ที่มา Thai E-News
ที่มา เวบไทยอินไซเดอร์
8 ตุลาคม 2552
นายเอกยุทธ อัญชันบุตร เจ้าของเวบไซต์ไทยอินไซเดอร์ ใช้เวบไซต์เป็นกระบอกเสียงโจมตีนายสนธิ ลิ้มทองกุล หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ว่า ไม่ได้ใหม่จริงแต่ยิ่งกว่า'น้ำเน่า' จากอดีตมาถึงปัจจุบัน พฤติกรรมทำกับทุกรัฐบาลเหมือนก็อปปี้เดียวกัน!คือ'เชลียร์-ขอ-ไม่ได้-ด่า' และโจมตีนายอภิสิทธิ์ที่ดอดไปพบสนธิลิ้มว่าน้ำเน่าสร้างภาพ
นายเอกยุทธ์ อดีตเจ้าพ่อแชร์ชาร์เตอร์ เปิดเผยถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดดเข้ามาสู่แวดวงการเมืองแบบเต็มตัว โดยการเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ว่า เมื่อคนพันธมิตรฯประกาศตั้งพรรคการเมืองใหม่ ก็ถือเป็นบุคคลสาธารณะ ที่ต้องรับการวิจารณ์ได้เป็นปกติ เหมือนที่ครั้งหนึ่งนายสนธิเคยวิจารณ์คนอื่นได้ และเมื่อดูจากตัวบุคคลและพฤติกรรมแล้ว “ไม่ใช่การเมืองใหม่” ตามที่กล่าวอ้าง นายสนธิเป็นยิ่งกว่าน้ำเน่า ยิ่งกว่าทักษิณ ชินวัตร เสียอีก เพราะดูพฤติกรรมแล้ว การมาเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง จะทำให้การเมืองย่อยยับแน่ๆ
“พฤติกรรมตั้งแต่อดีตเป็นเหมือนก็อปปี้เดียวกัน คือ "เชลียร์-แล้วขอ-พอไม่ได้-ก็เริ่มด่า" จะเห็นว่า ตอนแรกเชลียร์ทักษิณสุดๆ แต่พอผลประโยชน์ส่วนตัวไม่ได้ตามที่ร้องขอ จึงหันมาถล่มหนัก มาถึงรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็เช่นกัน เชียร์ในตอนแรก แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือน ก็มีกระแสว่า ขอผลประโยชน์หรืองานบางงาน แต่พอไม่ได้ ก็เริ่มกล่าวหา พล.อ.สุรยุทธ์ถูกด่า พล.อ.สนธิ (บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช.) ก็ถูกด่า มาถึงรัฐบาลประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก็เหมือนกัน พอไม่ได้ตามที่ร้องขอ ก็ออกมาตำหนิว่า ประชาธิปัตย์พึ่งไม่ได้ จึงจำเป็นต้องตั้งพรรค ทั้งๆ ที่ใครก็รู้ว่า เป้าหมายในการตั้งพรรคการเมืองของแกนนำพันธมิตรฯนั้น มีมานานแล้ว เพียงแต่รอจังหวะเวลาที่จะเปิดตัวให้ได้เปรียบมากที่สุดมากกว่า และที่ผ่านมา ก็พยายามแบ่งแยกบทกันเล่น ตามแต่ใครจะถนัดด้านใด”นายเอกยุทธกล่าว
นายเอกยุทธ กล่าวอีกว่า นายกฯก็พลาดที่เดินทางไปบ้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี และมีข่าวว่ามีนายสนธิร่วมอยู่ด้วย ซึ่งหากข่าวนี้เป็นจริง นายกฯก็เป็นแค่คนสร้างภาพ จากที่ตนเคยเชื่อว่า เป็นคนรุ่นใหม่ มีความคิดที่ดีในการพัฒนาบ้านเมือง แต่ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง ก็คือ นักการเมืองน้ำเน่าเหมือนเดิม เพราะการเมืองจะพัฒนาไปในทางที่ดีได้ ต้องรู้จักเลือกจะคบคน หรือเลือกสนิทสนมกับใคร ควรดูถึงพฤติกรรมของตัวบุคคลเป็นสำคัญ หากเขามีจิตใจทำเพื่อชาติจริง ก็ควรสนับสนุน แต่คนที่แสดงท่าทีว่า เดี๋ยวนี้เป็นคนดี ทั้งที่ในอดีตเป็นคนชั่วร้าย ซึ่งคนประเภทนี้มีเยอะ ยังมีการรีดไถ นายอภิสิทธิ์คงไม่ใช่ความหวังของคนรุ่นใหม่อีกแล้ว
นายเอกยุทธ กล่าวด้วยว่า เพราะดูจากสัปดาห์ที่แล้ว นายอภิสิทธิ์ก็มีข่าวไปร่วมหารือกับคนที่ถูกแบนทางการเมือง เพื่อหารือถึงการแก้รัฐธรรมนูญ อยากถามว่าเป็นการหลอกลวงประชาชนหรือไม่ เวลานี้บรรดานักการเมืองน้ำเน่าที่ถูกตัดสิทธิ ก็ยังเคลื่อนไหวทางการเมืองได้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มองพวกนี้ก็เหมือนกับเสาไฟฟ้าต้นหนึ่ง
“อย่าลืมว่า การเปลี่ยนแปลงการเมืองจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากคนที่มีศักยภาพทางการเมือง ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ การอ้างว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็คือการกล่าวอ้างเพื่อตัวเองทั้งสิ้น ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร สิ่งที่ทำง่ายที่สุดคือ การกำหนดสิทธิผู้จะลงเลือกตั้งง่ายๆ คือ แสดงการเสียภาษี พร้อมกับทรัพย์สินที่มีอยู่ ว่าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ หากกล้าทำเรื่องนี้จริง ก็จะได้คนดีๆ เข้าสู่การเมือง ไม่เช่นนั้นก็จะได้แต่หน้าเดิมๆ บางคนสมบัติมีมากมาย แต่พิสูจน์ไม่ได้ว่า เสียภาษีให้สอดคล้องกับทรัพย์สินที่มีมาหรือไม่ และพิสูจน์แหล่งที่มาของทรัพย์สินได้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างนิ่งพรรคการเมืองใหม่ ถ้าแน่จริงกล้าเสนอให้มีการเพิ่มเงื่อนไขเรื่องการสำแดงภาษีในรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะนี่แหล่ะคือ “การเมืองใหม่” อย่างแท้จริง เพราะก่อนที่คุณจะอาสาเข้ามาเล่นการเมือง คุณต้องพิสูจน์ตัวคุณเองก่อน เพราะผมก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าพวกนักรบข้างถนนคนไหนบ้าง ที่เมื่อก่อนแทบไม่มีอะไร หรือเป็นหนี้เป็นสิน แต่ตอนนี้ร่ำรวยกันแบบผิดหูผิดตา เพียงเพราะเล่นการเมืองข้างถนนอย่างเดียว”นายเอกยุทธกล่าว
มาร์คไม่ปฏิเสธดอดพบลิ้ม
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธไม่ยอมตอบข้อซักถามกรณีที่มีข่าวระบุว่า ในการเดินทางไปพบนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่บ้านพักในซอยรามคำแหง 21 นั้นมีนายสนธิ ลิ้มทองกุล ว่าที่หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ร่วมหารืออยู่ด้วยในเรื่องของเก้าอี้เลขาธิการนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และเก้าอี้ ผบ.ตร. โดยนายอภิสิทธิ ์ได้แต่หัวเราะ พร้อมส่ายหัวน้อยๆ ก่อนพยายามเดินหนีไป