วันนี้ (5 มี.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย แถลงผลประชุมคณะทำงาน เตรียมการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า คณะทำงานฯ ได้ข้อสรุปให้ นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย เป็นหัวหน้าคณะยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีต่อประธานวุฒิสภาในวันที่ 10 มีนาคม จากนั้นในวันที่ 11 มีนาคม นายพีรพันธุ์ พร้อมคณะจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีต่อประธานสภาผู้แทนราษฏร ส่วนแนวทางการยื่นอภิปรายคณะทำงานมีความเห็นให้ยื่นอภิปรายรัฐมนตรีน้อยคน และอภิปรายไม่มาก แต่ให้กระชับชัดเจน ทำให้ประชาชนทราบว่า นายกรัฐมนตรีทำอะไร และรัฐมนตรีคนใด ไม่ควรดำรงตำแหน่งหน้าที่
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ในส่วนของญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี จะระบุไว้อย่างชัดเจนว่า นายกรัฐมนตรี มีการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ กฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ประมวลกฏหมายอาญา และขาดคุณธรรมและจริยธรรมอย่างไร ยืนยันว่า ประเด็นที่จะอภิปรายเป็นประเด็นใหม่ ไม่ใช่ประเด็นเก่าเก็บ เป็นเรื่องทันสมัยมีความเชื่อมโยงชัดเจนทุกประเด็น สามารถอธิบายที่มาที่ไปได้ และขอยืนยันว่า ประเด็นสำคัญที่จะใช้อภิปรายนายกรัฐมนตรี มีตนทราบอยู่เพียงผู้เดียวไม่มีคนอื่นรู้ จึงไม่เข้าใจที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ระบุว่า ประเด็นที่ตนจะอภิปรายเป็นเรื่องเก่านั้น เอาข้อมูลมาจากที่ใด
“ถ้าฟังอภิปรายแล้วพรรคเห็นว่าอภิปรายไม่ได้เรื่อง ผมพร้อมจะลาออกจากตำแหน่งประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ถ้าบอกว่าไม่ดีผมลาออกเลย แต่ตอนนี้ผมทุกข์ใจเกรงว่า จะไม่ได้ลาออก” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
เมื่อถามว่า คณะทำงานสรุปชัดเจนหรือยังว่าจะอภิปรายรัฐมนตรีคนใดบ้าง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ในวันที่ 9 มีนาคม จะสรุปความชัดเจนครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ตาม แนวทางการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรคไม่จำเป็นต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงอย่างเดียว หากมีข้อมูลพร้อมอาจยื่นอภิปราย หรือใช้วิธีร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือยื่นถอดถอนก็ได้
เมื่อถามว่า ก่อนการอภิปรายฯ จะต้องหารือเพื่อทำความเข้าใจกับ นายเสนาะ ก่อนหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คงไม่ต้อง เป็นหน้าที่ของนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้านที่จะต้องไปพูดคุย ส่วนตัวไม่มีอะไรติดใจนายเสนาะ และขอร้องสื่อมวลชนอย่าถามถึงนายเสนาะอีก เพราะนายเสนาะเป็นผู้ใหญ่ ต้องให้ความเคารพ เมื่อนายเสนาะแสดงความคิดเห็นจะต้องฟัง ส่วนการอภิปรายครั้งนี้ ก็ต้องฟังความเห็นของพรรคเพื่อไทย