WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, October 20, 2009

เวียดนามกำลังมีรถไฟความเร็วสูงVSไทยกำลังมีรถไฟความเลวสูง

ที่มา Thai E-News


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
19 ตุลาคม 2552

ปล่อยทิ้ง - ผู้โดยสารนับพันเดือดร้อนหนัก หลังขบวนรถไฟวิ่งมาจอดทิ้งดื้อๆ ที่สถานีชุมพร เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการประท้วงผู้ว่าฯร.ฟ.ท. นอกจากการหยุดวิ่งแทบทุกขบวนในภาคใต้ เมื่อวันที่ 18 ต.ค.(ภาพ:คำบรรยาย ข่าวสด )

ขณะที่เมืองไทยเรากำลังเจอพฤติการณ์พนักงานสหภาพรถไฟ(บางส่วน)มีความเลวสูง ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม ที่เพิ่งผ่านพ้นสภาพสงครามมาไม่กี่ปี เขากำลังมีรถไฟความเร็วสูงกันแล้ว


เวียดนามภายใต้การช่วยเหลือของรัฐบาลญี่ปุ่น กำลังทุ่มงบประมาณ 700,000-800,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อขยายรางรถไฟเป็น 1.345 เมตร จากนครโฮจิมินท์ขึ้นไปยังฮานอยระยะทาง 1,800 กิโลเมตร เป็นการก่อสร้างให้แล้วเสร็จแบบรวดเดียวไปเชื่อมต่อกับรางรถไฟของจีน

พร้อมกันนั้นก็สร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน 6 สายในนครโฮจิมินท์ รองรับการเดินทางของคนที่นั่นที่มีประมาณ 8 ล้านคน ใกล้เคียงกับกรุงเทพฯของไทย และได้อนุมัติการก่อสร้างไป 1 เส้นทางเมื่อเดือนเมษายน 2550 มูลค่าการลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นั่นเป็นความก้าวหน้าเรื่องรถไฟความเร็วสูง อันน่าอิจฉาของเพื่อนบ้าน และต่อไปนี้เป็นความน่าสังเวชใจของรถไฟความเลวสูงของพี่ไทยมั่ง

การหยุดงาน หรือผละงานประท้วงของคนขับรถไฟในเวลานี้ นับเป็นเรื่องที่น่าสังเวช และทำลายภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยจะโสภาอยู่แล้วของตัวเองให้เน่าสนิทไปกว่าเดิม

ยิ่งข้ออ้างในการหยุดงานนั้นบอกว่าตัวคนขับรถไฟ"ป่วย" แต่ดันมาป่วยพร้อมๆกัน หรืออ้างว่าหัวรถจักรเก่าเก๋ากึ๊ก อาจเกิดความไม่ปลอดภัย ก็เลยหยุดเดินรถเสียดื้อๆ แล้วปล่อยให้ผู้โดยสารตกค้างกันอื้อซ่า หรือกระทั่งไล่ลงจากรถไฟ เป็นสภาพที่น่าสังเวชใจจริงๆ

หนักข้อไปกว่านั้นก็คือ พนักงานรถไฟบางส่วนพยายามเข้ายึดหอบังคับการรถไฟบางสถานีที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือในการหยุดงานประท้วง ทั้งได้ข่มขู่รัฐบาล โดยเอาความเดือดร้อนของผู้โดยสารเป็นประกัน โดยขู่ว่าหากมีการดำเนินคดีกับพวกที่ผละงานประท้วงก็จะพากันปิดสถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งเทียบไปก็คือเมืองหลวงของรถไฟไทย ก็ยิ่งทำให้ประชาชนเหลือทนกับคนการรถไฟที่ก่อเรื่องแล้ว

ที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุประท้วงนี้ก็มีเรื่องการบริการที่ไร้ประสิทธิภาพของการรถไฟอยู่เนืองๆ เหตุการณ์ประเภทที่ว่าจู่ๆรถไฟก็ไหลเลื่อนเลยรางรถไฟที่กาญจนบุรี ผู้โดยสารหวิดจะตายหมู่ หรือต่อมาเหตุเกิดรถไฟตกรางที่หัวหิน เป็นเหตุให้มีคนเจ็บคนตายจำนวนมาก และพบว่าต้นเหตุมาจากความสะเพร่าของคนขับรถไฟ ที่เกิดการหลับใน

พอจะมีการเอาเรื่องคนสะเพร่าดังนี้ สหภาพรถไฟก็ออกมาโวยวายว่า สาเหตุมาจากหัวรถจักรเก่ามั่ง เลยพาโลหาเหตุอ้างว่า ต่อไปหากเกิดเหตุเรื่อยๆก็คงต้องไม่พ้นผิดคนขับรถไฟ…ก็เลยพากันป่วยการเมือง แล้วนัดหยุดงานเสียอย่างนั้น

พูดง่ายๆว่าเหตุเก่าเรื่องรถไฟมีอุบัติเหตุบ่อยๆ มาล่าสุดเกิดมีคนเจ็บคนตายขึ้นมา คนรถไฟก็ตกเป็นจำเลยสังคมพอแรงอยู่แล้ว เรื่องเก่ายังไม่บรรเทาเหตุ เรื่องใหม่ก็แทรกกลางลำขึ้นมาเสียอย่างนี้ คนการรถไฟในส่วนที่ก่อเหตุสร้างเรื่อง ไม่เท่ากับกำลังทุบทำลายภาพพจน์ขององค์กรที่กำลังย่ำแย่อยู่แล้วให้พังทลายลงหรือครับ

ทีนี้เมื่อหันไปดูเรื่องการนัดหยุดงานนี้ก็พบว่า กฎหมายแรงงานรัฐวิสาหกิจ มาตรา 33 จะบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า "พนักงานรัฐวิสาหกิจห้ามนัดหยุดงาน" ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น

คนของรัฐวิสาหกิจก็เลยหาช่องโหว่ในการนัดหยุดงานด้วยการอ้างว่าลาป่วยพร้อมๆกันบ้าง หรืออ้างว่านัดประชุมวิสามัญใหญ่พร้อมๆกันมั่ง หรือแล้วแต่จะหาเหตุให้อ้างได้ แต่สรุปมันก็คือการหลบเลี่ยงกฎหมายเพื่อนัดหยุดวานนั่นเองในทางพฤตินัย

เรื่องนี้สมควรที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องไปอุดรูโหว่กันแหละครับ ทำยังไงได้ในเมื่อห้ามนัดหยุดงานแล้ว พวกพี่ๆสหภาพก็หารูโหว่เบ้อเร่อ ทำกันเป็นอาจิณแบบนี้

เหตุที่ผมบอกว่าทำเป็นอาจิณนั้นก็เพราะเมื่อไวๆนี้ ตอนกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้เองสหภาพรถไฟก็เพิ่งนัดหยุดงานมาทีหนึ่งแล้ว ซึ่งคราวนั้นอ้างกันว่า เพื่อคัดค้านแผนฟื้นฟูกิจการ ร.ฟ.ท.และการแปรรูปเป็นบริษัท เพื่อให้เอกชนเข้ามาบริหารแทน

ปัญหาต่อมาก็คือการหยุดงานประท้วงหนนี้ ก็คงเห็นว่าทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการได้รับความเวทนาจากการไม่รู้เหนือรู้ใต้ ไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อนว่าคนขับรถไฟจะ”ป่วยการเมือง”พร้อมๆกันเสียอย่างนี้ จึงถือเป็นการละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพในการเดินทางของประชาชนอย่างน่าเสียใจ ซึ่งกฎหมายระบุเป็นการกระทำผิดฐานละเมิดสิทเสรีภาพในการเดินทางด้วยอีกฐานหนึ่ง

นอกจากนั้นหากจะมีความรับผิดชอบแล้ว ก็ต้องทำตามแบบสหภาพแรงงานในประเทศที่เขาเจริญแล้วเขาทำกันเป็นบรรทัดฐานไว้ คือเวลาพวกสหภาพแรงงานในยุโรป อเมริกาเขาจะหยุดงานนั้น เขาไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเป็นการเฉพาะหน้า เนื่องจากหน่วยงานบริการสาธารณะมีมวลชนต้องพึ่งพาบริการเป็นจำนวนมาก ต้องรู้ว่าการนัดหยุดงานกะทันหันกระทำไม่ได้และไม่ควรกระทำ

สหภาพแรงงานในยุโรป อเมริกา หรือประเทศที่เขาเจริญแล้วนั้น หากมีการนัดหยุดงานเขาจะทำแบบเปิดเผยครับ ถูกต้องและมีจริยธรรม โดยการแจ้งล่วงหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 5 วัน และต้องมีหนังสือแจ้งนัดหยุดงาน รวมทั้งรายละเอียด รูปแบบการหยุดงาน เป็นต้น ประชาชนชาวบ้านเขาจะได้ทราบ

พอชาวบ้านรู้ เขาก็จะได้เลือกทางอื่นในการบริการระหว่างนั้น ไม่ว่าจะนั่งรถ ลงเรือ ขึ้นเรือบิน หรือยังไงก็ตามสภาพไปพลางก่อน
แต่ของเราทั้งไล่ผู้โดยสารลงรถ ทั้งคนไปตกค้างอยู่สถานี อยู่ดีๆพวกพี่จะยึดหัวลำโพง แล้วอ้างว่า”ป่วย” ทำกันอย่างนี้

ก็สมควรต้องโดนสาปส่งนั่นแหละครับ