WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, January 9, 2008

บุรีรัมย์สนามรบนี้ไม่จบ.. บทเรียนที่ต้องทบทวนของ กกต

โดย เรืองยศ จันทรคีรี

เรื่องของบุรีรัมย์ที่ กกต. มีการให้ใบแดงว่าที่ ส.ส. ของพรรคพลังประชาชนจำนวน 3 ราย ตอนแรกๆผมคิดว่ามันคงไม่มีปัญหาอะไรนัก...แต่เมื่อหยิบเรื่องมาศึกษาในรายละเอียดพบว่าประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้ว...เป็นการให้ใบแดงที่น่าจะผิดสังเกต และ กกต. ก็คงอธิบายกับสังคมให้แจ่มแจ้งได้ยากนัก?
มีข้อน่าสังเกตอยู่ประการหนึ่ง ซึ่งเป็นข้อมูลที่เพิ่งจะโผล่ขึ้นมา เพราะจากหลักฐานและข้อมูลต่างๆ แม้กระทั่งการแถลงของ กกต.กลางก็ยังระบุออกมาว่า “การให้ใบแดงว่าที่ ส.ส.บุรีรัมย์ถือเป็นข้อเสนอของ กกต.จังหวัด” อย่างไรก็ตาม ก่อนเรื่องจะผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาชุดพิเศษนั้น นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “พรรคได้เตรียมข้อมูลเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาในวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อพิจารณามติของ กกต. ในการให้ใบแดงแก่ 3 ว่าที่ ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 1 พปช. ซึ่งมีข้อมูลใหม่ปรากฏขึ้นมา ทั้งจากเอกสารและการบันทึกคำพูดของ กกต จังหวัดบุรีรัมย์ มีการยืนยันว่าไม่เคยเสนอ กกต.กลางสำหรับการให้ใบแดงดังกล่าว”
ข้อมูลใหม่ตรงนี้ท่าทางจะกระทบกระเทือนตั้งแต่ยอดเขากระโดนในจังหวัดบุรีรัมย์มาจนถึงสำนักงานใหญ่ กกต. ในกรุงเทพมหานครค่อนข้างจะชัดเจน แต่ท้ายที่สุดแล้วคณะกรรมการกฤษฎีกาชุดพิเศษก็พิจารณาเรื่องว่าผ่าน โดยเห็นว่า กกต. ดำเนินการต่างๆไปอย่างถูกต้องตามกระบวนการและตัวบทกฎหมายทุกประการ!
เรื่องของใบแดงที่จังหวัดบุรีรัมย์ถึงจะเกมไปเรียบร้อย แต่ก็ยังมีปัญหาอีกหลายข้อสงสัย ตั้งแต่การกระทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตรงนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่มีหลายฝ่ายตั้งคำถาม โดยเฉพาะคุณสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจกรรมพรรคการเมือง ซึ่งก็ยอมรับว่า “การให้ใบแดงแก่ 3 ว่าที่ ส.ส.บุรีรัมย์เป็นผลจากการประชุมเพื่อรับฟังสำนวนที่ กกต. ส่งให้สันติบาลลงไปสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม...โดย พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล รอง ผบ.ก.สันติบาล เป็นผู้เสนอ ที่ผ่านมาในหลายจังหวัดเห็นว่ามีมูล จึงให้สันติบาลแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมสอบสวนเพิ่มเติม...”


พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ในฐานะประธานอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน กกต. จึงมีส่วนเป็นด้านหลักสำหรับกรณีสนับสนุนการแจกใบแดงที่บุรีรัมย์ ตรงนี้นับเป็นอีกข้อสังเกตในการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. ...ดูออกจะวกวนอย่างไรชอบกล เพราะ กกต.กลางก็เคยแถลงว่าได้มอบหมายอำนาจให้ กกต.จังหวัดดำเนินการสอบสวนว่าที่ ส.ส. ซึ่งถูกใบแดง ...ตกลงเลยไม่รู้ว่าเป็น กกต.จังหวัดหรือฝ่ายสันติบาลกันแน่ที่เล่นบทเป็นพระเอกในเรื่องนี้? อีกประเด็นต่อมาที่เป็นจุดบอดใหญ่ก็คือคำถามว่าการเข้ามาเป็นอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน กกต. ของ พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เป็นการเข้ามาทำหน้าที่โดยผ่านการเห็นชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่? ...ตรงนี้เป็นคำถามใหญ่เหลือเกิน มีข้อเท็จจริงอยู่ประการหนึ่งในช่วงก่อนการเลือกตั้งนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้ง “ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง” ขึ้นมาเพื่อคอยประสานงานและทำภารกิจในเรื่องดังกล่าวนี้ ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยฯนี้มี พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รอง ผบ.ตร. ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าศูนย์ เป็นไปตามคำสั่งของ ผบ.ตร. ประเด็นของ พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ซึ่งเป็นการประสานของ กกต.กลางเข้าไปสู่สังกัดหน่วยงานสันติบาล โดยตรงนั้นได้ผ่านขั้นตอนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ อันนี้เป็นคำถามที่มีแง่มุมให้ตีความได้ว่ามันเป็นขั้นตอนที่ถูกต้องหรือไม่? เพราะถ้าขั้นตอนตรงนี้ไม่ถูกต้องก็ย่อมส่งผลเรื่อง 3 ใบแดงที่เขต 1 บุรีรัมย์ เพราะ พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ในฐานะประธานอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน กกต. เป็นผู้ชงเรื่องนี้ขึ้นมา ถ้าขั้นตอนการแต่งตั้งไม่ถูกต้อง...เรื่องใบแดงทั้ง 3 ใบนั้นจะเป็นปัญหาหรือไม่อย่างไร?...แต่เมื่อกฤษฎีกาชี้ว่าถูกก็คงถูกครับ มีข้อเท็จจริงอีกด้านที่ควรรับทราบ นายสมชัย จึงประเสริฐ นั้นเป็น กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กกต. ตามกฎหมายเลือกตั้ง กกต. ก็สามารถจะร้องขอไปยังหน่วยราชการใดก็ได้เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้นให้เข้ามาช่วยงาน กกต. ในระหว่างการเลือกตั้ง ระยะแรกมีตำรวจ 1,200 นาย ซึ่ง กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวนแต่งตั้งขึ้นมา...ในจำนวนเหล่านี้ไม่มีสินติบาลเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด!

จนกระทั่งวันที่ 14 พฤศจิกายน 2550 คุณอภิชาติ สุขัคคานนท์ ในฐานะประธาน กกต. ได้มีคำสั่งที่ 300/50 แต่งตั้ง “คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนตามมติ กกต.” รวมทั้งมีคำสั่งที่ 98/2550 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน ก็เป็นคำสั่งเรื่องสรรหาบุคลากรมาทำหน้าที่สืบสวนและวินิจฉัย ในส่วนที่เป็นตำรวจทั่วประเทศ 1,200 นาย ก็มีการมอบอำนาจให้ “คุณสมชัย จึงประเสริฐ เป็นผู้สั่งการ...” ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2550 ก็มีคำสั่งอีกครั้งของประธาน กกต. เป็นคำสั่งที่ 358/2550 ให้แต่งตั้งสันติบาลจำนวน 708 นายเข้ามาปฏิบัติหน้าที่... เบื้องหลังของคำสั่งดังกล่าวนี้เป็นการขอมาจากคุณสดศรี สัตยธรรม ภายหลังเวลาที่พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ได้เข้าไปย่างกรายถึง กกต.กลางเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2550... สถานการณ์ที่มีการออกคำสั่งเช่นนี้ แล้วให้สันติบาลเข้ามาทำงานเป็นประเด็นที่น่าตั้งคำถามว่าทาง กกต. ได้ประสานงานไปยังศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วหรือไม่? ประเด็นของใบแดง 3 ใบที่จังหวัดบุรีรัมย์มันไม่ใช่เรื่องขี้แพ้ชวนตี แต่เป็นปัญหาในขั้นตอนการดำเนินงานของ กกต. โดยตรง คลุมเครือทั้งขั้นตอนแต่งตั้งสันติบาล ขอบเขตการปฏิบัติงานของ กกต.กลางและ กกต.จังหวัด แม้กระทั่งการแต่งตั้งนายตำรวจที่สงสัยว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับแกนนำม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย... ทุกประเด็นและทุกขั้นตอนมีคำถาม...แม้เรื่องราวเหมือนจะจบแล้ว เมื่อโยนไปให้กฤษฎีกาชุดพิเศษที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการพิจารณา...แต่ผมเชื่อว่ากรณีของบุรีรัมย์ยังคงค้างคาใจใครต่อใครไปอีกนาน... มันไม่จบจากใจคนครับ?

คิดเหนือข่าว

จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้

ปีที่ 9 ฉบับที่ 2198 ประจำวัน พุธ ที่ 9 มกราคม 2008