ที่ตลาดสูงเนิน จ.นครราชสีมา แกนนำพรรคพลังประชาชนนำโดยนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองหัวหน้าพรรคร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนกลุ่มที่ 6 ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรค นายดนุพร ปุณณกันต์ นายจตุพร พรหมพันธ์ นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ได้เดินทางลงพื้นที่พบปะประชาชน พร้อมปราศรัยย่อยเพื่อช่วยผู้สมัครส.ส.เขต 3 นครราชศรีมา
ได้แก่ นายบุญเลิศ ครุฑขุนทศ นายประเสริฐ จันรวงทอง และนางลินดา เชิดชัย หาเสียงเลิกตั้งซ่อม ที่บริเวณตลาดเทศบาลอ.สูงเนิน ท่ามกลางประชาชนที่มารอต้อนรับกว่า 400 คน โดยนายสมัคร ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ใครจะนินทา กกต.ก็นินทาไป แต่ตนไม่นินทาเพราะถ้าไม่มี กกต.ก็จะยุ่งยากมากกว่านี้ ดังนั้นคำวินิจฉัยต่างๆ พรรคไม่ขัดข้อง นอกจากการพิจารณาให้ใบแดงเพราะถือป็นการตัดอนาคตทางการเมือง
ด้านร.ต.อ.เฉลิม ได้ปราศรัยว่า ขณะนี้การเมืองนิ่งแล้ว และตนโหรฯเฉลิมขอฟันธงว่านายกฯ คนต่อไป ต้องเป็นนายสมัครแน่นอน เมื่อช่วงสายวันนี้ก่อนที่จะเดินทางมาปราศรัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้โทรศัพท์ทางไกลจากข้ามประเทศมาหาตน ถามว่าจะตนจะมาโครราชหรือไม่ ตนก็ตอบว่ามา เพราะต้องมาเอาส.ส.3 คนกลับไปเพิ่มเสียงตั้งรัฐบาลเพื่อตบหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ซึ่งพรรคพลังประชาชนมีนโยบายร่วมงานกับทุกพรรคยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ เห็นว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีบุคลิกดีเหมาะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชน สบายใจได้พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาแน่นอนภายหลังพรรคจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงจะนำนโยบายที่ดีกลับคืนมา
จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้มีกระแสข่าวการยุบพรรคเกิดขึ้น ตนขอบอกว่าพรรคการเมือง จะยุบกันง่ายๆไม่ได้ เพราะยังมีกระบวนการอีกมากมาย ใช้ระยะเวลาพิจารณาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 ปี ตนเชื่อว่า กกต.จะมีความเป็นธรรมหรือถ้ายุบก็ต้องใหม่ได้ไม่มีปัญหา โดยตนจะขอเป็นหัวหน้าคณะทนาย ความต่อสู้คดี ด้วยตนเอง ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคเตรียมพรรคทางเลือกใหม่เป็นพรรคสำรองนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เตรียมการอะไรทั้งสิ้น
เพราะไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วงหรือต้องกังวล เป็นที่เป็นห่วงและรำคาญคือการที่นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นพร้อมบอกเล่าถึงเรื่องประชาธิปไตยของแต่ละประเทศ ทั้งที่ความจริงแล้วที่ความจริงแล้วนายมีชัยไม่รู้เรื่องประชาธิปไตยเลย เป็นอาจารย์สอนที่ไหน เป็นรัฐมนตรีก็รุ่นเดียวกับตน เข้าสู่เส้นทางการเมืองจากประชาธิปไตยครึ่งใบโดยไปเป็นประธานยกร่างกฎหมายเปิดทางให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกในสมัย รสช. จนเกิดเหตุการณ์นอเลือดพฤษภาทมิฬ จากนั้นนายมีชัยก็พยายามหาทางออกกฎหมายนิรโทษกรรม ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ
'ผมไม่อยากพูดวิพากษ์วิจารณ์ถึงคนอื่น ส่วนกรณีที่มีข่าว พล.อ.สนธิ ขอลูกนางสดศรีไปช่วยงานนั้น ผมไม่อยากพูดถึงเพราะเดี๋ยวโดนข้อหาหมิ่นเจ้าพนักงาน แต่ที่ต้องพูดถึงนายมีชัย เพราะว่ารำคาญมาแสดงความเห็น ป้ำๆเป๋อๆ แอ็คอาร์ท มาแสดงความเห็นให้บ้านเมืองสบสน ขอให้นายมีชัยกลับบ้านไปไสไม้ต่อตู้อยู่ที่บ้านดีกว่า 'ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ สั่งให้นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์พรรคประชาธิปัตย์ ์ถอนฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกเลือกตั้งเพื่อขอให้การเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นโมฆะว่า พรรคประชาธิปัตย์มาทำเป็นแสดงสปริต แต่ความจริงพึ่งรู้ว่าตัวเองพลาดไปเพราะฟ้องผิดศาล อย่างไรก็ตามพวกคดีความต่างๆไม่มีผลกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาล และไม่กลัวว่านายบรรหารจะเปลี่ยนใจเพราะเป็นคนรักเดียวใจเดียว ส่วนนายสุวิทย์ก็เป็นพี่น้องกัน แต่วันนี้มีการสร้าง ข่าวว่านายบรรหาร จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ถามหน่อยว่าเป็นสูตรไหนกัน ตนไม่อยากให้นายบรรหาร เข้าใจผิดๆ เพราะมเป็นไปไม่ได้
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีมีกลุ่มผู้ชุมนุมออกมากดดันหลังกกต.ให้ใบแดงส.ส.อุดรธานีว่า ขอยืนยันว่าพรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง คงไม่มีใครปัญญาทึบไปกดดัน อย่างไรก็ตามในพื้นที่ๆ ว่าที่ส.ส.พรรคพลังประชาชน ได้ใบเหลืองและมีการเลือกตั้งซ่อม พรรคจะตามไปเอาคืนให้หมดรวมถึงที่จ.เพชรบูรณ์ซึ่งเป็นพื้นที่ของ พรรคประชาธิปัตย์ด้วย ทั้งนี้การหาเสียงในพื้นที่ใบแดงพรรคพลังประชาชนพร้อมที่จะเทคะแนให้กับทุกพรรคการเมือง ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์