ที่มา Thai E-News
พรุ่งนี้รู้ผล-สำหรับเมืองไทยจริงไหมที่ว่า ไม่มีเส้น,ไม่มีความยุติธรรม-และเมื่อไม่ยุติธรรมก็ไม่มีสันติ(NO JUSTICE,NO PEACE!)
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
4 มีนาคม 2552
*ม็อบมีเส้น-สนธิ ลิ้มทองกุล*
เหตุ-ปากพล่อยพูดหมิ่นให้ในหลวงลาออก
ผล-อัยการไม่ฟ้อง อ้างเพื่อเห็นแก่ความสมานฉันท์
เหตุ-ตำรวจดำเนินคดีในกรณีนำคำพูดของผู้ถูกกล่าวหาหมิ่นฯไปพูดเผยแพร่บนเวทีและออกอากาศASTV
ผล-ยกพวกม็อบพันธมิตรบุกไปบชน.กดดันจนได้รับการประกันตัว โดยมีข่าวว่ามี"เส้นใหญ่"หนุนหลังกดดันตำรวจอีกทาง
เหตุ-เป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้ายยึดสนามบิน-ยึดทำเนียบรัฐบาล ทำลายภาพลักษณ์และเศรษฐกิจประเทศ
ผล-ยังลอยนวล ตำรวจแค่เริ่มดำเนินคดีบุกล้อมสภา คาดมะรืนนี้(6มี.ค.)มอบตัวแล้วได้ประกัน
*ม็อบไม่มีเส้น-จักรภพ เพ็ญแข*
เหตุ-นำนปช.เดินขบวนไปเรียกร้องให้พล.อ.เปรมลาออกที่หน้าบ้านสี่เสาฯเมื่อ22ก.ค.50
ผล-ถูกสลายการชุมนุมรุนแรง ถูกจับไปขังคุกร่วมกับแกนนำนปช.หลายคน
เหตุ-ไปพูดกับนักข่าวต่างประเทศเรื่องการเมือง ไม่มีตอนไหนที่ดูหมิ่น,หมิ่นประมาทกษัตริย์,พระราชินี,รัชทายาทตามกฎหมายหมิ่น
ผล-ถูกดำเนินคดีหมิ่นฯ วันพรุ่งนี้(5มี.ค.)อัยการนัดสั่งคดีเวลา08.30น.ขอเชิญชาวเสื้อแดงตามไปให้กำลังใจล้นสำนักงานอัยการสูงสุด รัชดาฯ เพื่อพิสูจน์ว่า จริงหรือไม่ที่ใครๆก็ว่าผลจากม็อบหน้าทำเนียบล่าสุด และคำปราศรัยของจักรภพเมื่อ26ก.พ.ที่ผ่านมา จะทำให้จักรภพไม่รอดแน่ๆ
หมายเหตุ:นักสังเกตการณ์ทางการเมืองตั้งข้อสังเกตว่า คดีของเขา จะรู้ว่าสั่งฟ้องหรือไม่ ในวันที่ 5 มีนาคมนี้ เมื่อเห็นคำอภิปรายของเขาแล้ว ผมกังวลใจว่า อาจจะไม่รอด และหากเป็นเช่นนั้น จักรภพจะหนีหรือไม่? (อ่านรายละเอียดคำปราศรัยของจักรภพ คลิ้กที่นี่ )
(บางส่วนของคำปราศรัย)
มวลชนคนเสื้อแดงจะแพร่เชื้อตาสว่างทั้งแผ่นดิน
นานพอแล้วครับ พี่น้องประชาชนก็เป็นสักขีพยาน ว่าหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปีพุทธศักราช 2475 ก็มีความพยายามบ่อนทำลายสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนมาตลอดเวลานั้น จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่หยุดทำลาย ก็ประกาศเสียวันนี้เลยก็แล้วกัน ว่าการชุมนุมคนเสื้อแดงและการจัดตั้งกองกำลังคนเสื้อแดงจากนี้เป็นต้นไป คือการต่อยอดอภิวัฒน์สยาม 2475
รู้ล่ะครับว่าเริ่มหักหลังประชาชนครั้งแรกๆ หลังจากนั้น เช่นการรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2490 เรารู้ล่ะครับว่าการรัฐประหารในปี 2500 โดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เกิดขึ้นด้วยจุดประสงค์ใด เรารู้ล่ะครับว่า 14 ตุลาคม 2516 นั้น ประชาชนอุตสาห์ได้รับชัยชนะ แต่กลับมีคนมายืนจ้องด้านหลัง แล้วคว้าชัยชนะไปจากประชาชนจนเกิด 6 ตุลาคม 19 แล้วเราก็รู้ล่ะครับว่าเหตุการณ์พฤษภาประชาธรรมนั้น ก็มีประชาชนนี่แหละที่เป็นหน่วยกองหน้าออกไปต่อสู้จนได้รับชัยชนะจากเผด็จการทรราชในยุคนั้น ขณะเดียวกันก็ไม่คิดถึงบุญคุณประชาชนกลับมาปล้นชิงประชาธิปไตยไปอีกในวันที่ 19 กันยายน 2549 เดี๋ยวนี้คนเขารู้กันทั้งประเทศแล้ว เขาต่อภาพชิ้นส่วนเป็น เขาต่อภาพได้
เพราะมนต์คาถาที่เคยขลังมันเสื่อมมาตั้งแต่ 19 กันยายน 49 แล้ว คนบางคนเราช่วยเขาได้สารพัดนะครับพี่น้อง แต่ช่วยเขาไม่ได้อย่างเดียวคือช่วยไม่ได้จากความมีอวิชชาของตัวเขาเอง ช่วยไม่ได้จริงๆ ผมคิดว่าเป็นเรื่องของกฎแห่งกรรม ซึ่งได้ไปก่อกรรมทำเข็ญเอาไว้นาน เอาไว้หนัก เอาไว้หนา จนในที่สุดนั้นก็กลายเป็นสิ่งที่พอกพูนอยู่บนไหล่อยู่บนบ่าของตัวเอง และถ้าไม่มองคนเสื้อแดงอย่างให้เกียรติให้ศักดิ์ศรี คนเสื้อแดงจะแสดงพลังให้เห็นทั่วประเทศและน้ำหนักบนบ่าอันนั้นมันจะทำให้ขาหักลงเองครับพี่น้อง
และอย่าหวังว่าเมื่อประชาชนแสดงพลังอย่างนี้ และจะมาเปิดเจรจาในเรื่องกระจอกกระจิบเพื่อคดีคนนั้น เพื่อคดีคนนี้ ผมขอบอกได้เลยครับว่า พูดแทนตัวเองได้ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่จะฟังผลวินิจฉัยในวันที่ 5 มีนาคม เสื้อแดงแลกกับอะไรแบบนั้นไม่ได้
ถ้าจะมีการเจรจา จะต้องย้อนกลับไปหาเรื่องที่ใหญ่ที่สุด นั่นก็คือรัฐธรรมนูญของประชาชน เอาคืนมา และเอาคืนมาพร้อมเงื่อนไขที่ว่าทั้งฉบับต้องแก้ไขได้ทั้งหมด ไม่เว้นหมวดใดทั้งสิ้น นั่นแหละครับ พูดกันให้ชัด