WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, April 18, 2010

องค์กรสากลบีบ AMNESTYให้มาร์คเลิกฆ่า ANFRELชูสูตรเลือกตั้งผ่าทางตันนำไทยสงบ

ที่มา Thai E-News



ที่มา ประชาไท
17 เมษายน 2553

องค์การนิรโทษกรรมสากล(AMNESTY)ได้รวบรวมรายชื่อเรียกร้องถึงอภิสิทธิ์ให้ยุติความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมโดยทันที และเคารพสิทธิมนุษยชน ขณะที่เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี(ANFREL)เสนอโรดแม็พจัดเลือกตั้งใหม่ที่ชนะทุกฝ่าย เสนอตั้งรัฐบาลรักษาการณ์เป็นเจ้าภาพ 90 วัน เร่งเจรจายุติความขัดแย้งโดยทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ทุกพรรคลงหาเสียงได้ทั่วประเทศโดยปราศจากการคุกคาม ชี้คนทั้งประเทศในการมีส่วนร่วมปรับเปลี่ยนสังคมไทยให้คุ้มค่ากับชีวิตของผู้สูญเสียไป


นิรโทษกรรมสากลรวบรวมชื่อเรียกร้องนายกฯ ยุติรุนแรงต่อผู้ชุมนุมโดยทันที

องค์กรนิรโทษกรรมสากลในสหรัฐอเมริกา ทำจดหมายเปิดผนึกรวมรวมรายชื่อผ่านทางเฟซบุ๊คถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการใช้กำลังอันปราศจากความจำเป็นใดๆ ต่อผู้ชุมนุมโดยทันที และสร้างความมั่นใจว่าการกระทำทั้งหลายของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้ปฏิบัติตามมาตรฐานสากลในเรื่องของสิทธิมนุษยชน การบังคับใช้กฎหมาย และการใช้กำลัง

รายละเอียดจดหมายเปิดผนึก

ยุติความรุนแรงในประเทศไทย

ถึง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
เราผู้มีรายชื่อแนบท้ายมีความเห็นว่า...

เราตกใจและเศร้าสลดใจต่อการสูญเสียชีวิตและการบาดเจ็บจากการทำลายล้างที่เกิดขึ้น ในช่วงระหว่างการปะทะระหว่างกองกำลังความมั่นคงของรัฐไทยกับสมาชิกเสื้อแดงภายใต้ชื่อแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 10 เมษายน

เราตกใจยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากมีการใช้น้ำฉีดใส่ผู้ชุมนุม กระสุนจริง แก๊สน้ำตา และการใช้ความรุนแรงในรูปแบบอื่นๆ ต่อผู้ประท้วงเสื้อแดง ที่เกิดขึ้นทั่วกรุงเทพ หลังจากวันที่มีการปะทะภาวะวิกฤติได้เพิ่มระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ คำถามที่เกิดขึ้นก็คือความเป็นไปได้ว่าทั้งสองฝ่ายอาจใช้อาวุธ ดังนั้นความจำเป็นที่เร่งด่วนคือแนวทางการยุติปัญหาที่ปราศจากความรุนแรง สิ่งนี้เป็นหนทางเดียวที่จะไม่นำไปสู่ความหายนะจากการบาดเจ็บล้มตายของผู้คนในจำนวนมากขึ้น

ประเทศไทยอยู่ทางสองแพร่งที่อันตรายจะเกิดขึ้นได้อย่างฉับพลัน ทางหนึ่งคือประเทศไทยก้าวเข้าไปสู่การปราบปราบที่หนักหน่วงขึ้นไปอีก หรืออีกทางหนึ่งคือ ประเทศไทยก้าวไปสู่อนาคตที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ดังนั้นเราขอเรียกร้องให้คุณรีบหาโอกาสที่จะยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นบนท้องถนน และนำไปสู่การจัดให้มีการเจรจาอย่างสันติ

ด้วยความจริงใจ
ผู้มีรายชื่อแนบท้าย (ล่าสุดมีผู้ลงชื่อทั่วโลกกว่า 400 รายชื่อ)

0000

เกี่ยวกับการลงรายชื่อเรียกร้อง:

เมื่อวันเสาร์ที่ 10 เมษายน 2010 กองกำลังความมั่นคงได้เริ่มใช้กำลังเข้าสลายผู้ประท้วงเสื้อแดงภายใต้แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จากรายงานต่างๆ ระบุว่ากองกำลังความมั่นคงใช้น้ำแรงดันสูง แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และกระสุนจริงยิงเข้าใส่ผู้ประท้วง ผลก็คือ มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนและมีผู้บาดเจ็บหลายร้อยคน

ความต้องการของผู้ลงชื่อเรียกร้อง:

-ยุติการใช้กำลังอันปราศจากความจำเป็นใดๆ ต่อผู้ชุมนุมโดยทันที
- สร้างความมั่นใจว่า การกระทำทั้งหลายของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้ปฏิบัติตามมาตรฐานสากลในเรื่องของสิทธิมนุษยชน การบังคับใช้กฎหมาย และการใช้กำลัง

http://apps.facebook.com/causes/petitions/434?m=a4681d42&recruiter_id=6925358&ref=mf

http://www.amnestyusa.org

**********

อันเฟรลเสนอทางออกและแผนการเลือกตั้ง ชี้วิน-วินทุกฝ่าย

เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรีนำเสนอโรดแมพสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าให้พิจารณา โดยระบุว่าเป็นทางออกที่ชนะทุกฝ่าย

17 เม.ย.53 เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (Asian Network for Free Elections or ANFREL) เผยแพร่แถลงการณ์ว่าด้วย ทางออกและแผนการการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมให้กับรัฐบาลและกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างเท่าเทียมกัน มีรายละเอียดดังนี้

0000


แถลงการณ์

Road Map for Peaceful Solution and Win/Win Game
for Thai Government and Red Shirts
17 เมษายน 2553


เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (Asian Network for Free Elections or ANFREL)ทางออกและแผนการการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม ให้กับให้กับรัฐบาลและกลุ่มเสื้อแดง

หลายฝ่ายได้เสนอให้เปิดการเจรจารอบที่สามระหว่าง รัฐบาลไทยและผู้แทนคนเสื้อแดง ทางอันเฟรลเชื่อมั่นว่าสังคมไทยมีทางออก โดยสามารถจัดทำแผนการการลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมให้กับรัฐบาลและกลุ่มเสื้อแดงอย่างเท่าเทียมกัน

ซึ่งข้อเสนอดังต่อไปนี้น่าจะเป็นที่ยอมรับได้ของทุกฝ่าย และเดินหน้าเลือกตั้งได้อย่างอิสระเสมอภาคโดยประชาชนไทยต้องร่วมกันสร้างบรรยากาศประชาธิปไตยโดยไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ ด้วยความเชื่อมั่นที่จะนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาประชาธิปไตยที่ปราศจากความรุนแรง

เนื่องด้วยคู่กรณีอาจจะกังวลว่าการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฏรในครั้งต่อไปนี้จะทำให้รัฐบาลได้เปรียบกว่าพรรคการเมืองที่ฝ่ายเสื้อแดงสนับสนุนอยู่ เพราะรัฐบาลอาจจะใช้กลไกของรัฐอำนวยความสะดวกให้ตนได้คะแนนเสียงมากขึ้น ขณะเดียวกันรัฐบาลเองก็เกรงว่าจะลงพื้นที่เลือกตั้งไม่ได้ในทุกจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดต่างๆในภาคเหนือและอีสาน ซึ่งเสื้อแดงเองก็กังวลเช่นกันว่าอาจจะลงไปหาเสียงภาคใต้ไม่ได้ ส่วนประชาชนและผู้สมัครรับการเลือกตั้งและหัวคะแนนก็เกรงกลัวอย่างยิ่งว่าจะเกิดความรุนแรงปะทะกันระหว่างการหาเสียง หรือในวันเลือกตั้ง อันเป็นผลพวงจากความขัดแย้งที่ฝังลึกเป็นความเกลียดชังอยู่ในขณะนี้

ซึ่งเป็นความกังวลที่จะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากกลัวความรุนแรงจนไม่อยากออกมาใช้สิทธิเช่นกัน และนั่นย่อมจะทำให้ผู้จัดการเลือกตั้งทุกจังหวัดประสบความล้มเหลว เพราะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้จนทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นที่ยอมรับ หรือต้องมีการเลือกตั้งใหม่มากมายในหลายจังหวัด บรรยากาศการเมืองในระยะเปลี่ยนผ่านดังนี้เป็นประสบการณ์ที่ประเทศไทยและในหลายประเทศกำลังประสบปัญหานี้มาตลอด

เพื่อไม่ให้เหตุการณ์การสูญเสียในชีวิตและเงินงบประมาณของรัฐ และเพื่อให้เกิดบรรยากาศความสมานฉันท์ ก่อนการยุบสภา จึงเสนอให้ทั้งสองฝ่ายถอยกันคนละก้าวเพื่อเปิดทางให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาการเมืองของประเทศไทย โดยยอมให้มีการจัดตั้งกลไกเพื่อให้การเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรมกับพรรคเล็กและฝ่ายค้านเป็นสำคัญ เพราะรัฐบาลย่อมมีความได้เปรียบอยู่แล้ว โดยมีขั้นตอนที่ประเทศต่างๆได้นำมาใช้เป็นกลไกให้เกิดการเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรม ซึ่งประสบความสำเร็จมาแล้วดังนี้

ทั้งสองฝ่ายต้องยุติความขัดแย้ง เริ่มต้นด้วยการเจรจาเรื่องกลไกการเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรมก่อนการยุบสภา และต้องให้เวลาในการจัดกลไกต่างๆเพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรม

กลไกดังกล่าวอาจจะเป็นการให้มี พรบ.พิเศษ กำหนดให้มีคนกลางขึ้นมาสร้างความเป็นธรรมในการเลือกตั้งและเป็นที่ยอมรับของสังคม ที่เรียกว่า Non Party Care Taker Government หรือรัฐบาลรักษาการณ์ (1) ขึ้นมาคุมอำนาจในทุกกระทรวง เป็นระยะเวลา60 วันก่อนการเลือกตั้ง และ 30 วันหลังการเลือกตั้งเพื่อสร้างสูญญากาศให้ทั้งสองฝ่ายกลับคืนสู่พรรคตนเอง ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลจะตกอยู่ในสภาวะพรรคการเมืองและผู้สมัครรับการเลือกตั้งธรรมดาๆ ทำการหาเสียงเลือกตั้งในระยะเวลา 60 วันนี้เท่านั้น รัฐบาลรักษาการณ์จะไม่มีอำนาจสั่งการให้ผู้ใดทำการเอื้อประโยชน์แก่ตนในการหาเสียงอย่างเด็ดขาด รัฐบาลรักษาการณ์น่าจะมีมากกว่า 10 คนจะคุมเจ้าหน้าที่ในกระทรวงต่างๆ ให้ปฏิบัติหน้าที่รับใช้ประชาชนตามปกติ เจ้าหน้าที่ไม่จำเป็นต้องเกรงใจหรือเกรงกลัวผู้แทนจากรัฐบาลรักษาการณ์เพราะไม่ใช่นักการเมือง (ข้อเสนอนี้มาจากการศึกษาการแก้ปัญหาในประเทศบังคลาเทศและใช้ปฏิบัติมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้)

ในเนื้อหาของการเจรจา ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องมีข้อตกลง เป็นสัญญาประชาคมที่เป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะไม่มีการใช้ความรุนแรงในทุกพื้นที่ ไม่มีการหมายหัว หรือคิดลอบทำร้าย โดยผู้แทนทุกภาคส่วนร่วมเป็นสักขีพยาน และเป็นหน้าที่ของพรรค และคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จะต้องทำหน้าที่แจกจ่ายข้อตกลงดังกล่าวให้สมาชิกพรรค หัวคะแนน ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้รับรู้อย่างทั่วถึงกัน ใครละเมิดข้อตกลงนี้จะต้องโทษมากเป็นพิเศษกว่าปกติ

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมทั้งบทบาทของสื่อมวลชนจะต้องร่วมมือกันขอความร่วมมือให้หน่วยงานต่างๆ ป่าวประกาศให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึงกันเพื่อเปิดโอกาสให้ คนไทยทุกคน ต้อนรับพรรคทุกพรรคที่ลงไปหาเสียงอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่สร้างอุปสรรคใดๆ หรือใช้ความรุนแรงเข้าสกัดการเดินทางลงไปเยี่ยมเยียนประชาชน ห้ามไม่ให้ใช้ความรุนแรงโดยเด็ดขาด หรือกลไกใดๆกีดกันการเดินทางลงพื้นที่อย่างเสรี ทั้งนี้ถือว่ากระบวนการดังกล่าวเป็นขั้นตอนของการสมานฉันทน์ของคนไทยทั้งชาติในเวลาเดียวกัน

เมื่อเจรจาตกลงทำความเข้าใจกันได้แล้ว ทุกพรรคการเมืองจะต้องให้มีการทดลองลงพื้นที่ใน 76 จังหวัด ได้อย่างอิสระ ด้วยตราพรรค ชื่อพรรค ตัวบุคคล ตัวจริงเสียงจริง รวมทั้งผู้แทนของพรรคคนอื่นๆ เพื่อทดสอบความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมัน ลดความเกลียดชัง ทั้งนี้เพื่อให้สภาวะทางการเมืองกลับคืนสู่สภาวะปกติอย่างแท้จริงและเพื่อไม่ให้มีการเสียเลือดเนื้อแม้แต่น้อยนิด

กกต. และ คู่ความขัดแย้งทั้งสองฝ่าย รวมทั้งบทบาทของสื่อมวลชนจำเป็นจะต้องดูแล ตรวจสอบไม่ให้มีการใช้อำนาจอิทธิพล จากกลุ่มการเมืองระดับต่าง ๆ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พระสงฆ์ ผู้นำศาสนา หรือข้าราชการ นักธุรกิจ ผู้ทรงอิทธิพลท้องถิ่นอื่นๆ หรือสื่อมวลชนเองให้วางตัวเป็นกลาง ไม่ทำหน้าที่ เอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทำการข่มขู่ ให้สัญญาผลประโยชน์ก่อนและหลังการเลือกตั้ง ผู้ละเมิดกฏกติกาสัญญา จะต้องได้รับโทษอย่างจริงจังโดยไม่มีการยกเว้นหรือเลือกปฏิบัติอันเนื่องจากความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่าง

การซื้อเสียงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องจับตามองเป็นพิเศษในทุกการเลือกตั้ง แต่เนื่องจากครั้งนี้จะมีการแข่งขันกันสูงมาก จนถึงกับมีเดิมพันชีวิต และอนาคตทางการเมืองของตนเอง จึงเห็นว่าควรจะลงโทษผู้ละเมิดกฏหมายในความผิดดังกล่าวทั้งผู้ซื้อเสียงและขายเสียง อย่างจริงจัง ไม่ควรปล่อยปละเหมือนดังที่ผ่านมา ด้วยความเห็นใจว่าผู้รับเงินนั้นเป็นคนยากคนจนจึงปล่อยให้รับเงินจนเคยชินและคิดว่าไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย

ในขณะที่มีการดำเนินการดังกล่าวนั้น ทุกพรรคและทุกภาคส่วนควรให้มีการประชุม หาทางปฏิรูปสังคม ปรับโครงสร้างเพื่อประชาชนไปพร้อมๆ กัน เพื่อมิให้ประเด็นดังกล่าวถูกลืมเลือนไปในอนาคต และเพื่อเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ ความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างจริงใจของนักการเมืองทุกคน และเป็นโอกาสที่ภาคประชาชนได้แสดงออกในประเด็นสำคัญต่างๆ เพราะประเทศเป็นของทุกคน มิใช่เป็นของผู้นำไม่กี่กลุ่ม

เสนอให้มีการจัด ศาลเลือกตั้ง เพื่อพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง การพิจารณาคดีการเลือกตั้งควรมีความรวดเร็วและเป็นธรรม กกต. จะมีบทบาทหน้าที่เพียงการจัดการการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพแต่สามารถพิจารณาตัดสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งเบื้องต้นได้

อนึ่งขอให้ทุกฝ่ายยอมรับความจริงว่า เราได้สูญเสียเลือดเนื้อชีวิต เสียโอกาสทางเศรษฐกิจ เสียโอกาสในการพัฒนาประชาธิปไตยที่ปราศจากความรุนแรงไปมากแล้ว การให้เวลาเพื่อต่อยอดในสิ่งที่สูญเสียไปนั้นไม่ถือว่าเป็นการซื้อเวลาให้ใครทั้งสิ้น ควรคำนึงว่าข้อเสนอดังกล่าวเป็นการให้เวลาแก่ตนเองอย่างมีนัยสำคัญให้โอกาสประเทศชาติ และให้บทบาทคนทั้งประเทศในการมีส่วนร่วมปรับเปลี่ยนสังคมไทยให้คุ้มค่ากับชีวิตของผู้สูญเสียไป

ทั้ง 8 ข้อนี้ควรจะได้รับการปฏิบัติอย่างถาวรในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งใดๆ และได้โปรดพิจารณาเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสังคมไทย


สมศรี หาญอนันทสุข

ผู้อำนวยการบริหารของอันเฟรล



----------------------
<1>ศึกษารัฐบาลรักษาการณ์ของประเทศบังคลาเทศเป็นต้นแบบ, CHAPTER IIA (of the Bangladesh Constitution)