ที่มา Thai E-News
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
8 ตุลาคม 2552
หมายเหตุไทยอีนิวส์:คำกล่าวในวาระครบรอบ ๓๓ ปี เหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ เมื่อ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ โดย นายสินธุ์สวัสดิ์ ยอดบางเตย ประธานอนุกรรมการประสานงาน ตัวแทนคณะกรรมการจัดงานครบรอบชาตกาล ๑๑๐ ปี รัฐบุรุษอาวุโสปรีดี พนมยงค์
การเกิดขึ้นของเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ นั้น เป็นจุดแตกหักอันเป็นผลต่อเนื่องมาจากสถานการณ์การต่อสู้ทางการเมืองอันแหลมคมที่ดำเนินมาก่อนหน้านั้น
ระหว่างพัฒนาการของพลังแห่งขบวนการนักศึกษาประชาชนฝ่ายก้าวหน้าที่ก้าวข้ามขั้นตอนเรียกร้องเสรีภาพ ประชาธิปไตย มุ่งสู่ความเป็นธรรมในสังคมเพื่อราษฎรทุกชนชั้น ด้วยความบริสุทธิ์ใจฝ่ายหนึ่ง กับการต่อต้านทุกรูปแบบของพลังแห่งขบวนการอนุรักษ์นิยมขวาจัด ขุมพลังคลั่งชาติ ซากเดนความคิดศักดินา เผด็จการนิยม ที่มีผลประโยชน์อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังมหาศาลอีกฝ่ายหนึ่ง
เมื่อเกิดเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ ท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ได้เสนอทรรศนะเรื่อง “จงพิทักษ์เจตนารมณ์ประชาธิปไตยสมบูรณ์ของวีรชน ๑๔ ตุลาคม” ต่อสังคมไทย เพื่อให้ขบวนการนักศึกษาประชาชนฝ่ายก้าวหน้าได้ตระหนัก
แต่ด้วยพลังแห่งจิตใจอันเร่าร้อนเจิดจ้า ไม่กลัวยากลำบาก ไม่กลัวการเสียสละ มุ่งไปข้างหน้าด้วยอุดมการณ์ที่เต็มไปด้วยหัวใจบริสุทธิ์อย่างเดียว ทำให้ขบวนการนักศึกษา ประชาชน ฝ่ายก้าวหน้าต้องตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ จากฝ่ายตรงข้ามทั้งเป็นผู้กำหนด และสร้างสถานการณ์
กระแสลมแห่งการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในสังคมได้พัดพาขบวนการนักศึกษา ประชาชน ฝ่ายก้าวหน้า มุ่งสู่พลังสามประสาน อันได้แก่ นักศึกษา กรรมกร ชาวนาชาวไร่
แต่ต้องถูกบีบรัดด้วยสถานการณ์แห่งความรุนแรงไปจนถึงจุดแตกหัก เมื่อเกิดการล้อมปราบและสังหารโหดเมื่อวันพุธที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตามมาด้วยการยึดอำนาจของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ทำให้นักศึกษา ประชาชน ฝ่ายก้าวหน้าส่วนหนึ่ง ตัดสินใจเดินทางเข้าสู่ชนบท ร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธเพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐ
ในขณะนั้น ท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ พำนักอยู่ ณ บ้านพักอองโตนี ชานกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เฝ้าติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ด้วยความห่วงใยยิ่ง ก่อนหน้านี้ท่านพยายามให้แง่คิดและเตือนสติขบวนการนักศึกษา ประชาชน ฝ่ายก้าวหน้า ท่านไม่ปรารถนาให้เกิดความรุนแรง ซึ่งจะนำพาไปสู่ความเลวร้ายยิ่งขึ้น
ขบวนการนักศึกษา ประชาชน ฝ่ายก้าวหน้าในช่วง ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ จนถึง ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ ได้สร้างคนหนุ่มสาวผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์อันมุ่งมั่นไปสู่สังคมดีงาม หากไม่มีเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ มาทำให้ต้องสดุดหยุดชะงักแล้ว ขบวนการนี้คงได้หลอมรวมระหว่าง ความมุ่งมั่น เพื่อความเป็นธรรมในสังคมกับเจตนารมณ์ประชาธิปไตยสมบูรณ์ อย่างมีพัฒนาการไปสู่คุณภาพ และน่าจะปรากฎผลที่งดงามกับสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรมไม่มากก็น้อย
เหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ ผ่านพ้นไป ๓๓ ปีแล้ว บัดนี้คนหนุ่มสาวเหล่านั้นได้เปลี่ยนสถานะไปตามเหตุปัจจัย วัน เวลา ผ่านไป ทิ้งรอยแผล ซากปรักหักพังไว้เบื้องหลัง ในขณะที่สภาพทางสังคมได้ปรับตัว เดินไปอย่างไม่หยุดยั้ง สถานการณ์ใหม่เกิดขึ้นทับซ้อนสถานการณ์เดิม เกิดเรื่องราวทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ที่ดำรงด้วยปัญหาให้ต้องแก้ไข ครั้งแล้วครั้งเล่า
ณ วันนี้ สำหรับคนหนุ่มสาวรุ่นปัจจุบัน ควรได้มีโอกาสเรียนรู้ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ เพื่อเป็นบทเรียนทางประวัติศาสตร์ให้ศึกษา ให้ได้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของกระแสธารการต่อสู้ไปสู่ความเป็นธรรมในสังคม และประชาธิปไตยสมบูรณ์ ที่จะไม่สิ้นสุดลงในระยะเวลาอันใกล้นี้
00000000000
ชมคลิปข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวเนื่อง:
*รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ วิเคราะห์ 14ตุลา, 6 ตุลา
http://baygon5.no-ip.org/upfiles/tammpa/อ.พิชิต33@36Years2009-10-07.mp3
*แม่เล็ก วิทยาภรณ์ ที่ธรรมศาสตร์
http://www.voicetv.co.th/content/4015/แม่ผู้สูญเสียเรียกร้องรัฐบาลชำระประวัติศาสตร์6ตุลา19