WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, January 11, 2008

สิทธิต่อต้านระบบกดขี่

โดย จรัล ดิษฐาอภิชัย

เมื่อกลางปีที่แล้ว ผมขึ้นปราศรัยบนเวทีแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) หลายครั้ง ครั้งหนึ่งผมบอกกับประชาชนผู้ชุมนุมต่อต้านเผด็จการทุกวันตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน ว่าการต่อต้านระบอบเผด็จการนอกจากเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพื่อสิทธิ เสรีภาพแล้ว ยังเป็นการต่อต้านการกดขี่ อันเป็นสิทธิมนุษยชนประการหนึ่ง เพราะระบอบเผด็จการไม่ว่าจะเฉียบขาดหรืออ่อนๆ เป็นการปกครองที่กดขี่ บงการ และครอบงำประชาชน ซึ่งประชาชนมีสิทธิที่จะต่อต้านระบบนี้
สิทธิต่อต้านการกดขี่เป็นหนึ่งในบรรดาสิทธิมนุษยชน 5 ประการคือ สิทธิในชีวิต เสรีภาพ ทรัพย์สิน ความมั่นคง และต่อต้านระบบกดขี่ ซึ่งชาวอาณานิคมอเมริกาชูขึ้นมาเรียกร้องและต่อสู้เพื่ออิสรภาพจากอังกฤษ และชาวฝรั่งเศสใช้ในการต่อสู้กับระบอบเก่าจนนำไปสู่การปฏิวัติอเมริกาและประกาศอิสรภาพเป็นสหรัฐอมริกาเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1776 และการปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส ค.ศ. 1789


ความคิดว่าประชาชนมีสิทธิต่อต้านการกดขี่มิได้เกิดมาจากนักคิดนักปราชญ์คนใดคนหนึ่งคิดขึ้น หากมาจากสภาพสังคม เศรษฐกิจและการเมืองของระบอบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของกษัตริย์ และระบบอภิสิทธิ์ของฐานันดรขุนนางและพระ ซึ่งนักปรัชญาแสงสว่าง (Les Lumieres ) สรุปเป็นแนวความคิดโดยอาศัยทฤษฎีสิทธิตามธรรมชาติ กล่าวคือ สิทธิต่อต้านระบบกดขี่ เป็นสิทธิที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิด เป็นความจำเป็นของการดำเนินชีวิตของคนเรา โดยเฉพาะประชาชนผู้ถูกกดขี่ ข่มเหง รังแก อันเป็นไปตามกฎธรรมชาติ เหมือนกับสิทธิมนุษยชนประการอื่นๆ เช่น เมื่อมนุษย์หิว ต้องมีอาหารกิน สิทธิที่จะหาหรือมีอาหารเป็นสิทธิของมนุษย์ เวลาค่ำ ง่วงนอนก็ต้องนอน ดังนั้น การมีที่นอน มีบ้าน ก็เป็นสิทธิของมนุษย์ คนเราเมื่อเห็นอะไร จะรู้สึกนึกคิดกับสิ่งนั้น ไม่ว่าชอบหรือไม่ชอบ ย่อมแสดงความคิดเห็นออกมา ด้วยท่าทาง การพูด การเขียน ฯลฯ และเมื่อถูกกดหัว ข่มเหง รังแก บังคับ ขู่เข็ญ ทุบตี มนุษย์จะตอบโต้และต่อต้านการกระทำนั้นๆ การตอบโต้ ต่อต้านการกระทำดังกล่าวเป็นไปตามกฎธรรมชาติคือ การป้องกันตนเอง การทำให้ตนหลุดพ้นจากการถูกกระทำ นักปรัชญาแสงสว่างจึงคิดว่าเป็นสิทธิมนุษยชนประการหนึ่ง สิทธินี้คือสิทธิป้องกันตนเองนั่นเอง ความจริงแล้วก่อนและหลังมีปรัชญาแสงสว่าง นักนิติศาสตร์และนักกฎหมายในประเทศต่างๆถือว่าการกระทำเพื่อป้องกันตนเองย่อมไม่ผิดกฎหมาย ถ้าผิดก็ไม่ต้องรับโทษ ดังบัญญัติไว้ในกฎหมายอาญาของทุกประเทศจนถึงปัจจุบัน

ผมเขียนถึงสิทธิต่อต้านระบบกดขี่วันนี้ เพราะมองเห็นว่าประชาชนผู้รักประชาธิปไตยเริ่มต่อต้านอมาตยาธิปไตย และกลุ่มการเมืองอนุรักษ์นิยมที่ทวีการใช้ฐานะและอำนาจ เหยียบย่ำ ทำลายจิตใจพวกเขามากขึ้น เช่น การประท้วงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในหลายจังหวัด การวิจารณ์โจมตีพรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะเห็นว่า กกต. ลำเอียง ไม่ยุติธรรม และมุ่งขัดขวางพรรคพลังประชาชนจัดตั้งรัฐบาลตามแผนการของกลุ่มอมาตยาธิปไตย การกระทำของ กกต. กลุ่มอมาตยาธิปไตยและพรรคฝ่ายเผด็จการขณะนี้จึงบีบคั้นความคิดจิตใจของประชาชนผู้รักประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ประชาชนต่อต้านมากขึ้นตามไปด้วย เป็นไปตามกฎธรรมชาติ แรงกดมากเท่าไร แรงดันก็มากเท่านั้น การต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ต่อต้านกกต. รวมทั้งการต่อต้านพรรคการเมือง กลุ่มความคิดทางการเมืองอนุรักษ์นิยมและอมาตยาธิปไตยซึ่งมีอำนาจทางการเมืองการปกครองประเทศ และครอบงำความคิดจิตใจประชาชนมากกว่า 2 ปี ถือเป็นการต่อต้านระบบกดขี่ ข่มเหง รังแก เหยียบหัวประชาชนผู้รักประชาธิปไตย จึงเป็นสิทธิของประชาชนผู้ถูกกดขี่ประการหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธิประการนี้ก็เหมือนสิทธิอื่นๆ ต้องต่อต้านโดยสันติวิธีและรับผิดชอบ ซึ่งรัฐธรรมนูญปัจจุบันรับรองไว้ในมาตรา 69

คอลัมน์ สิทธิมนุษยชนไร้พรมแดน

จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ วันสุข

ปีที่ 9 ฉบับที่ 2200 ประจำวัน ศุกร์ ที่ 11 มกราคม 2008