ที่มา ไทยรัฐ
เจ้าหน้าที่รู้ตัวเจ้าของรถคาร์บอมบ์ เป็นหนุ่มปัตตานี เร่งควานหาตัวเพื่อขยายผล ขณะกล้องวงจรปิดเจ๊ง 5-6 ตัวเนื่องจากโดนฟ้าผ่า ส่วนเหยื่อระเบิด ตายเพิ่ม 1 ราย ...
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ หน้าร้านขายเครื่องสำอางนพรัตน์ ถนนเจริญเขต ตรงข้ามโรงแรมเมอลิน เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส วานนี้ ล่าสุด เมื่อเวลา 00.15 น.วันนี้ (7 ต.ค.) ร.ต.ท.วิรกิจ แก้วนวลจริง ร้อยเวร สภ.เมืองยะลา รับแจ้งมีผู้ป่วยจากเหตุระเบิดเข้ารับการรักษาและได้เสียชีวิตที่หอผู้ป่วยหนัก รพ.ศูนย์ยะลา จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ประวิทย์ เขียวไสว พงส.(สบ.3)รักษาการ รอง ผกก.สส.เจ้าหน้าที่พิมพ์มือรุดไปสอบสวน พบผู้เสียชีวิต ชื่อ นางโนรุ่งชนะ แวนาแว อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/19 ซอย 9 ถนนทรายทอง เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เสียชีวิตอยู่บนเตียงในห้องไอซียู
นายแพทย์คทารัตน์ บุญนิธิพันธุ์ แพทย์เวรแจ้งว่าผู้ป่วยเสียโลหิตมาก ทำให้ความดันโลหิตลดจนเกิดอาการช็อก เบื้องต้น ทราบว่านางโนรุ่งชนะ แวนาแว เป็น 1 ในจำนวน 27 ราย ที่เป็นเหยื่อระเบิดคาร์บอมบ์หน้าโรงแรมเมอร์ลินสุไหงโก-ลก เมื่อตอนบ่ายวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา ถูกนำส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก แพทย์เยียวยาเบื้องต้นแล้วรีบส่งต่อไปยัง รพ.ศูนย์ยะลา กระทั่งเสียชีวิตดังกล่าว หลังชันสูตรได้มอบศพให้ญาตินำกลับไปจัดการตามประเพณีต่อไป
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบและเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส พบว่า รถยนต์ที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะ บรรทุกระเบิดแสวงเครื่อง ที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊ส หนัก 50 กิโลกรัม และจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารแบบมือถือนั้น เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าซิตี้ สีบรอนส์ ทะเบียน กค-1204 ยะลา เลขเครื่องยนต์ 3A 26612-07972 เลขตัวรถ MRH3A2660T-A 07972 นั้น ผู้ถือกรรมสิทธิ์ คือ บริษัท จี.อี.แคปปิตอล ออโต้ลีส ส่วนผู้ครองครองคือ นายอับดุลการิม เจะมะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/2 หมู่ 4 ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งขณะนี้ พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อมูลที่บริษัทดังกล่าว รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ไปติดตามตัวนายอับดุลการิม ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนขยายผล
นอกจากนี้ พ.ต.ท.มงคล บัวจันทร์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ยังได้เตรียมเรียกพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์มีจำนวนกว่า 10 คน ที่จำใบหน้ารูปพรรณของคนร้ายที่ขับรถยนต์เก๋งบรรทุกระเบิดแสวงเครื่องมาจอดเพื่อก่อวินาศกรรมในครั้งนี้มาให้ปากคำ ซึ่งในเบื้องต้นทราบว่าส่วนใหญ่จดจำใบหน้าคนร้ายได้แม่นยำ ซึ่งมีด้วยกันไม่ต่ำกว่า 6 คน ที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้ามาอย่างดี และในจำนวนคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ พยานบางคนยังเห็นเดินปะปนกับชาวบ้านมาสังเกตการณ์แถมใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพผลงานเอาไว้ด้วย
ในส่วนของพยานหลักฐานที่สำคัญที่อีกชิ้นหนึ่ง คือ ภาพโทรทัศน์วงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามเสาไฟฟ้าจุดเกิดเหตุ จำนวน 5-6 ตัวนั้น ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สุไหงโก-ลก ได้เข้าตรวจสอบแล้ว พบว่า ส่วนใหญ่ใช้การไม่ได้ เนื่องจากถูกฟ้าผ่าช่วงฝนตกหนัก เมื่อ ประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่พยายามหาวงจรปิดที่ใกล้จุดเกิดเหตุที่สุด เพื่อใช้ประกอบหลักฐานทางคดี
ส่วนเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามอาก้า ยิงถล่มใส่ร้านอาหาร จำนวน 3 จุด และก่อนหลบหนีได้ใช้ระเบิดขว้างใส่ซ้ำ จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชาวบ้านและเด็กเสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 13 ราย ขณะนี้ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สุไหงโก-ลก จำนวน 9 ราย อาการสาหัส 2 ราย คือ 1.นายอโณชา ถนัดกิจพาณิชย์ อายุ 25 ปี และ 2.จ.ส.ต.ประสิทธิชัย ชูพิฤทธิ์ อายุ 35 ปี