคัญเพื่อเป็น “พี่เลี้ยง” ให้รัฐมนตรีมือใหม่หัดขับ
ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุภาพ หลานเขยอดีตนายกฯ ชาติชาย ชุณหะวัณ ผู้ล่วงลับไปแล้ว เคยเป็นแค่ระดับเลขาฯ หรือที่ปรึกษา แต่ยังไม่สามารถก้าวไปถึงเก้าอี้รัฐมนตรีได้ เคยเป็นผู้แทนการค้า และปัจจุบันยังเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ดร.กนก วงศ์ตระหง่าน นักวิชาการด้านการตลาด และเคยเป็นผู้บริหาร
คนสำคัญของห้างใหญ่มาแล้ว ล่าสุดเป็นที่ปรึกษานายกฯ และสังกัดค่ายประชาธิปัตย์
เรียกว่ากลุ่ม “รักษ์เมืองไทย” ได้ระดับด็อกเตอร์ที่มีความเกี่ยวพันกับรัฐบาล ฝ่ายค้านและไม่สังกัดการเมือง ก็หวังว่าน่าจะช่วยกันคิด หาทางออกด้วยข้อมูล และแนวทางเพื่อชาติบ้านเมืองด้วยจิตบริสุทธิ์
อย่าปล่อยให้บ้านเมืองขึ้นอยู่กับคนเพียงไม่กี่คน.
“สายล่อฟ้า”