WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, January 11, 2008

ศาลฎีกายกคำร้องว่าที่ ส.ส.บุรีรัมย์ พปช.ร้องระงับ กกต.จัดเลือกตั้งเขต 1

ศาลฎีกา 11 ม.ค. - ศาลฎีกา ยกคำร้องว่าที่ ส.ส.บุรีรัมย์ ใบแดง พปช. ฟ้องระงับ กกต.จัดเลือกตั้งเขต 1 ใหม่ ศาลชี้รัฐธรรมนูญ 239 วรรค 1 ให้อำนาจเบ็ดเสร็จ กกต.สอยว่าที่ ส.ส.ที่ยังไม่ได้รับรองสิทธิ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (11 ม.ค.) ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง มีคำสั่งยกคำร้องคดีเลือกตั้ง หมายดำเลขที่ ลต.4/2551 ที่นายพรชัย ศรีสุริยันตโยธิน นายรุ่งโรจน์ ทองศรี และนายประกิจ พลเดช ว่าที่ ส.ส.เขต 1 จังหวัดบุรีรัมย์ พรรคพลังประชาชน ที่ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจกใบแดงและตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 1 ปี ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาเพิกถอนคำสั่ง กกต.ที่ตัดสิทธิเลือกตั้ง และมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ระงับการประกาศ กกต.ที่จะให้มีการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดบุรีรัมย์ ใหม่ และให้ กกต.ประกาศรับรองว่าได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต 1 จังหวัดบุรีรัมย์

โดยศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.พ.ศ.2550 ส่วนที่ 10 การดำเนินการกรณีการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ม.103-133 บัญญัติกรณีก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง ถ้า กกต.ดำเนินการสืบสวนสอบสวนแล้วเห็นว่าการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและมีอำนาจที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้สมัครผู้ใด แต่ถ้าประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว กกต.เห็นว่าการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้ กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ ส.ส.หรือผู้สมัครผู้ใด และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ม. 239ว รรค1 บัญญัติว่า “ในกรณีที่ กกต.วินิจฉัยให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งก่อนการประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.หรือ ส.ว.ให้คำวินิจฉัยของ กกต.เป็นที่สุด”

ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 ให้ กกต.เป็นผู้ควบคุมและดำเนินการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม โดยก่อนการประกาศผลการเลือกตั้งให้ กกต.มีอำนาจสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้สมัครผู้ใด ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ม.239 วรรค 1 บัญญัติให้วินิจฉัยในกรณีนี้ ซึ่งต่างกับในกรณีที่ประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว ถ้า กกต.เห็นว่าควรให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ผู้ใด รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. บัญญัติให้ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยเสียก่อน

กรณีของผู้ร้องทั้งสาม ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดบุรีรัมย์ ปรากฏข้อเท็จจริงตามคำร้องว่า ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.บุรีรัมย์ กกต.ได้มีมติให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้ร้องทั้งสามเป็นเวลา 1 ปี และให้มีการเลือกตั้งใหม่ ดังนั้น คำวินิจฉัยของ กกต.ดังกล่าวย่อมเป็นที่สุด ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย ม. 239 วรรคหนึ่ง การที่ผู้ร้องทั้งสามอ้างว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งกระทำผิดกฎหมาย เลือกปฏิบัติโดยมิชอบใช้ดุลยพินิจแตกต่างกัน และคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นการร้องขอให้ศาลฎีกาตรวจสอบอำนาจการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้ร้องทั้งสามก่อนประกาศผลการเลือกตั้งของ กกต. ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจการพิจารณาวินิจฉัยของศาลฎีกา ผู้ร้องทั้งสามจึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องคดีนี้ จึงมีคำสั่งยกคำร้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพรชัย นายรุ่งโรจน์ และนายประกิจ เดินทางมาเซ็นรับทราบคำสั่ง ก่อนจะเดินทางกลับ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด.- สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2008-01-11 18:20:00