ที่มา บางกอกทูเดย์
เริ่มมีความแตกต่างระหว่าง...มวลชน 2 ฝ่ายที่ทำให้การเมืองในประเทศไทย...เป็นไปในแบบที่นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ..ให้นิยามไว้ว่าประชาธิปไตยที่มีชีวิตมวลชนสีแดง...ที่กำลังเติบโตอย่างมากมายและแพร่กระจายออกไปในทุกภาคของประเทศ..มวลชนสีเหลือง...ซึ่งลดจำนวนลง..อันมาจากความผิดพลาดในการบุกเข้ายึดสนามบิน..และเข้าครอบครองทำเนียบรัฐบาล..ความแตกต่างกันของจำนวน..ระหว่างมวลชน2 สี...เป็นเรื่องไม่ดี..เพราะในประวัติศาสตร์..เรื่องราวแบบนี้..ทำให้เกิดการสังหารหมู่มาแล้วในหลายๆประเทศ..รุนแรงที่สุดก็ที่รวันดา...ระหว่างเผ่าฮูตูกับวาตูซี.....มวลชนเผ่าที่มากกว่าไล่เข่นฆ่าเผ่าที่มีจำนวนน้อยกว่าทั่วประเทศไม่ถึง 3 เดือน..ตายไประหว่าง 8 แสนถึง 1 ล้านคนในประเทศเลบานอน...มวลชนคนละศาสนา..มุสลิมกับคริสเตียน..ก็ยกพวกหํ้าหั่นเข่นฆ่ากัน...แต่ที่...โด่งดังที่สุดก็คือการสังหารหมู่วันเซนต์บาโทโลมิว ของประเทศฝรั่งเศส...ก็มาจากสาเหตุเล็กๆ ที่จุดระเบิดขึ้น..บนบรรยากาศแห่งความแตกแยกที่ก่อตัวมาก่อนอย่างยาวนานมวลชนฝรั่งเศส..ที่นับถือนิกายโรมันคาทอลิค..ไล่สังหารมวลชนชาวฝรั่งเศส..ที่นับถือ นิกายโปรเตสแตนท์....
หรือพวกที่เรียกตนเองว่า...อูเกอโนท์..สงครามมวลชน...ศพแรกล้มลงทันทีที่การลอบสังหาร นายพลโคลินยี...จากพวกโปรเตสแตนท์..ประสพความล้มเหลว...เมื่อ 24 สิงหาคมค.ศ. 1572 หรือเมื่อ 437 ปีที่แล้ว...ว่ากันว่า.. การลอบสังหารเกิดขึ้นเพราะ..ราชสำนักฝรั่งเศส..ไม่พอใจที่ มาร์เกอรีต เดอ วาลัวส์พระขนิษฐาของ พระเจ้าชาร์ลที่ 9 จะแต่งงานกับ อองรีแห่งนาวาร์ ที่นับถือคนละศาสนา..เมื่อถึงวันสมโภชใหญ่...นักบุญบาร์โทโลมิว..การสังหารหมู่ก็เริ่มที่ใจกลางกรุงปารีสและแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ.. กินเวลานานหลายเดือนกว่าจะสงบลงได้..พวกโปรเตสแตนท์..หรือที่เรียกว่าพวกอูเกอโนท์..ตายไปหลายหมื่นคนและอาจจะถึงหนึ่งแสนคน. ไม่มีใครคาดคิดว่า...แค่งานแต่งงานของ..หนุ่มสาวคู่หนึ่ง...จะกลายเป็นฉากสังหารระหว่างคนฝรั่งเศสที่พูดภาษาเดียวกัน..แต่ความขึ้งเคียดที่ควบแน่นกันอยู่ระหว่าง..ประชาชน 2 สี..เป็นประดุจ..ดินระเบิดที่รอประจุไฟเรื่องไม่เป็นเรื่องก็จุดระเบิดขึ้นมาได้..ในแผ่นดินที่ประชาชนไม่สมานฉันท์..อธิษฐานกันให้ดีเถิด...อย่าให้มันเกิดขึ้นมาบนแผ่นดินนี้