กรุงเทพฯ 11 ม.ค.- “วัฒนา อัศวเหม” ยืนยันพรรคเพื่อแผ่นดินยังเหนียวแน่นกับพรรคชาติไทย จะได้ข้อสรุปร่วมกันก่อนเปิดสภา 22 ม.ค. แน่ ระบุไม่กดดันเรื่องเลือกตั้งซ่อม แม้จะเข้าร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้ถือเป็นเงื่อนไข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.10 น. วันนี้ (11 ม.ค.) นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน พร้อมด้วยนายวัฒนา อัศวเหม ประธานพรรค นายวชิระมณฑ์ คุณะเกษมธนาวัฒน์ โฆษกพรรค นายพินิจ จารุสมบัติ และนายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ อดีตกรรมการสภานโยบายและยุทธศาสตร์ ได้เดินทางมาร่วมงาน และทำบุญครบรอบวันคล้ายวันเกิด ปีที่ 80 ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
จากนั้น นายสุวิทย์ ปฏิเสธที่จะตอบข้อถามเกี่ยวกับความคืบหน้าในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยอ้างว่า วันนี้ถือเป็นวันดี ไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม นายสุวิทย์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้มีการจัดเตรียมคณะทำงานด้านกฎหมายที่พร้อมจะส่งเสริมด้านศาสนาพุทธ ให้ได้รับการดูแลจากรัฐบาล เมื่อถามว่า จำเป็นจะต้องมีรัฐมนตรีมากำกับดูแลด้วยใช่หรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะ ส.ส.ของพรรคสามารถทำงานตรงนี้ได้ ส่วนการเลือกตั้งซ่อมที่จะมีขึ้นเร็ว ๆ นี้ นายสุวิทย์ มั่นใจว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะดำเนินการให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม
ด้านนายวัฒนา กล่าวถึงความคืบหน้าการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคชาติไทย ว่า พรรคเพื่อแผ่นดินกับพรรคชาติไทย มีการพูดจากันโดยตลอด แต่การพูดคุยกันต้องใช้เหตุผลคุยกันเป็นสำคัญ เรื่องนี้จะรีบร้อนไม่ได้ เพราะขณะนี้บ้านเมืองเราอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ ไม่ควรดำเนินการทางการเมือง การพูดคุยของทั้ง 2 พรรค ต้องรอดูความเหมาะสมของเงื่อนเวลาก่อน แต่ยืนยันยังเหนียวแน่นกันดี
“ที่ผ่านมา ก็มีเทียบเชิญแล้ว คุยก็คุยกันแล้ว เมื่อเราตกลงกันแล้ว ก็มีข้อสำคัญที่จะต้องยึดถือ คือเรื่องสัจจะนิยม เรื่องนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ผมยืนยันว่า พรรคเพื่อแผ่นดินกับพรรคชาติไทย ยังเหนียวแน่นกันอยู่ เมื่อพรรคเพื่อแผ่นดินพูดอะไรออกไปแล้ว จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง” นายวัฒนา กล่าว
นายวัฒนา ให้ความมั่นใจว่า จะมีผลการหารือร่วมกับพรรคชาติไทย ทันก่อนการเปิดประชุมสภา ในวันที่ 22 มกราคม นี้แน่นอน ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการเมือง แต่ในทางปฏิบัติ การเมืองในขณะนี้ยังไม่มีข้อยุติ โดยเฉพาะ กกต.ยังรับรองจำนวน ส.ส.ไม่ครบ ดังนั้น กกต.จะต้องให้การรับรองว่าที่ ส.ส.ให้ครบตามรัฐธรรมนูญที่ได้กำหนดไว้ เมื่อเปิดสภาแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการเลือกประธานรัฐสภา และสุดท้ายจะถึงขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ปัญหาตรงนี้จะมีผลต่อการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคหรือไม่ นายวัฒนา กล่าวว่า ในทางปฏิบัติแล้ว ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง เราจำเป็นต้องติดตามผล แต่ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะหน้าที่โดยตรงจะเป็นหน้าที่ของ กกต. และพรรคการเมืองที่ถูกกล่าวหา ดังนั้น พรรคการเมืองที่ดีที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือก้าวก่ายในเรื่องดังกล่าว
ต่อข้อถามว่า ในฐานะที่พรรคเพื่อแผ่นดินจะร่วมจัดตั้งรัฐบาล จะส่งผลกดดันต่อการเลือกตั้งซ่อมที่จะมีขึ้นในหลายพื้นที่หรือไม่ นายวัฒนา กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นประธานพรรค พรรคไม่เคยกดดัน และไม่เคยนำมาคิดเป็นกังวล ทุกอย่างเราจะต้องปฏิบัติไปตามหน้าที่ ที่สำคัญเราจำเป็นต้องถามผู้สมัครของพรรคว่า พร้อมที่จะลงแข่งขันหรือไม่ หากไม่พร้อมที่จะลงแข่งจัน พรรคจะต้องสอบถามเหตุผล
“เรื่องนี้ไม่มีความกังวลใจเลย สบายใจมาก การเข้าร่วมรัฐบาลกับการเลือกตั้งซ่อม ยืนยันว่า ไม่กระทบกันอย่างแน่นอน เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกติกา ส่วนเรื่องการเทคะแนนให้กัน ต้องมีบางกรณีที่ทำกัน แต่เวลานี้ไม่มีใครติดต่อเข้ามา” นายวัฒนา กล่าว
ส่วนกรณีที่มีม็อบในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ นายวัฒนา กล่าวว่า ต้องการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล มั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะสามารถชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุมได้.-สำนักข่าวไทย