ที่มา บางกอกทูเดย์
ยกแรกรัฐบาลชนะไปแล้ว คือ สามารถทำให้ฝ่ายการเมืองและข้าราชการพลเรือนเข้าไปยึดกุมทิศทางการพัฒนา และจัดการงบประมาณชายแดนใต้ได้เกือบเบ็ดเสร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงบประมาณ6.3 หมื่นล้านบาท
วันนี้ใครยังพูดถึงงบดับไฟใต้ 5 ปี 1 แสนล้านบาท...ต้องบอกว่า “เชยระเบิด”เพราะรัฐบาลประชาธิปัตย์รุดหน้าไปไกลแล้วกับงบก้อนใหม่มุ่งใช้ในงานพัฒนา ตัวเลขกลมๆ6.3 หมื่นล้านบาท ระหว่างปีงบประมาณ 2552-2555และไม่ใช่แค่รุดหน้าธรรมดา...แต่คนระดับรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง “สุเทพ เทือกสุบรรณ”เอาจริงเอาจังถึงขนาดลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สัปดาห์ละหลายวันแถมควง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ไปนั่งฟังชาวบ้านทำ“ประชาคม” เสนอโครงการพัฒนาในตำบลหมู่บ้านของตัวเองด้วยแต่แม้จะขะมักเขม้นกันขนาดนี้...และรองนายกรัฐมนตรีก็ให้สัมภาษณ์ไม่เว้นแต่ละวันแต่งบพัฒนาชายแดนใต้ก้อนใหญ่ก็ยังถูกมองอย่างไม่เข้าใจว่าจะแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่?หนำซํ้ายังมีคำถามเดิมๆ กลับมาหลอกหลอนว่างบไปอยู่ในมือทหารทั้งหมดหรือเปล่าท่ามกลางร่องรอยปริร้าวระหว่าง “บางปีก” ในรัฐบาลกับ “กองทัพ” ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันในทิศทางดับไฟใต้ในทางสัญลักษณ์ต้องเรียกว่า...เป็นการ “ปลดแอก” จากกองทัพ หลังจากช่วงหลายปีที่ผ่านมา ภารกิจดับไฟใต้ในแทบทุกมิติอยู่ในความรับผิดชอบของ “ทหาร” นำโดยกองทัพบกว่ากันว่า...ยกแรก รัฐบาลชนะ ไปแล้ว คือ สามารถทำให้ฝ่ายการเมืองและข้าราชการพลเรือนเข้าไปยึดกุมทิศทางการพัฒนา และจัดการงบประมาณชายแดนใต้ได้เกือบเบ็ดเสร็จโดยเฉพาะอย่างยิ่งงบประมาณ 6.3 หมื่นล้านบาท!งบ 6.3 หมื่นล้านที่พูดๆกันอยู่ในขณะนี้...เป็นงบตาม “แผนการพัฒนาพื้นที่พิเิศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2552-2555” วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 63,319 ล้านบาทแผนพัฒนาฯ ฉบับนี้...ถูกกำหนดกรอบนโยบายมาจาก คณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (รชต.) ซึ่งมี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อคลอดแผนออกมาแล้ว...ก็ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนการพัฒนาพื้นที่พิเศษ5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (อชต.) ขึ้น
โดยมี สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อแปรแผนงานไปสู่การปฏิบัติที่มาของงบประมาณ 6.3 หมื่นล้านบาท...บางส่วนเป็นงบเงินกู้จาก “แผนปัฏบัติการไทยเข้มแข็ง”และบางส่วนเป็นงบปกติตามแผนงานของกระทรวง ทบวง กรมแผนการพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ประกอบด้วย...โครงการที่มุ่งแก้ปัญหาและฟื้นฟูพัฒนาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสี่อำเภอของ จ.สงขลา รวม 53 แผนงาน 463 โครงการ กับอีก 15 มาตรการขับเคลื่อนภายใต้แผนงานหลัก 6 แผน คือ1.แผนการยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตประชาชนในระดับหมู่บ้าน ประกอบด้วย 8 แผนงานย่อย 55 โครงการ ใช้งบประมาณรวม 4 ปี (2552-2555) 27,914 ล้านบาท2.แผนการอำนวยความเป็นธรรมและความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ประกอบด้วย 16 แผนงานย่อย 203 โครงการงบประมาณรวม 15,509 ล้านบาท3.แผนการพัฒนาคุณภาพคน พหุวัฒนธรรม และมาตรฐานบริการสังคม ประกอบด้วย 8 แผนงานย่อย 89 โครงการ งบประมาณรวม 10,186 ล้านบาท4.แผนพื้นฟูเศรษฐกิจและการลงทุน ประกอบด้วย 10 แผนงานย่อย 30 โครงการ งบประมาณรวม 6,637 ล้านบาท5.แผนการพัฒนาความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบด้วย 8 แผนงานย่อย 83 โครงการ งบประมาณรวม 1,130 ล้านบาท6.แผนการปรับปรุงกฎระเบียบ และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ประกอบด้วย 3 แผนงานย่อย 3 โครงการ งบประมาณรวม1,940 ล้านบาทจะเห็นได้ว่า 69% ของงบ 63,000 ล้าน อยู่ในแผนที่ 1 กับ 2 ซึ่งเป็นแผนงานที่เกี่ยวโยงกับงานความมั่นคง และกำกับดูแลโดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน.แหล่งข่าวจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า...ซึ่งรับผิดชอบงานด้านการพัฒนาและงานมวลชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เผยว่า...ตัวเลขรายได้ครัวเรือน 64,000 บาทต่อปีนั้น เป็นรายได้เฉลี่ยแต่จากการสำรวจจริงๆ พบว่ามีครัวเรือนจำนวนไม่น้อยที่มีรายได้เพียง 30,000-35,000 บาทต่อปี หนำซํ้าลักษณะครัวเรือนในพื้นที่ยังเป็นครอบครัวขยาย บางบ้านมีสมาชิกกว่า 30 คน“ถ้าประชาชนยังยากจนและไม่ได้รับโอกาส ก็จะเป็นเงื่อนไขให้ประชาชนถูกปลุกระดมและไม่ไว้วางใจรัฐมากขึ้น ฉะนั้นรัฐจึงต้องสร้างโอกาส และประชาชนต้องได้รับโอกาส พออยู่พอกินทำมาหากินได้ ซึ่งถ้าทำสำเร็จ หลังจากปี 2553 รัฐจะเริ่มได้ใจประชาชน และสถานการณ์ความรุนแรงจะเบาลงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว”แหล่งข่าว ระบุ
(ติดตามอ่านต่อฉบับต่อไป)