ที่มา มติชน
คอลัมน์ ข้าราษฎร
โดย สายสะพาย
มีการกล่าวหาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า มีการทำงานหลายมาตรฐานและเลือกปฏิบัติโดยเฉพาะกับกลุ่มนักการเมืองหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นที่อยู่หรือเคยอยู่ในสังกัด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะถูกเล่นงานอย่างหนักหน่วง เช่น
-การชี้มูลความผิดทางอาญานายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในคดีมติ ครม.ให้ออกแถลงการณ์ร่วมสนับสนุนให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
-การชี้มูลความผิดทางอาญาและวินัยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีและพวก คดีการสลายม็อบ 7 ตุลา 2551 ฯลฯ
แต่กรณีดังกล่าว เป็นข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นจากฝ่ายการเมืองบนสมมติฐานที่ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดนี้ได้รับการแต่งตั้งคณะรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ซึ่งโค่นล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการตัดคดีที่เป็นประเด็นหรือเกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมืองออกไปแล้วก็ตาม ก็ยังมีข้อเท็จจริงที่บ่งชี้ให้เห็นว่า การทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีหลายมาตรฐาน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากความตั้งใจหรือความไร้ประสิทธิภาพของสำนักอำนวยการคณะกรรมการก็ตาม
ตัวอย่างเช่น การเผยแพร่ผลการประชุมที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รับหรือมีมติแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนคดีต่างๆ
คำถามก็คือ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ใช้หลักเกณฑ์ใดในการเลือกที่จะเผยแพร่หรือไม่เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว
ก่อนหน้านี้เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีการเผยแพร่เอกสารผ่านทางเว็บไซต์
แต่มาในระยะหลัง มีการแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรื่องมอบอำนาจให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กลับไม่มีการเผยแพร่ข่าวดังกล่าวผ่านเว็บไซต์
เช่นเดียวกัน ปกติแล้ว ถ้ามีการชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง (แม้การชี้มูลนักการเมืองท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ก็ควรเผยแพร่ด้วยก็ตาม) จะต้องมีการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว
แต่ปรากฏว่า ในการชี้มูลความผิดนายรังสรรค์ แสงสุข อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กลับไม่มีการเผแยพร่ข้อมูลดังกล่าว
พฤติกรรรมเช่นนี้ของคณะกรรมการ ป.ป.ช.หรือสำนักงาน ป.ป.ช.ควรเรียกว่า หลายมาตรฐานหรือไม่