ที่มา ไทยรัฐ
การเมืองไทยวันนี้ต้องจับตาให้ดีห้ามกะพริบตา เพราะ ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จะเขย่าอุณหภูมิการเมืองให้ร้อนไปอีกขั้นหนึ่ง นั่นหมายถึง ความเปลี่ยนแปลงของวิกฤติการเมืองที่ทำให้บ้านเมืองเดินสู่หนทางหายนะมาอย่างต่อเนื่อง
ที่ร้อนแรงเห็นจะเป็นขั้วการเมืองของ คุณเนวิน ชิดชอบ การที่คุณเนวินหลุดบ่วงกรรมได้ฉลุยขนาดนี้ย่อมไม่ธรรมดา ในขณะที่เพื่อนร่วมรบคนอื่นใกล้จะจมน้ำเต็มที ดังนั้น การก้าวย่าง ทางการเมืองของคุณเนวินต่อไปนี้ต้องจับตา
ที่คุณเนวินเดินเกมจับมือกับพรรคชาติไทยพัฒนาของหลงจู๊ บรรหาร ศิลปอาชา ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ในสายตามังกรอย่างคุณบรรหารย่อมจะมองอะไรออก โดยเฉพาะอนาคตทางการเมือง มี คุณสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล มือขวาคุณบรรหารที่คอยสานสัมพันธ์กับคุณเนวิน มี คุณวราวุธ ศิลปอาชา ลูกท็อป ที่สายตรง กับ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ตลอดเวลา
เหล่านี้เป็นสัญญาณว่าในอนาคตถึงจะไม่ถึงขั้นต้องยุบพรรครวมกัน แต่ก็จะเป็นพรรคคู่แฝด ที่สามารถชี้เป็นชี้ตายทางการเมืองได้ต่อไป
ปรากฏการณ์ความพยายามของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเชื่อมสายตรงกับพรรคเล็กอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อแผ่นดินของ คุณชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หรือพรรคกิจสังคมของ คุณสุวิทย์ คุณกิตติ หรือพรรค รวมใจไทยชาติพัฒนาของ คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ก็ยังหลวมเกินไป
โดยเฉพาะอาการถอดใจของเลขาธิการพรรค คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ด้วยแล้ว โอกาสที่พรรคประชาธิปัตย์จะหาแนวร่วมก็ยิ่งยากมากขึ้น
เวลาเดียวกันพรรคประชาธิปัตย์ ต้องเปิดศึกถาวรกับเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทย เป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่ขวางคอพรรคประชาธิปัตย์ ไปตลอดกาล
ดีไม่ดีวันหนึ่งกระดูกชิ้นที่ว่าเกิดทำให้เกิดอาการคออักเสบขึ้นมา ก็ยิ่งจะทำให้ภูมิคุ้มกันพรรคประชาธิปัตย์น้อยลง ภายใต้การนำของหัวหน้าพรรคที่ชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หากยังยึดทิฐิต่อไปอย่างนี้เรื่อยๆอาจพัง
และถ้ามีการแก้รัฐธรรมนูญเป็น แบบเขตเดียวเบอร์เดียว ได้สำเร็จเมื่อไหร่ ประเมินกันว่าประชาธิปัตย์น่าจะได้กลับมาไม่ถึง 120 เสียง
ดูไปแล้วประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลกำลังเพลี่ยงพล้ำทั้งขึ้นทั้งล่อง นี่ยังไม่นับการรอวันกลับบ้านของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ภายใต้การถือธงของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ยังไม่รวมการก้าวเข้ามาเป็นคู่แข่งทางการเมืองของพรรคพันธมิตร
การเมืองไทยกำลังจะถึงจุดเดือดอีกกระทอก.
หมัดเหล็ก