ที่มา บางกอกทูเดย์
ในระบอบประชาธิปไตยนั้น...วาจาถือว่าเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดที่จะนำมนุษย์ขึ้นมาสู่อำนาจ..ไม่ว่า..อับบราฮัมลิงคอนล์...จอห์นเอฟ เคเนดี้..บิล คลินตัน..หรือ โอบามาชวน หลีกภัย หรือ ทักษิณ ชินวัตรเพราะ..ประชาธิปไตย คือการพูดให้คนส่วนใหญ่เชื่อว่า...ผู้พูดจะทำให้ผู้ฟัง มีความสุขและสมหวังในสิ่งที่ยังขาดแคลนและเป็นความเดือดร้อนวาจาจึงมีความสำคัญยิ่งนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ..ผู้ทำหน้าที่สรุปการอภิปรายไม่ว่าจะโต้ตอบกับพรรคฝ่ายค้านหรือเป็นฝ่ายค้านนับได้ว่าเป็นผู้มีวาจาเป็นเอกผู้หนึ่งภาษาที่สะสวย..เสียงที่ชัดเจนต่อเนื่องและฟังได้ง่าย...การลำเลียงข้อความที่ไหลลื่นจากต้นจนจบ..เขาจึงเป็นกระบี่อันดับ 1 ของพรรคที่มากมายไปด้วยขุนพลนักพูดอย่างพรรคประชาธิปัตย์วาจาทำให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ...เดินข้ามผู้อาวุโสของพรรค คนแล้วคนเล่าจนขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค..และจากหัวหน้าพรรค สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี..แห่ง ประเทศไทยเหมือนเดินขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของยอดเขา...สิ่งที่เหลืออยู่ข้างหน้าคือทางลง...แต่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นไม่ใช่...ผู้สามารถจำนวนมาก..ใช้เวลาอยู่บนนั้นได้เท่าที่เขาต้องการหรือ กฎหมายอนุญาติ...เพียงเพราะคนยังเชื่อในสิ่งที่เขาพูดและได้รับในสิ่งที่เขาทำแต่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ...คนที่น่าจะใช่...กลับไม่ใช่..เขาทำตัวเขาซึ่งไม่มีปัญหา..เข้ามาเดือดร้อนอย่างยิ่ง เขาสร้างปัญหาขึ้นมาและหาทางออกไม่ได้..แทนที่จะบอกกล่าวความจริงกับประชาชน...เขาทำตรงกันข้าม..เขาพูดในสิ่งที่ประชาชนและคนที่เกี่ยวข้องทั้งหลายรู้ว่าเขาโกหกเขาพูดแทน..พล.ต.อ. พัชรวาท..วงษ์สุวรรณ..ในสิ่งที่คนที่ถูกพูดถึงจะต้องปฏิเสธ...เขาพูดแม้แต่ในเรื่องที่เขาเองก็รู้ว่าไม่จริง..อย่างเรื่องใบลาออกของ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ไม่มีอะไรจะทำร้ายทำลายนักการเมืองหรือผู้นำประชาชนได้แน่นอนเท่ากับ...การพูดเท็จ...เมื่อพล.ต.จำลอง ศรีเมือง..ผู้ซึ่งประกาศว่า..จะอดข้าวจนตาย..หันกลับไปกินอาหาร...อวสานของท่านก็มาถึงเรื่องง่ายๆ อย่างการแต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ..ท่านยังไม่สามารถ....แล้วปัญหาของชาติท่านจะเอาปัญญามาจากไหน..รักพรรค รักชาติ รักประชาชน..ลาออกไปเถอะครับ