ที่มา ไทยรัฐ
โดยความรับผิดชอบใหญ่หลวงที่เกินจะทัดทาน
ที่สุดแล้วนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ต้องจดปากกาลงนามรับทราบในหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งของนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
เสีย "ห้องเครื่อง" สำคัญไปแล้วหนึ่ง
เอาเป็นว่า โดยปรากฏการณ์ที่สะท้อนถึงความสำคัญของคนชื่อ "นิพนธ์ พร้อมพันธุ์" การันตีโดยยี่ห้อ "ชวน หลีกภัย" ลงทุนต่อสายโทรศัพท์อ้อนให้อยู่ประคองรัฐบาลต่อไป เพราะความเก่งรอบด้าน ทั้งในเรื่องของการจัดงบประมาณและชั้นเชิงบริหาร
ช่วยอุ้มนายกฯอภิสิทธิ์ได้เยอะ
แต่ที่สำคัญกว่านั้น มันอยู่ที่ "ภารกิจฉากหลัง" คอนเนกชั่นของนายนิพนธ์ที่เครือข่ายโยงใยครอบคลุมทุกวงการ โดยเฉพาะในฐานะมือดีลกับแกนนำตัวจริงเสียงจริงของพรรคร่วมรัฐบาลที่เรียกกันติดปากว่า "เฮีย"
"นิพนธ์" เคลียร์ได้ทุกช็อต ยามที่เกิดปัญหา
โดยคุณสมบัติตามนี้จึงเป็นอะไรที่ยากจะหาคนมานั่งในตำแหน่ง "ห้องเครื่อง" แทน
ก็อย่างที่เห็นอาการอึกๆอักๆของนายกฯอภิสิทธิ์ ต้องยื้อเวลาคัดเลือกบุคคลมาแทนภายในสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่ฟันธงว่าจะโยกนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ สลับเก้าอี้มานั่งเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหรือไม่
แค่แบะท่าไว้ จะต้องปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ จะดูไปตามความจำเป็น
ตามคิวเลย จุดที่ลงตัวน่าจะอยู่ที่ชื่อของนายกอร์ปศักดิ์
เพราะจะเป็นโอกาสดีที่นายกฯอภิสิทธิ์จะได้ฉวยจังหวะซักคราบสกปรกมอมแมมจากคิวทุจริตโครงการชุมชนพอเพียง ที่เชื้อกำลังลามติดโครงการไทยเข้มแข็ง
ยิ่งปล่อยนาน คราบยิ่งฝังลึก
เคลียร์ "กอร์ปศักดิ์" พ้นจุดปัญหา มันก็น่าจะลดอาการหวาดระแวงลงได้ระดับหนึ่ง
และกับอีกช็อตหนึ่ง โดยการขยับนายกอร์ปศักดิ์เปลี่ยนงานไปนั่งเป็นเลขาธิการนายกฯ ก็เท่ากับแยกวง "คุณชายละเอียด" ออกจากคิวขัดขากับพรรคร่วมรัฐบาลในการคุมงานกระทรวงด้านเศรษฐกิจ
เหยียบตาปลากันจนงานไม่เดิน
โดยสถานภาพ "ส่วนเกิน" ชื่อของนายกอร์ปศักดิ์จึงลงตัวด้วยประการทั้งปวง
แต่บังเอิญว่า ในสถานการณ์ที่แหล่งข่าวพรรคประชาธิปัตย์ก็ยอมรับกันเป็นนัย ยามนี้อยู่ในช่วงเปราะบางของรัฐบาล
ต้องหลีกเลี่ยงแรงกระเพื่อมจากคิวปรับ ครม.
โดยเฉพาะสมาชิกชมรมคนอกหักในพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกันเอง ที่จ้องรอเสียบเก้าอี้กันตาไม่กะพริบ รอช่องเปิดเมื่อไหร่ มีหวังได้ฟัดกันฝุ่นตลบ
และที่เสียเชิงกว่านั้น ถ้าขยับนายกอร์ปศักดิ์ก็เท่ากับเข้าทางพรรคเพื่อไทยที่เพิ่งออกมาไล่บี้ให้นายกฯอภิสิทธิ์ปรับ ครม. โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจที่เดินผิดทาง
ยอมรับสารภาพกันเป็นนัย
โดยจังหวะขึงพืด เงื่อนไขภายในของประชาธิปัตย์ที่ขยับกันไม่ออก
แต่ในอารมณ์ที่ผ่อนคลาย ดีกรีตึงเครียดในหมู่พรรคร่วมรัฐบาลที่วูบวาบสวนทาง
เช็กบรรยากาศวงถกแกนนำตัวจริงเสียงจริงของพรรคร่วมรัฐบาลที่บ้านพิษณุโลก ทุกสายตรงกัน เป็นไปอย่างชื่นมื่น และก็เป็นนายกฯอภิสิทธิ์ที่ชิงเสนอพิมพ์เขียวประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่ต้องรอให้พรรคร่วมรัฐบาลทวงสัญญาลูกผู้ชาย
"ได้ทั้งนั้นครับพี่"
ประโยคที่ขาใหญ่พรรคร่วมรัฐบาลฟังแล้วอมยิ้ม กับบท "เด็กดื้อ" ที่ลดโทนเฮี้ยวลง
และโดยช็อตต่อเนื่องหลังจบคิวทางการที่บ้านพิษณุโลก นายกฯอภิสิทธิ์แยกตัวกลับ "เทพเทือก" นัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลดินเนอร์ต่อที่โรงแรมหรูกลางกรุง เปิดอกคุยกันตามภาษานักเลงน้องๆพี่ๆ เคลียร์คำถามคาใจของพรรคพวก
"เฮียนิพนธ์ไปแล้ว พี่เทพจะลาออกตามหรือเปล่า"
คำตอบคือ ไม่มี
และก็เป็นอะไรที่ฟ้องอุปาทานหมู่ ช็อตที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหารือกันถึงคิวที่ "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ หวนคืนการเมือง รับเป็นแม่ทัพพรรคเพื่อไทย
กระตุ้นต่อมคึกให้ลูกข่าย "นายใหญ่"
คงจะมียุทธศาสตร์อะไรใหม่ๆออกมาเดินเกมเคลื่อนไหว และพรรคเพื่อไทยคงเอา พล.อ.ชวลิตเข้ามาเพื่อหวังจะตรึงพื้นที่ภาคอีสานเอาไว้
ให้ได้มากที่สุด
อาการของคนกลัวผี "ทักษิณ" แอบซุบซิบกันมุมห้อง
อย่างไรเสีย พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องกอดคอกันต่อไป.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน